ร้านค้าปลีกเบ็ดเตล็ดสินค้าในบ้าน “MR.DIY” จากมาเลเซีย ครบรอบ 7 ปีในตลาดไทย ปีนี้ตั้งเป้าขยายสู่ 700 สาขา เน้นสาขา “สแตนด์อโลน” นอกห้างฯ พร้อมกลยุทธ์ใหม่ “ขายออนไลน์” ผ่านช้อปปี้และเว็บไซต์ mrdiy.co.th เจาะกลุ่มซื้อเหมาล็อตใหญ่
“MR.DIY” (มิสเตอร์ดีไอวาย) ถือเป็นร้านค้าปลีกเบ็ดเตล็ดที่ทิ้งห่างคู่แข่งแบบไม่เห็นฝุ่นในประเทศไทย ด้วยจำนวนสาขาปัจจุบันแตะ 557 สาขา เทียบกับร้านเบ็ดเตล็ดที่อยู่มาก่อนอย่าง Daiso หรือ Moshi Moshi ปัจจุบันทั้งสองแบรนด์มีสาขาอยู่ที่ 100 กว่าสาขา จึงเห็นได้ชัดว่าร้าน MR.DIY ขยายตัวอย่าง ‘aggressive’ มากแค่ไหนตั้งแต่เริ่มเปิดสาขาแรกที่ “ซีคอน บางแค” เมื่อปี 2559
“แอนดี้ ชิน” ซีอีโอ มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย. ประเทศไทย ฉายภาพการขยายตัวของ MR.DIY ในแง่จำนวนสาขาตั้งแต่ปี 2560-65 มีการขยายสาขาทุกปี ไม่เว้นแม้แต่ช่วงที่เกิดโรคระบาด COVID-19
ปัจจุบันร้านกระจายสาขาไปครบ 72 จังหวัดของไทย ส่วนใหญ่กว่า 50% ของสาขาทั้งหมดอยู่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลและภาคกลาง รองลงมาจะอยู่ในภาคอีสาน ตามด้วยภาคตะวันออก ภาคใต้ ภาคเหนือ และภาคตะวันตก
สินค้าที่ขายใน MR.DIY มีถึง 15,000 รายการ ครอบคลุมทั้งหมด 10 หมวด แต่ที่ขายดีที่สุดคือ กลุ่มของใช้ในบ้านและกลุ่มฮาร์ดแวร์ นอกจากนั้นยังขายของจิปาถะทุกสิ่งตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก ของเล่น เครื่องเขียน เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์แต่งรถ อาหารและเครื่องดื่ม ของใช้ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ไปจนถึงเครื่องประดับ-เครื่องสำอาง
5 กลยุทธ์ “MR.DIY” ลุยต่อปี 2566
แอนดี้กล่าวต่อถึงกลยุทธ์ปี 2566 ของ MR.DIY ยังบุกหนักต่อไปในตลาดไทยซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของเครือ รองจากมาเลเซียซึ่งเป็นต้นกำเนิด โดย 5 กลยุทธ์ที่จะใช้ในปีนี้ ได้แก่
1. เปิดสโตร์เพิ่มอีก 170 สาขา ซึ่งจะทำให้ MR.DIY มีสาขาครบ 700 สาขาภายในปีนี้
2. เปิดตัวแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ผ่านช่องทาง Shopee Mall และเว็บไซต์ mrdiy.co.th
3. สร้างแบรนด์ด้วยแบรนด์ แอมบาสเดอร์คนแรกในไทย คือ “ตั๊ก-บริบูรณ์และครอบครัว”
4. ตอกย้ำสโลแกน “ช้อปได้ทุกวัน ครบเพื่อทุกคน” และทำแคมเปญเน้นการช้อปตามเทศกาล เช่น เปิดเทอม ฮัลโลวีน คริสต์มาส ปีใหม่
5. ผลักดันสินค้า Private Label ของร้านเอง โดยปัจจุบันมีสัดส่วน 40% ของสินค้าทั้งหมด สินค้ากลุ่มนี้ที่ขายดี เช่น ถ่านไฟฉาย หลอดไฟ
ลงทุน 2,000 ล้านบาท ขยายสโตร์ทะลุ 700 สาขา
สำหรับธุรกิจร้านขายสินค้าประเภท Home improvement Retailer แอนดี้กล่าวว่า สโตร์ออฟไลน์ยังสำคัญที่สุด ทำให้ปีนี้บริษัทจะขยายสาขาเพิ่มอีก ตั้งเป้า 170 สาขา ซึ่งจะทำให้แบรนด์มีสโตร์ครบ 700 สาขาภายในไตรมาส 4
