ภาวะวิกฤตการบินพาณิชย์ ทำให้ผู้โดยสารที่มีกำลังซื้อเริ่มหาวิธีใหม่ในการเดินทางด้วยเที่ยวบิน “กึ่งไพรเวตเจ็ต” บินด้วยเครื่องบินส่วนตัวที่แชร์การเดินทางกับผู้โดยสารอื่นรวม 30 ที่นั่ง ประหยัดกว่าการเหมาลำ เพราะจ่ายในราคาเท่ากับที่นั่งชั้นธุรกิจ
ดาต้าจาก FlightAware ระบุว่า เป็นเวลาหลายสัปดาห์ติดต่อกันแล้วที่มีไฟลท์บินยกเลิกทุกวันทั่วโลก จำนวนไฟลท์ยกเลิกสะสมกว่า 2,000 เที่ยวบิน และไฟลท์ดีเลย์สะสมอีกกว่า 25,000 เที่ยวบิน วิกฤตแถวเช็กอินยาวเหยียดในสนามบินและกระเป๋าสัมภาระหายกลายเป็นข่าวไวรัลตลอดเวลา ผู้เชี่ยวชาญยังระบุอีกว่า ปัญหาเหล่านี้น่าจะยังดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง
รวมถึงในสหรัฐอเมริกา ปัญหาเหล่านี้ไม่ต่างจากที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะที่สนามชาร์ล็อตต์/ดักลาส รัฐนอร์ธ แคโรไลนา และสนามบินแฮร์รี่ รีด เมืองลาส เวกัส อัตราไฟลท์ดีเลย์มีถึง 38% และ 32% ตามลำดับ
เมื่อการเดินทางปกติช่างยากลำบาก ผู้โดยสารจึงเริ่มมองหาวิธีการอื่นที่สะดวกกว่า เป็นโอกาสของบริษัทสายการบิน JSX ที่เข้ามาตอบโจทย์ได้พอดี
JSX เป็นหนึ่งในสายการบินอเมริกันที่บริการการบินแบบ “กึ่งไพรเวตเจ็ต” (semi-private jet) ในสหรัฐฯ การบินแบบนี้คือการแชร์ที่นั่งบนเครื่องบินเจ็ตกับผู้โดยสารกลุ่มอื่น ไม่ต้องเหมาลำเฉพาะกลุ่มของตนเอง ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า ขณะที่ได้รับความสะดวกแบบเดียวกัน มีเทอร์มินัลจอดเครื่องบินส่วนตัว ไม่ต้องผ่านการเช็กอินยาวเหยียด ใช้เวลาเพียง 20 นาทีก็จบกระบวนการบอร์ดดิ้ง จึงไม่ต้องเสียเวลาและปวดหัวกับคนจำนวนมากในสนามบิน
“คนเรามักจะมองว่าตนเองจะต้องเลือกระหว่างการบินบนเครื่องบินทั่วไปโดยจ่ายเงินหลักร้อยดอลลาร์ หรือเลือกไพรเวตเจ็ตที่ต้องเหมาลำด้วยค่าใช้จ่ายหลักหมื่นดอลลาร์ ในอดีตที่ผ่านมา ไม่เคยมีตัวเลือกที่อยู่ตรงกลางระหว่างสองสิ่งนี้เลย จนกระทั่งเราเข้ามาให้บริการ” อเล็กซ์ วิลค็อกซ์ ซีอีโอของ JSX กล่าว โดยสายการบินนี้ใช้เครื่องบิน Embraer ขนาด 30 ที่นั่งไว้ให้บริการ
เส้นทางบินของ JSX เชื่อมต่อ 18 เมืองในสหรัฐฯ เช่น ลอสแอนเจลิส, ลาส เวกัส, พอร์ตแลนด์, ไมอามี และมีราคาเฉลี่ย 199 เหรียญสหรัฐต่อเที่ยว (ประมาณ 7,100 บาท) หรือใกล้เคียงกับที่นั่งชั้นธุรกิจ แต่ละเส้นทางมีตารางบินแน่นอนให้จองที่นั่งได้ บางเส้นทางทำการบินทุกวัน
JSX เปิดตัวในปี 2016 และเหมือนกับทุกธุรกิจการเดินทาง บริษัทล้มลุกคลุกคลานมากในช่วง COVID-19 ระบาดหนัก แต่เมื่อการเดินทางกลับฟื้นตัว บริษัทนี้ได้ประโยชน์ยิ่งกว่าสายการบินใหญ่เพราะตอบสนองลูกค้าได้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นผู้โดยสารที่กังวลการติดเชื้อในที่แออัดบนเครื่องบินทั่วไป หรือผู้โดยสารที่กังวลเรื่องความเครียดในการเดินทางที่เกิดขึ้นอยู่ขณะนี้
“ปัจจุบันการเติบโตของเรามีแรงขับเคลื่อนมาจากความกังวลด้านสุขภาพจิตด้วย” วิลค็อกซ์กล่าว
การบินแบบกึ่งไพรเวตเจ็ต ผู้โดยสารจะได้ที่นั่งขนาดใหญ่แบบที่นั่งชั้นธุรกิจ บริการขนม-เครื่องดื่มบนเครื่องบิน และสิทธิโหลดกระเป๋าสัมภาระ 2 ชิ้น การเทรนนิ่งด้านความปลอดภัยของลูกเรือนั้นก็ไม่แตกต่างจากเครื่องบินพาณิชย์ทั่วไป ทำให้ทางเลือกนี้น่าสนใจ
“เมื่อก่อนการเข้าถึงเทอร์มินัลส่วนตัวนั้นเป็นดั่งอภิสิทธิ์ของอภิมหาเศรษฐี แต่วันนี้เราค้นพบหนทางในการสร้างตลาดเพื่อให้คน 30 คนเข้ามาแชร์เครื่องบินส่วนตัวร่วมกัน ทำให้การขึ้นเครื่องบินส่วนตัวทำราคาได้เข้าถึงง่ายมากขึ้น” วิลค็อกซ์กล่าว