“Tecnogas” ผู้ท้าชิง Smeg ดึง “นุ้ย-สุจิรา” พรีเซ็นเตอร์คนแรก สร้างแบรนด์ให้ติดหูผู้บริโภคยุคออนไลน์

Tecnogas เทคโนแกส
เมื่อบริษัทเล็งเห็นว่าการสร้าง brand awareness จะสำคัญมากขึ้นในระยะยาว ทำให้ “Tecnogas” (เทคโนแกส) ที่อยู่ในตลาดมานาน 30 ปี ต้องลุกขึ้นมาปั้นแบรนด์ โดยเลือก “นุ้ย-สุจิรา อรุณพิพัฒน์” เป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกในไทย ช่วยสื่อสารให้ชัดว่าเทคโนแกสคือแบรนด์ “เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว” สู้กับคู่แข่งอย่าง Smeg, Teka หรือ Franke

“เราเคยถูกผู้บริโภคเข้าใจผิดว่าเป็นแบรนด์ขายแก๊สด้วยครับ” กฤตนันท์ สนธิจิรวงศ์ ซีอีโอ บริษัท เดอะซิกเนเจอร์ แบรนด์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในไทย กล่าวกับผู้สื่อข่าว ถือเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เห็นได้ชัดว่าชื่อของ Tecnogas (เทคโนแกส) อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และถึงแม้จะยังทำยอดขายได้อยู่ แต่ในอนาคตระยะยาวนี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดีนัก

Tecnogas เป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวจากอิตาลี อายุแบรนด์ยาวนานกว่า 60 ปี โดยบริษัท เดอะซิกเนเจอร์ แบรนด์ เป็นผู้นำเข้ามาตั้งแต่เมื่อ 30 ปีก่อน ถือเป็นแบรนด์ระดับกลางบน อยู่ในเทียร์เดียวกับสินค้าในครัวยี่ห้อ Smeg, Teka หรือ Franke เน้นการขายผ่านโมเดิร์นเทรดเป็นหลัก เช่น โฮมโปร, ไทวัสดุ, บุญถาวร, โกลบอลเฮาส์, เมกาโฮม, ดูโฮม และดีลเลอร์ชั้นนำในต่างจังหวัด

Tecnogas
ฮีโร่โปรดักส์ของ Tecnogas เป็นเตาแก๊สแบบ Free Standing ที่มีเตาอบอยู่ด้านล่าง

สินค้าของ Tecnogas ครอบคลุมตั้งแต่สินค้า เตาแก๊ส เตาไฟฟ้า เตาอบ เครื่องดูดควัน อ่างล้างจาน เครื่องล้างจาน ฯลฯ แต่ที่ขายดีที่สุดในไทย คือกลุ่มเตาแก๊ส เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจาน โดยมีเตาอบเป็นสินค้ามาแรงในช่วง COVID-19 จากเทรนด์ฮิตในการทำเบเกอรีทานเองและทำขายในช่วงเกิดโรคระบาด

 

เลือก “นุ้ย-สุจิรา” ช่วยสร้างแบรนด์ให้ติดหู

กฤตนันท์กล่าวว่า จากการเก็บข้อมูลตลาดภายในบริษัทพบว่าแบรนด์ Tecnogas ถือว่าขายดีอันดับ 1 ในเทียร์เดียวกัน มีแบรนด์ Smeg ที่เป็นอันดับ 2 แต่ยอดขายไล่เลี่ยกันมาก

ที่ผ่านมาการตลาดของบริษัทจะเน้นไปที่เซลส์ ณ จุดขาย เพราะสามารถจูงใจผู้บริโภคได้ดี แต่ในยุคนี้วิธีตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปแล้ว

“เราต้องทำการตลาดช่องทางอื่นเพิ่ม เพราะลูกค้าที่เดินเข้ามาวันนี้เขาจะรีเสิร์ชหาข้อมูลทางออนไลน์มาก่อน ถ้าเราไม่มี brand awareness ถ้าเขาไม่รู้จักเรา พอถึง ณ จุดขายเขาก็จะตัดสินใจเลือกแบรนด์ที่เขารู้จักมากกว่า” กฤตนันท์กล่าว

กฤตนันท์ สนธิจิรวงศ์ ซีอีโอ บริษัท เดอะซิกเนเจอร์ แบรนด์ จำกัด และ นุ้ย-สุจิรา อรุณพิพัฒน์ พรีเซ็นเตอร์คนแรกของ Tecnogas

เป็นที่มาที่ทำให้บริษัทเลือกตั้งพรีเซ็นเตอร์แบรนด์ Tecnogas คนแรกของไทยคือ “นุ้ย-สุจิรา อรุณพิพัฒน์” ซึ่งเธอได้รับเลือกเพราะ

1.ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ ซึ่งต้องการเจาะตั้งแต่คนรุ่นเพิ่งสร้างครอบครัววัย 30 กว่าปี ไปจนถึงวัยคุณพ่อคุณแม่รุ่นใหญ่อายุ 50 ปีขึ้นไป จึงต้องการคนดังที่ทั้งสองเจนเนอเรชันรู้จัก

