ยุคนี้อะไร ๆ ก็แพงขึ้น รวมไปถึง ‘รถยนต์’ และพุ่งขึ้นอย่างแรงใน ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ โดยเทียบกับปีที่ผ่านมา ราคาของรถอีวีเพิ่มขึ้น 14% เทียบกับมิถุนายนปีก่อน และหนึ่งในแบรนด์ที่มีการปรับราคาสินค้าก็คือ เทสลา (Tesla) อย่างไรก็ตาม ซีอีโออย่าง อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ก็ออกมาบอกว่า เขาจะลดราคาหากปัญหาเงินเฟ้อสงบลง
หากนับเฉพาะปีนี้ รถยนต์ไฟฟ้าเทสลาก็ปรับราคาในตลาดสหรัฐฯ และจีนแล้วถึง 3 รอบ โดยครั้งแรกปรับในเดือน มี.ค. ครั้งที่ 2 ในช่วงเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา และครั้งที่ 3 ในช่วงเดือนมิ.ย. เนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อส่งผลกระทบต่อวัตถุดิบและต้นทุนการขนส่ง โดยที่ผ่านมา
- Model X ปรับขึ้น 6,000 ดอลลาร์ เป็น 120,990 ดอลลาร์
- Model S ปรับขึ้น 5,000 ดอลลาร์ เป็น 104,990 ดอลลาร์
- Model Y ปรับขึ้น 2,000 – 3,000 ดอลลาร์ เป็น 65,990 ดอลลาร์
- Model 3 ปรับขึ้น 2,500 ดอลลาร์ เป็น 57,990 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม อีลอน มัสก์ ซีอีโอ เทสลา กล่าวในทวีตเมื่อวันศุกร์ว่า “บริษัทสามารถลดราคาได้หากอัตราเงินเฟ้อเบาบางลง” ขณะที่สำนักสถิติแรงงานรายงานอัตราเงินเฟ้อสูงกว่าคาดในสัปดาห์นี้ โดยดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 9.1% จากปีที่แล้ว
ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ทำให้มัสก์ต้องปรับราคาสินค้าขึ้นเท่านั้น แต่เขาได้กล่าวในเดือนมิถุนายนก่อนการขึ้นราคารถอีกครั้งว่า เขารู้สึกแย่มากเกี่ยวกับเศรษฐกิจและจะต้องลดตำแหน่งงาน 10%
‘อีลอน มัสก์’ กังวลเงินเฟ้อกดดัน Tesla-SpaceX พิษสงครามทำต้นทุนวัตถุดิบ-ขนส่งพุ่ง
ทั้งนี้ หากเทียบกับรถยนต์สันดาป รถอีวียังคงมีราคาที่สูงกว่า นอกจากนี้ราคายังขึ้นเร็วกว่ามาก โดยข้อมูลจาก Kelley Blue Book ระบุว่าราคารถอีวีเมื่อเดือนมิถุนายน 2022 มีราคาเฉลี่ยที่ 66,997 เหรียญต่อคัน (ประมาณ 2.45 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 14% เทียบกับมิถุนายนปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่เทสลากำลังเจอปัญหาด้านวัตถุดิบ อย่างในไทยเองค่าย GWM ก็เปิดเผยว่าสำหรับรถอีวีนำเข้าอย่าง Ora Good Cat ล็อตต่อไปก็จะมีการปรับราคาขึ้น เนื่องจากปัญหาราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นโดยเฉพาะวัตถุดิบในการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ที่คิดเป็น 40% ของต้นทุนรถทั้งคัน
‘GWM’ หั่นเป้าเหลือ 1.2 หมื่นคัน พร้อมจ่อขึ้นราคา ‘Ora Good Cat’ หลังของขาด-ต้นทุนพุ่ง
