Tuesday, April 30, 2024
Home Strategic Move MR.DIY ครบรอบ 7 ปี ขยายสู่ 700 สาขา ออกสตาร์ท “ขายออนไลน์” เน้นกลุ่มซื้อเหมาล็อตใหญ่

MR.DIY ครบรอบ 7 ปี ขยายสู่ 700 สาขา ออกสตาร์ท “ขายออนไลน์” เน้นกลุ่มซื้อเหมาล็อตใหญ่

ร้านค้าปลีกเบ็ดเตล็ดสินค้าในบ้าน “MR.DIY” จากมาเลเซีย ครบรอบ 7 ปีในตลาดไทย ปีนี้ตั้งเป้าขยายสู่ 700 สาขา เน้นสาขา “สแตนด์อโลน” นอกห้างฯ พร้อมกลยุทธ์ใหม่ “ขายออนไลน์” ผ่านช้อปปี้และเว็บไซต์ mrdiy.co.th เจาะกลุ่มซื้อเหมาล็อตใหญ่

“MR.DIY” (มิสเตอร์ดีไอวาย) ถือเป็นร้านค้าปลีกเบ็ดเตล็ดที่ทิ้งห่างคู่แข่งแบบไม่เห็นฝุ่นในประเทศไทย ด้วยจำนวนสาขาปัจจุบันแตะ 557 สาขา เทียบกับร้านเบ็ดเตล็ดที่อยู่มาก่อนอย่าง Daiso หรือ Moshi Moshi ปัจจุบันทั้งสองแบรนด์มีสาขาอยู่ที่ 100 กว่าสาขา จึงเห็นได้ชัดว่าร้าน MR.DIY ขยายตัวอย่าง ‘aggressive’ มากแค่ไหนตั้งแต่เริ่มเปิดสาขาแรกที่ “ซีคอน บางแค” เมื่อปี 2559

“แอนดี้ ชิน” ซีอีโอ มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย. ประเทศไทย ฉายภาพการขยายตัวของ MR.DIY ในแง่จำนวนสาขาตั้งแต่ปี 2560-65 มีการขยายสาขาทุกปี ไม่เว้นแม้แต่ช่วงที่เกิดโรคระบาด COVID-19

MR.DIY
ช่วงปี 2560-65 เปิดสาขาเพิ่มขึ้นทุกปี และกระจายสาขาครอบคลุมทุกภาค

ปัจจุบันร้านกระจายสาขาไปครบ 72 จังหวัดของไทย ส่วนใหญ่กว่า 50% ของสาขาทั้งหมดอยู่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลและภาคกลาง รองลงมาจะอยู่ในภาคอีสาน ตามด้วยภาคตะวันออก ภาคใต้ ภาคเหนือ และภาคตะวันตก

สินค้าที่ขายใน MR.DIY มีถึง 15,000 รายการ ครอบคลุมทั้งหมด 10 หมวด แต่ที่ขายดีที่สุดคือ กลุ่มของใช้ในบ้านและกลุ่มฮาร์ดแวร์ นอกจากนั้นยังขายของจิปาถะทุกสิ่งตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก ของเล่น เครื่องเขียน เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์แต่งรถ อาหารและเครื่องดื่ม ของใช้ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ไปจนถึงเครื่องประดับ-เครื่องสำอาง

MR.DIY
10 หมวดสินค้าที่มีขายในร้าน

 

5 กลยุทธ์ “MR.DIY” ลุยต่อปี 2566

แอนดี้กล่าวต่อถึงกลยุทธ์ปี 2566 ของ MR.DIY ยังบุกหนักต่อไปในตลาดไทยซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของเครือ รองจากมาเลเซียซึ่งเป็นต้นกำเนิด โดย 5 กลยุทธ์ที่จะใช้ในปีนี้ ได้แก่

1. เปิดสโตร์เพิ่มอีก 170 สาขา ซึ่งจะทำให้ MR.DIY มีสาขาครบ 700 สาขาภายในปีนี้

2. เปิดตัวแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ผ่านช่องทาง Shopee Mall และเว็บไซต์ mrdiy.co.th

3. สร้างแบรนด์ด้วยแบรนด์ แอมบาสเดอร์คนแรกในไทย คือ “ตั๊ก-บริบูรณ์และครอบครัว”  

4. ตอกย้ำสโลแกน “ช้อปได้ทุกวัน ครบเพื่อทุกคน” และทำแคมเปญเน้นการช้อปตามเทศกาล เช่น เปิดเทอม ฮัลโลวีน คริสต์มาส ปีใหม่

5. ผลักดันสินค้า Private Label ของร้านเอง โดยปัจจุบันมีสัดส่วน 40% ของสินค้าทั้งหมด สินค้ากลุ่มนี้ที่ขายดี เช่น ถ่านไฟฉาย หลอดไฟ

แอนดี้ ชิน ซีอีโอ มิสเตอร์ ดี.ไอ.วาย. ประเทศไทย รับตำแหน่งเดือนมกราคม 2565 ควบตำแหน่งรองประธานฝ่ายการตลาด กลุ่มบริษัท มิสเตอร์ ดี.ไอ.วาย. มาเลเซีย

