เงินเฟ้อคือโอกาส ใครไม่คว้าปู่ Warren Buffett ขอคว้าไว้เอง

โดย ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO Jitta Wealth

เมื่อไม่กี่วันมานี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ​ (Fed) ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวดเดียว 0.75% อีกครั้งตามที่ตลาดคาดการณ์เป็นการปรับขึ้นที่ระดับ 0.75% ต่อเนื่องถึง 3 ครั้งแล้วและส่งสัญญาณจะปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องเพื่อเป้าหมายในการกดเงินเฟ้อลงสู่ระดับ 2%

ไม่ใช่แค่สหรัฐฯ เท่านั้น หลายประเทศได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นว่าเล่นเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อเช่นกัน

แต่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ครั้งนี้ทำเอาตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงหนักลงไปอีก ส่งแรงกระเพื่อมถึงตลาดหุ้นทั่วโลกนักลงทุนกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed จะเร่งให้เกิดเศรษฐกิจถดถอยแถมเงินเฟ้อแบบนี้เงินเราจะงอกเงยได้อย่างไร ออกอาการไม่รู้จะหอบเงินลงทุนหนีไปทางไหนเลยจริงไหมครับ

ผมอยากให้ลองนั่งนิ่งๆ แล้วมองอีกมุมหนึ่งของการต่อสู้ดูสิครับเราจะพบว่าในจังหวะเดียวกันนี้เองนักลงทุนในตำนานอย่างปู่ Warren Buffett กำลังเดินหน้าซื้อหุ้นเข้าพอร์ตอย่างสนุกมือราวกับว่าผลิตเงินได้ไม่จำกัด

วันนี้เราจึงขอนำคำแนะนำของปู่ Warren Buffett นักลงทุนผู้มีประสบการณ์อันโชกโชนที่เคยสอนวิธีต่อกรกับเงินเฟ้อเอาไว้หลายครั้ง

ปู่ Buffet จะแนะนำอย่างไรในช่วงเงินเฟ้อสูง? ทำไมเขาถึงช้อปหุ้นอย่างสนุกมือทั้งๆ ที่คนอื่นกำลังกลัว? เขามองเห็นอะไร? ไปติดตามกันครับ

การลงทุนคือ ‘เกราะป้องกันเงินเฟ้อ’ ที่ยอดเยี่ยม

ในการประชุมผู้ถือหุ้น Berkshire Hathaway ปี 2565 มีคนถาม Warren Buffett ว่า “เงินเฟ้อที่สูงเป็นประวัติการณ์ในสหรัฐฯ จะกระทบต่อการลงทุนหุ้นไหม?”

ปู่ Buffett ตอบว่า “เงินเฟ้อไม่ได้กระทบเฉพาะการลงทุนในหุ้นแต่กระทบนักลงทุนในตลาดตราสารหนี้และคนที่ซุกเงินไว้ใต้ที่นอนด้วยเพราะเมื่อเงินเฟ้อสูงเงินสดที่คุณถืออยู่ก็ยิ่งด้อยค่าลง”

แต่ปู่ก็ไม่ได้พูดเฉพาะฝั่งผลกระทบเท่านั้นนะครับเพราะ ปู่ Buffett ก็ให้คำแนะนำแสนล้ำค่าในการจัดการกับเงินเฟ้อให้นักลงทุนมาด้วยถึง 2 ข้อ

ข้อแรกปู่บอกว่าสิ่งที่คุณควรทำในการสู้กับเงินเฟ้อคือ ‘การลงทุนในตัวเอง’ หรือการพยายามฝึกฝนทักษะบางอย่างให้เก่งเป็นพิเศษ

ปู่อธิบายว่า “ทักษะสามารถป้องกันเงินเฟ้อได้เป็นอย่างดีหากคุณมีทักษะที่สังคมต้องการ ทักษะนั้นจะสร้างรายได้ให้คุณอยู่เสมอไม่ว่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะมีมูลค่าเท่าใด” ซึ่งออกจะฟังดูเหมือน Life Coach อยู่เหมือนกัน

แต่ที่เด็ดเลยคือข้อสองที่ปู่แนะนำนักลงทุนว่า “คุณควรลงทุนในธุรกิจที่ยอดเยี่ยมธุรกิจที่มีสินค้าที่เป็นที่ต้องการอยู่เสมอ” เพื่อสู้กับเงินเฟ้อ

ปู่ Buffett ยกตัวอย่างหุ้นบริษัท Coca-Cola ที่ปู่ชื่นชอบขึ้นมาพร้อมอธิบายว่า “ผู้บริโภคจะซื้อสินค้าที่พวกเขาชื่นชอบและพวกเขาจะยังซื้อมันต่อไปแม้ว่าราคาจะสูงขึ้น”

นี่แหละครับการป้องกันเงินเฟ้อสไตล์ Warren Buffett

คุณจะถือเงินสดที่ด้อยค่าอยู่ทุกๆ วันไปทำไม ในเมื่อคุณสามารถซื้อธุรกิจที่ทำให้เงินของคุณมีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้?