2.นุ้ย-สุจิรา ชอบการทำอาหาร และทำอาหารอย่างมีความสุข สนุกสนาน เป็นคาแรกเตอร์ที่ต้องการ

3.เธอเป็นลูกค้าแบรนด์อยู่แล้ว เป็นคนเดียวในการคัดเลือกพรีเซ็นเตอร์ที่เป็นผู้ใช้จริง ซึ่งจะช่วยเพิ่มน้ำหนักความน่าเชื่อถือได้ดี

กฤตนันท์ขอไม่เปิดเผยงบการทำการตลาด แต่จะได้เห็นการลงทุนที่มากขึ้นเพื่อเป้าหมายทำให้ Tecnogas เป็นที่รู้จักในฐานะแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวจากอิตาลี เน้นเรื่องฟังก์ชันการใช้งาน ความแข็งแรง ทนทานสูง

 

ขยายแบรนด์เพิ่ม เก็บหมดตั้งแต่บัดเจ็ทถึงไฮเอนด์

นอกจาก Tecnogas แล้ว กฤตนันท์เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาบริษัทยังมีการพัฒนาแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวของตนเองด้วย โดยใช้ชื่อที่ล้อตามแบรนด์จากอิตาลี ทำให้พอร์ตสินค้าของเดอะซิกเนเจอร์ แบรนด์แบ่งได้ 3 ระดับ คือ

  • Tecnogas (เทคโนแกส) สินค้าตลาดกลางบน มีหลากหลายผลิตภัณฑ์
  • Tecno+ (เทคโนพลัส) สินค้าตลาดกลาง เน้นจุดขายเตาแก๊สไฟแรงสำหรับครัวไทย-จีน
  • Tecno* (เทคโนสตาร์) สินค้าตลาดบัดเจ็ท เน้นมีคุณภาพแต่ราคาประหยัด
Tecnogas
ตัวอย่างสินค้าที่ลงมาสู้ตลาดระดับกลางถึงบัดเจ็ท: ด้านบนเป็นเตาแก๊สแบบฝังเฟอร์นิเจอร์ Tecno+ ราคา 11,900 บาท ด้านล่างเป็นเตาแก๊สแบบตั้งโต๊ะ Tecno* ราคา 2,990 บาท

รวมถึงบริษัทกำลังก่อสร้างโชว์รูมแห่งใหม่ในชื่อ “Cucina Galleria” (คูซิน่า แกลเลอเรีย) ที่จะเป็นแหล่งรวบรวมสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวระดับไฮเอนด์หลากหลายแบรนด์ เน้นเรื่องงานดีไซน์ที่แตกต่าง เจาะตลาดลูกค้าที่ใส่ใจการตกแต่งภายใน โชว์รูมใหม่นี้จะตั้งอยู่ในบ้านเก่าอายุ 150 ปีย่านสาทร พื้นที่ราว 200-300 ตร.ม. เตรียมเปิดตัวในอีก 2 เดือนข้างหน้า

กฤตนันท์ระบุว่ายอดขายของบริษัทรวมทุกแบรนด์เมื่อปีก่อนอยู่ที่ประมาณ 800-900 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วน 35% มาจากเทคโนแกส 35% จากเทคโนพลัส และอีก 30% ที่เหลือคือเทคโนสตาร์ สินค้าไฮเอนด์ และสินค้าอื่นๆ ที่บริษัทมีจำหน่าย เช่น เครื่องกรองน้ำ

เครื่องดูดควัน อีกกลุ่มสินค้าชูโรงของเทคโนแกส

ช่องทางส่วนใหญ่ยังเป็นการขายโมเดิร์นเทรด ส่วนการขายเข้าโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบ B2B ยังมีสัดส่วนไม่ถึง 10% เพราะบริษัทเพิ่งเริ่มทำตลาดกลุ่มนี้ได้ไม่นาน

สำหรับสถานการณ์ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว เมื่อปี 2564 รายได้ของบริษัทเติบโตได้เกือบ 10% ถือว่าขายดีมากตามเทรนด์คนไทยอยู่บ้านมากขึ้น ทำอาหารกันมากขึ้น สินค้าบางตัวถูกจองไว้หมดตั้งแต่เรือขนส่งยังมาไม่ถึงไทย ในปี 2565 บริษัทมีเป้าที่จะโต 10% อีกครั้ง แต่ก็ยอมรับว่ามีหลายปัจจัยลบ เช่น ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายจากภาวะเศรษฐกิจ, คนไทยกลับไปใช้ชีวิตปกติ ทำอาหารน้อยลง และต้นทุนการนำเข้าสินค้าสูงขึ้น

“ช่วงครึ่งปีแรกเราเริ่มเห็นสัญญาณแล้วว่ายอดขายลดลง” กฤตนันท์กล่าว “ครึ่งปีหลังต้องจับตาดูว่าตลาดระดับกลางจะเริ่มลดการใช้จ่ายเหมือนกับกลุ่มบัดเจ็ทหรือไม่ ถ้าหากเกิดขึ้นเราอาจจะต้องเน้นทำตลาดกลุ่มกลางบนจนถึงไฮเอนด์เป็นหลักแทน”