เรื่อง Planking ในประเทศไทย เกิดขึ้นเร็ว แต่ไม่ได้มีแต่คนเห็นดีเห็นงามไปซะหมด Planking ถูกแปลความหมายกลายเป็น “แผลงกิ้ง” หลายคนมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ อันตราย หาเรื่องเจ็บตัว จนเกิด Anti-Planking ด้วยข้อความฟอร์เวิร์ดทางแบล็คเบอร์รี่ หรือแสดงความเห็นบนโซเชี่ยลมีเดีย ที่เด่นชัดและรวมตัวเป็นกลุ่มก้อนได้มากที่สุดคงจะเป็น แฟนเพจ “พับเพียบ ไทยแลนด์” ที่ใช้เวลาแค่ 3 วันก็เติบโตมีสมาชิกมากกว่า 150,000 คน แอดมินผู้ก่อตั้งเพจได้รับเชิญไปแสดงความคิดเห็นในหลายสื่อ
นอกจากจะมีท่าพับเพียบเป็นท่าฮิตต่อจาก Planking แล้ว ยังมี Levitating (การต้านแรงโน้มถ่วง) หรือการลอยตัวอยู่กลางอากาศพร้อมกับการทำท่าทาง หน้าตาราวกับไม่ได้กระโดดอยู่ สุดยอดผู้นำเทรนด์ Levitating ก็คือ Natsumi Hayashi สาวญี่ปุ่น ที่โพสต์ภาพการลอยตัวของตัวเองลงเว็บไซต์ yowayowacamera.com กับทวิตเตอร์ทุกวัน ซึ่งว่าจะมาเป็นตัวอย่าง Levitating สวยๆ ที่เห็นกันเกลื่อนในอินเทอร์เน็ต บางภาพเธอต้องกระโดดถึง 300 ครั้ง ในประเทศไทยเว็บไซต์ http://www.levitating.in.th ก็ถือกำเนิดขึ้นเพื่อรองรับกระแสคนชอบโดดแบบเนียนๆ กับเขาเหมือนกัน
นอกเหนือจาก 3 ท่ายอดฮิต ที่เหมาะสำหรับโพสต์เพื่อถ่ายภาพแล้วแชร์ในช่วงนี้แล้ว ยังมีท่าอื่นๆ ที่ดังไม่แพ้กัน เช่น ไหว้, ยกมือไหว้, สวัสดี เซตนี้น่าจะเป็นการทำเพื่อรณรงค์วัฒนธรรมไทย ส่วน Doll Planking จับตุ๊กตามาแพลงกิ้งแทนคน