เม็ดเงินโฆษณาจากแบรนด์ต่างๆ ยังไหลเข้าไปในแพลตฟอร์มอย่าง TikTok อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทวิจัยอย่าง Insider Intelligence เม็ดเงินโฆษณาเกือบ 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ได้ไหลเข้าไป TikTok ซึ่งสวนทางกับบริษัทเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ หลายแห่งที่เม็ดเงินดังกล่าวกลับลดลง
New York Times ได้รายงานถึงสถานการณ์ของ TikTok แพลตฟอร์มจากประเทศจีน ที่สร้างความปวดหัวให้กับบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกาหลายราย ไม่ว่าจะเป็น Meta เจ้าของแพลตฟอร์มอย่าง Facebook หรือ Instagram ที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุด ไปจนถึง Twitter หรือแม้แต่ Snapchat
บทความของ New York Times ได้กล่าวถึงโฆษณาของ Tiffany & Company ที่ได้ออกผลิตภัณฑ์สินค้าใหม่ แล้วได้นำโฆษณาลงใน Instagram กลับพบว่ามีผู้รับชมโฆษณาเพียงแค่ 1.6 ล้านวิวเท่านั้น ตรงกันข้ามกับ TikTok ที่มีผู้ชมมากถึง 5.2 ล้านคน ซึ่งความแตกต่างนี้ถือว่ามหาศาลในมุมของบริษัทที่ลงโฆษณา หรือแม้แต่เอเจนซี่ที่รับจ้างลงโฆษณาให้กับแบรนด์ต่างๆ
ข้อมูลจาก Insider Intelligence ยังชี้ให้เห็นว่าเม็ดเงินโฆษณาเกือบ 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ยังไหลไปที่ TikTok อีกจำนวนมหาศาลด้วย ซึ่งรายได้โฆษณาของแพลตฟอร์มดังกล่าวสูงขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2021 ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันทิศทางเม็ดเงินโฆษณาที่ลงในบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐนั้นมีทีท่าชะลอตัวลง แต่ TikTok กลับเป็นทางตรงกันข้ามด้วยซ้ำ
ไม่เพียงเท่านี้การผลิตโฆษณาสำหรับเผยแพร่บน TikTok ตัวนโยบายเองมีความแตกต่างกับแพลตฟอร์มของบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ เนื่องจากโฆษณาที่อยู่บนแพลตฟอร์มจากจีนถือว่ามีความเป็นธรรมชาติมากกว่า เหมือนดูวิดีโอของผู้ใช้งานรายอื่น และด้วยปัจจัยนี้ทำให้ผู้ใช้งานไม่รู้สึกถึงความยัดเยียด
โดย TikTok คาดว่าบริษัทจะมีรายได้จากโฆษณาในปีนี้ราวๆ 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
ในช่วงที่ผ่านมาหลายบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกา ยอมรับถึงการที่แพลตฟอร์มของตัวเองยังตามหลัง TikTok โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝั่งของ Instagram นอกจากนี้ เหล่าครีเอเตอร์เองก็ค่อนข้างที่จะชื่นชอบกับแพลตฟอร์มนี้ว่าค่อนข้างเป็นมิตรกับเหล่าครีเอเตอร์ที่สุด แม้ว่าเรื่องของการสร้างรายได้ให้เหล่าครีเอเตอร์จะยังไม่มีประสิทธิภาพมากพอก็ตาม
นอกจากนี้ข้อมูลจาก Sensor Tower ยังชี้ว่าผู้ใช้งาน TikTok ใช้งานเฉลี่ยนั้นสูงมากถึง 96 นาทีต่อวัน ซึ่งมากกว่า Snapchat มากถึง 5 เท่า จึงทำให้แพลตฟอร์มจากประเทศจีนนั้นเป็นคู่แข่งสำคัญ และยังทำให้เม็ดเงินของบริษัทต่างๆ ยังไหลไปสู่แพลตฟอร์มดังกล่าว เนื่องจากการใช้งานของผู้ใช้งานที่สูงกว่า