แต่ลำพังการลงทุนใน ‘ธุรกิจที่ยอดเยี่ยม’ อย่างเดียวคงไม่พอเพราะคุณควรลงทุนในหุ้นที่ ‘ราคาเหมาะ’ และ ‘มีโอกาสเติบโต’ ด้วยจึงจะครบหลักการลงทุนแบบ VI ตามที่ปู่ Buffett ยึดมั่นอยู่เสมอครับ

เงินเฟ้อมาทีไรปู่ช้อปกระจายทุกที

ตั้งแต่ต้นปี 2565 คุณน่าจะได้ยินข่าวว่า Berkshire Hathaway ช้อปปิ้งหุ้นเข้าพอร์ตอย่างสนุกมือไปแล้วกว่า 50,000 ล้านเหรียญฯ ราวกับว่าวันพรุ่งนี้จะไม่มีตลาดหุ้นให้ซื้ออีกแล้ว

แต่ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกกำลังกลัวเงินเฟ้อและดอกเบี้ยขาขึ้นแต่ปู่ Buffett กลับเห็นโอกาสในการลงทุน ‘หุ้นดีราคาถูก’ ที่ได้รับผลกระทบจากความกลัวของนักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดหุ้น

ในครึ่งปีแรกของ 2565 ดัชนี S&P 500 ร่วงกว่า 20% ซึ่งสำหรับคนที่ลงทุนมาทั้งชีวิตจนประสบการณ์โชกโชนอย่างปู่ Buffett ช่วงตลาดหุ้นตกแบบนี้มีหรือที่เขาจะพลาดโอกาสลงทุนหุ้นคุณภาพดีที่เล็งเอาไว้

การที่ราคาหุ้นตกทั้งตลาดไม่เว้นแม้แต่หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อก็หมายความว่า ‘นายตลาด’ กำลังทำตัวไร้เหตุผลและมีหุ้นคุณภาพดีในราคา Super Sale อีกมากมายที่รอให้ปู่ Buffett เข้าไปจับจ่ายใช้สอย

แต่สาเหตุที่ปู่ช้อปกระจายจริงๆ แล้วไม่ใช่เพียงเพราะแค่ตลาดหุ้นปรับตัวลงเท่านั้น แต่อีกปัจจัยก็มาจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นด้วยตามที่อธิบายไปด้านบนครับ

Jitta Ranking ตัวช่วยลงทุนหุ้นต่างประเทศแบบ VI

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าปู่ Buffett ยึดมั่นกับการลงทุนแบบ VI มากแค่ไหน เพราะไม่ว่าปู่จะถูกวิจารณ์มาหลายปีว่า ‘การลงทุนแบบ VI มันตกยุคไปแล้ว’ แต่ปู่ Buffett ก็ยังยึดมั่นในแนวทางนี้ไม่เสื่อมคลาย

สุดท้ายเวลาก็พิสูจน์แล้วว่าการลงทุนแบบ VI ‘สร้างผลตอบแทนได้จริง’ และสร้างความมั่งคั่งแบบทบต้นมาเรื่อยๆ จนทำให้ปู่ Buffett กลายเป็นนักลงทุนที่มั่งคั่งที่สุดในโลกแบบที่คุณเห็นอยู่ทุกวันนี้ครับ

แต่การลงทุนแบบ VI จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลรายบริษัทอย่างหนัก และมันจะยากขึ้นเป็นทวีคูณถ้าคุณจะลงทุนหุ้นต่างประเทศที่มีบริษัทที่คุณไม่รู้จักหลายพันแห่ง แถมบางบริษัทก็ไม่มีข้อมูลภาษาอังกฤษให้อ่านอีก

เป็นเรื่องดีกว่าไหมหากเราจะมีผู้ช่วยวิเคราะห์งบการเงิน ‘ทุกบริษัท’ ในตลาดหุ้นและช่วยจัดพอร์ต ‘หุ้น VI ที่น่าลงทุนที่สุด’ ในเวลานั้นให้คุณโดยอัตโนมัติตามแนวทางของ Warren Buffett แบบเป๊ะๆ

นั่นคือเหตุผลที่ Jitta Ranking ก่อกำเนิดขึ้นมาเพื่อช่วยให้การลงทุนหุ้นต่างประเทศที่เติบโตดีในระยะยาวไม่ว่าจะเป็นจีนเวียดนามสหรัฐฯ และญี่ปุ่น

รวมไปถึงหุ้นในอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่าง ‘หุ้นสุขภาพสหรัฐฯ’ และ ‘หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ’ เป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายและหลากหลาย เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงให้การลงทุนโดยเฉพาะในจังหวะที่ตลาดหุ้นตกลงมาแบบนี้ยิ่งเป็นโอกาสที่ดี

สุดท้ายนี้เราขอฝากข้อคิดที่ปู่ Buffett เคยพูดไว้เตือนใจทุกคนว่า “การที่ใครสักคนได้นั่งใต้ร่มเงาไม้ในวันนี้เพราะมีบางคนได้ปลูกต้นไม้ต้นนี้ไว้เมื่อนานมาแล้ว”

ไม่แน่ว่าตอนนี้อาจถึงเวลาที่คุณจะเริ่มปลูกต้นไม้ให้เติบโตขึ้นเพื่อที่ว่าในอนาคตคุณจะได้มอบร่มเงานี้ให้กับคนที่คุณรักในอนาคตครับ