โดยจะใช้งบลงทุน 2,000 ล้านบาท รวมทั้งการเปิดสาขาใหม่ รีโนเวตสาขาเดิม และมีการเปิดศูนย์กระจายสินค้าอีก 1 แห่ง จากปัจจุบันมีคลังสินค้าและกระจายสินค้า 3 แห่งที่ ถ.แพรกษา จ.สมุทรปราการ ภาคอีสาน และภาคใต้
“เป้าของเราปีนี้ทำให้เฉลี่ยแล้วเราจะเปิดสาขาใหม่ 1 สาขาทุกๆ 2 วัน” แอนดี้กล่าว “โดยส่วนใหญ่จะเน้นเป็นสาขาสแตนด์อโลนนอกห้างฯ”
ปัจจุบันสาขาของ MR.DIY แบ่ง 50% เป็นสาขาในศูนย์การค้า และ 50% สแตนด์อโลนนอกศูนย์การค้า
“เหตุที่ปีนี้เราจะเน้นการเปิดสแตนด์อโลนเพราะในปีแรกๆ ที่เราเข้ามา เราโฟกัสกับการเปิดในศูนย์การค้าก่อนจนเข้าไปครอบคลุมได้มากแล้ว อีกประเด็นคือ ในช่วงที่เกิดโควิด-19 เรามีการลองโมเดลแบบใหม่ เพราะมีการล็อกดาวน์และคนไม่กล้าเข้าห้างฯ เราจึงลองไปเปิดนอกห้างฯ บ้างและปรากฏว่าโมเดลนี้ได้ผลทั้งในไทยและประเทศอื่นด้วย” แอนดี้กล่าว
ขายออนไลน์ตอบโจทย์คนซื้อเหมาบิ๊กล็อต
อีกกลยุทธ์สำคัญปีนี้คือ MR.DIY จะเริ่มบุกอีคอมเมิร์ซ โดยเดือนมีนาคมนี้เริ่มเปิด Shopee Mall แล้วเพื่อเจาะฐานลูกค้าในมาร์เก็ตเพลซ และมีการเปิดเว็บไซต์แบรนด์ mrdiy.co.th ที่จะเริ่มจำหน่ายจริงเดือนเมษายนนี้
“อานุภาพ คงมาลัย” หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด อธิบายกลยุทธ์ออนไลน์ของแบรนด์ จะเน้นโปรโมชันแบบ “ยิ่งซื้อเยอะยิ่งคุ้มกว่า” เช่น ซื้อครบ 10 ชิ้นได้ลดราคาลงอีก เพราะต้องการเจาะตลาดลูกค้าที่ซื้อเหมาบิ๊กล็อต และจะเน้นนำสินค้ากลุ่ม Best-Selling ขึ้นออนไลน์ก่อน เช่น ไม้แขวนเสื้อ ถ่านไฟฉาย ถังขยะ
“ลูกค้าซื้อเหมาไม่น้อยเลย ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่ม SMEs ที่ต้องเติมสต็อกของ เช่น โรงแรมขนาดเล็ก หรือกลุ่มแม่บ้านที่ชอบตุนของใช้” อานุภาพกล่าว “แพลตฟอร์มออนไลน์ยังช่วยให้ลูกค้าสะดวกขึ้นด้วย เพราะซื้อสินค้าได้ 24 ชม.”
อย่างไรก็ตาม MR.DIY จะเน้นการขายผ่านสโตร์เป็นหลักต่อไป แอนดี้ยกตัวอย่างในมาเลย์ที่เริ่มขายออนไลน์มาก่อน ปัจจุบันยังมีสัดส่วนยอดขายจากอีคอมเมิร์ซไม่ถึง 1% เนื่องจากเครือข่ายสโตร์ใหญ่มาก มีมากกว่า 1,000 สาขา
เมื่อถามภาพระยะยาวของ MR.DIY ในไทยว่า ตลาดยังสามารถเปิดสโตร์ได้อีกมากแค่ไหน แอนดี้บอกว่าไม่สามารถตอบเป็นตัวเลขชัดๆ ได้
“แต่ถ้าให้เปรียบเทียบ ในมาเลเซียมีประชากร 32 ล้านคนและ MR.DIY เราเปิดไปกว่า 1,000 สาขาแล้ว และยังจะโตได้อีก ขณะที่ไทยมีประชากรเกือบ 70 ล้านคน โดยเป้าปีนี้ของเราคือ 700 สาขา ถ้าคำนวณเทียบกับมาเลย์ เท่ากับประเทศไทยยังมีโอกาสอีกสูงมาก” แอนดี้กล่าวสรุป
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม
- “โก! ว้าว” ท้าชน MR.DIY! ปี 2565 เปิดให้ครบ 70 สาขา ทดลองโมเดลนอกห้างฯ
- “ไม่ได้แพงอย่างที่คิด” มุมมองใหม่ที่ MUJI อยากให้ทุกคนเข้าใจ