ลงทุน 2,000 ล้านบาท ขยายสโตร์ทะลุ 700 สาขา

สำหรับธุรกิจร้านขายสินค้าประเภท Home improvement Retailer แอนดี้กล่าวว่า สโตร์ออฟไลน์ยังสำคัญที่สุด ทำให้ปีนี้บริษัทจะขยายสาขาเพิ่มอีก ตั้งเป้า 170 สาขา ซึ่งจะทำให้แบรนด์มีสโตร์ครบ 700 สาขาภายในไตรมาส 4

โดยจะใช้งบลงทุน 2,000 ล้านบาท รวมทั้งการเปิดสาขาใหม่ รีโนเวตสาขาเดิม และมีการเปิดศูนย์กระจายสินค้าอีก 1 แห่ง จากปัจจุบันมีคลังสินค้าและกระจายสินค้า 3 แห่งที่ ถ.แพรกษา จ.สมุทรปราการ ภาคอีสาน และภาคใต้

MR.DIY
MR.DIY สาขาแบบสแตนด์อะโลน

“เป้าของเราปีนี้ทำให้เฉลี่ยแล้วเราจะเปิดสาขาใหม่ 1 สาขาทุกๆ 2 วัน” แอนดี้กล่าว “โดยส่วนใหญ่จะเน้นเป็นสาขาสแตนด์อโลนนอกห้างฯ”

ปัจจุบันสาขาของ MR.DIY แบ่ง 50% เป็นสาขาในศูนย์การค้า และ 50% สแตนด์อโลนนอกศูนย์การค้า

“เหตุที่ปีนี้เราจะเน้นการเปิดสแตนด์อโลนเพราะในปีแรกๆ ที่เราเข้ามา เราโฟกัสกับการเปิดในศูนย์การค้าก่อนจนเข้าไปครอบคลุมได้มากแล้ว อีกประเด็นคือ ในช่วงที่เกิดโควิด-19 เรามีการลองโมเดลแบบใหม่ เพราะมีการล็อกดาวน์และคนไม่กล้าเข้าห้างฯ เราจึงลองไปเปิดนอกห้างฯ บ้างและปรากฏว่าโมเดลนี้ได้ผลทั้งในไทยและประเทศอื่นด้วย” แอนดี้กล่าว

ขายออนไลน์ตอบโจทย์คนซื้อเหมาบิ๊กล็อต

อีกกลยุทธ์สำคัญปีนี้คือ MR.DIY จะเริ่มบุกอีคอมเมิร์ซ โดยเดือนมีนาคมนี้เริ่มเปิด Shopee Mall แล้วเพื่อเจาะฐานลูกค้าในมาร์เก็ตเพลซ และมีการเปิดเว็บไซต์แบรนด์ mrdiy.co.th ที่จะเริ่มจำหน่ายจริงเดือนเมษายนนี้

“อานุภาพ คงมาลัย” หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด อธิบายกลยุทธ์ออนไลน์ของแบรนด์ จะเน้นโปรโมชันแบบ “ยิ่งซื้อเยอะยิ่งคุ้มกว่า” เช่น ซื้อครบ 10 ชิ้นได้ลดราคาลงอีก เพราะต้องการเจาะตลาดลูกค้าที่ซื้อเหมาบิ๊กล็อต และจะเน้นนำสินค้ากลุ่ม Best-Selling ขึ้นออนไลน์ก่อน เช่น ไม้แขวนเสื้อ ถ่านไฟฉาย ถังขยะ

สินค้าที่ขายบนออนไลน์เน้นซื้อเหมาถูกกว่า เช่น ถังขยะ ไหมขัดฟัน ถ่านไฟฉาย

“ลูกค้าซื้อเหมาไม่น้อยเลย ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่ม SMEs ที่ต้องเติมสต็อกของ เช่น โรงแรมขนาดเล็ก หรือกลุ่มแม่บ้านที่ชอบตุนของใช้” อานุภาพกล่าว “แพลตฟอร์มออนไลน์ยังช่วยให้ลูกค้าสะดวกขึ้นด้วย เพราะซื้อสินค้าได้ 24 ชม.”

อย่างไรก็ตาม MR.DIY จะเน้นการขายผ่านสโตร์เป็นหลักต่อไป แอนดี้ยกตัวอย่างในมาเลย์ที่เริ่มขายออนไลน์มาก่อน ปัจจุบันยังมีสัดส่วนยอดขายจากอีคอมเมิร์ซไม่ถึง 1% เนื่องจากเครือข่ายสโตร์ใหญ่มาก มีมากกว่า 1,000 สาขา

เมื่อถามภาพระยะยาวของ MR.DIY ในไทยว่า ตลาดยังสามารถเปิดสโตร์ได้อีกมากแค่ไหน แอนดี้บอกว่าไม่สามารถตอบเป็นตัวเลขชัดๆ ได้

“แต่ถ้าให้เปรียบเทียบ ในมาเลเซียมีประชากร 32 ล้านคนและ MR.DIY เราเปิดไปกว่า 1,000 สาขาแล้ว และยังจะโตได้อีก ขณะที่ไทยมีประชากรเกือบ 70 ล้านคน โดยเป้าปีนี้ของเราคือ 700 สาขา ถ้าคำนวณเทียบกับมาเลย์ เท่ากับประเทศไทยยังมีโอกาสอีกสูงมาก” แอนดี้กล่าวสรุป

 

อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม