สมาร์ทโฟนแบรนด์ Realme ต้องยอมลดเป้าเติบโตใน “จีน” ลงจาก 50% เหลือ 30% หลังจากเศรษฐกิจจีนสะดุดเพราะการล็อกดาวน์ระลอกใหม่ ขณะที่เป้าเติบโตในตลาดต่างประเทศยังคงไว้ที่ 50% แต่ตลาดหลักอย่าง “อินเดีย” ยังต้องจับตา เนื่องจากนโยบายรัฐเพ่งเล็ง อาจ “แบน” บริษัทจีนที่ขายมือถือราคาต่ำเกินไป
Madhav Sheth รองประธานบริษัทและหัวหน้าฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ Realme เปิดเผยว่า บริษัทมีการปรับเป้าการเติบโตในปีนี้ จากสถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนไป
“สิ่งสำคัญที่สุดคือเรายังโตอยู่ในบางตลาด ไม่ได้โตเร็วเท่าที่เราคาด แต่แน่นอนว่าเราจะโตต่อไป” Sheth กล่าว
Realme เป็นบริษัทที่เพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2018 และมี Oppo เป็นผู้ผลิตให้ ก่อนหน้านี้แบรนด์ตั้งเป้ายอดขายทั่วโลกปี 2022 จะเติบโตถึง 50% เพื่อให้การเติบโตยังเท่าๆ กับที่ทำได้เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทสามารถทำยอดขายได้สูง ส่งมอบสมาร์ทโฟนไป 60 ล้านเครื่องทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ประเทศจีนเกิดการระบาดระลอกใหม่ของโรค COVID-19 และทำให้เกิดการล็อกดาวน์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ Realme ต้องยอมลดเป้าการขายในประเทศลง เป้าเติบโตลดจาก 50% เหลือ 30% แต่เป้าหมายการเติบโตต่างประเทศยังคงไว้ที่ 50%
อุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนนั้นกำลังเผชิญกับปัจจัยลบหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นกระแสเศรษฐกิจมหภาคที่เป็นขาลง ความขัดแย้งในภูมิศาสตร์การเมือง และการดิสรัปต์ของซัพพลายเชนการผลิตซึ่งเกิดจากโรคระบาด
ตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดของโลกก็เผชิญปัญหาเดียวกัน ทำให้กำลังซื้อผู้บริโภคต่ำลง และส่งให้แบรนด์สมาร์ทโฟนจีนต้องหาทางหารายได้ทดแทนจากต่างประเทศให้มากขึ้น
ตลาด “อินเดีย” อาจไม่ราบรื่น
อินเดียนั้นเป็นประเทศแรกๆ ที่ Realme เข้าไปทำตลาด และต่อมาถือเป็นหนึ่งในตลาดหลัก จากฐานผู้บริโภควัยหนุ่มสาวมีความต้องการสินค้าราคาประหยัด ตรงกับพอร์ตของแบรนด์
IDC บริษัทวิจัยตลาดออกผลสำรวจเมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2022 พบว่า แบรนด์ Realme ถือเป็นสมาร์ทโฟนอันดับ 2 ของอินเดีย โดยเฉพาะไตรมาส 2/2022 มีการส่งมอบไป 6.1 ล้านเครื่อง เติบโต 23% จากปีก่อนหน้า และเป็นแบรนด์ที่โตเร็วที่สุดในกลุ่ม Top 5 สมาร์ทโฟนขายดีในอินเดีย
ขณะที่บริษัทวิจัยตลาดอีกแห่งหนึ่งคือ Canalys ออกผลสำรวจเมื่อเดือนก.ค. 2022 จัดอันดับให้ Realme ยังอยู่ในอันดับ 3 รองจากอันดับ 1 คือ Samsung และอันดับ 2 คือ Xiaomi
อย่างไรก็ตาม บริษัทจีนกำลังเผชิญปัญหาในตลาดอินเดียที่ถือเป็นตลาดสมาร์ทโฟนขนาดใหญ่อันดับสองของโลก เพราะจากการรายงานของสำนักข่าว Bloomberg ระบุว่า รัฐบาลอินเดียกำลังเพ่งเล็งบริษัทสมาร์ทโฟนจีน และอาจจะเริ่ม “แบน” ผู้ผลิตจีนที่ขายสมาร์ทโฟนในราคาต่ำกว่า 12,000 รูปีต่อเครื่อง (ประมาณ 5,300 บาท) เพราะต้องการผลักดันพลิกฟื้นอุตสาหกรรมการผลิตของอินเดียที่ถดถอยลงในช่วงที่ผ่านมา
ขณะนี้ปรากฏชื่อแบรนด์สมาร์ทโฟนจีนที่จะถูกสืบสวนโดยเจ้าหน้าที่รัฐอินเดีย เช่น Xiaomi, Huawei Technologies และ Vivo (แบรนด์พี่น้องอีกแบรนด์หนึ่งของ Realme)
ทั้งนี้ Sheth ระบุว่า Realme ยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการจากรัฐอินเดียว่าจะมีการแบนเกิดขึ้น และบริษัทพูดคุยกับเจ้าหน้าที่รัฐอยู่เสมอ
Realme ลงทุนเพิ่มในอินเดียเพื่อเลี่ยงถูก “แบน”
แม้ว่าจะมีความท้าทาย แต่ Realme ได้วางแผนจะเพิ่มการลงทุนสายการผลิตในอินเดีย เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐที่ต้องการให้สินค้า “Made in India” มีเพิ่มมากขึ้น
ก่อนหน้านี้บริษัทมีการลงทุนไปแล้ว 3.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 120 ล้านบาท) เพื่อผลิตหูฟังในอินเดีย ซึ่งทำให้มีการจ้างงานคนในท้องถิ่นมากกว่า 1,000 ตำแหน่ง
“ภายในสิ้นปีนี้ เราตั้งเป้าว่าทั้งอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ (เช่น สมาร์ทวอชต์) และอุปกรณ์การฟัง จะผลิตในท้องถิ่นอินเดียได้ 100% และเราจะเริ่มการผลิตแทบเล็ตในอินเดียด้วย” Sheth กล่าว
นอกจากตลาดอินเดียที่ Realme ต้องยึดไว้ให้มั่น แบรนด์ยังมีเป้าจะขยายตลาดในประเทศบ้านเกิดให้ได้มากขึ้น รวมถึงตลาดยุโรปที่แบรนด์ต้องการจะเปลี่ยนภาพลักษณ์เป็นสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ ลบภาพการเป็นแบรนด์ราคาประหยัดให้ได้
ขณะนี้ Realme เป็นสมาร์ทโฟนขายดีอันดับ 5 ในยุโรป ในไตรมาส 2/2022 แบรนด์เติบโตได้ถึง 21% ตามการรายงานของ Counterpoint Research
บริษัทยังไม่ย่อท้อต่อแผนการเปลี่ยนตนเองเป็นสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ แม้ว่าจะมีความท้าทายมากมาย “ความปรารถนาของเราที่จะเติบโตในเซ็กเมนต์นี้มีสูงมาก แม้ว่าจะอยู่ในห้วงของการเริ่มต้นดิสรัปชันทั้งดีมานด์ของผู้บริโภคและตลาดก็ตาม” Sheth กล่าว