สื่อธุรกิจในประเทศอินเดียรายงานข่าวว่า Wistron ซึ่งเป็นผู้รับประกอบสินค้าไอทีจากไต้หวัน เตรียมที่จะถอนธุรกิจออกจากอินเดีย หลังได้ขายโรงงานประกอบ iPhone ให้กับ Tata ซึ่งเป็นธุรกิจรายใหญ่ของประเทศ หลังจากที่บริษัทไม่สามารถขยายธุรกิจในอินเดียได้
สื่อธุรกิจในประเทศอินเดียทั้ง The Economic Times และ The Hindu Businessline ได้รายงานข่าวว่า Wistron บริษัทรับประกอบ iPhone รายใหญ่อีกราย ได้เตรียมถอนธุรกิจในแดนภาระตะ หลังจากประสบปัญหาไม่สามารถขยายธุรกิจการรับประกอบโทรศัพท์รุ่นดังกล่าวได้
โดยปัญหาสำคัญของ Wistron ไม่สามารถขยายธุรกิจได้ ที่สื่อธุรกิจในอินเดียรายงานว่าบริษัทไม่สามารถที่จะเข้าถึง Supply Chain ในประเทศอินเดียได้ ขณะเดียวกันธุรกิจในอินเดียเองก็ไม่สามารถทำกำไรได้เท่ากับธุรกิจในเม็กซิโกหรือแม้แต่เวียดนาม
ไม่เพียงเท่านี้ Wistron ยังพบกับความท้าทายในการรับมือกับวัฒนธรรมการทำงานในท้องถิ่น โดยในปี 2020 มีการประท้วงของพนักงานในโรงงานที่เมือง Kolar ซึ่งเป็นโรงงานที่เพิ่งเปิดใหม่ ซึ่งคนงานประท้วงต่อต้านในเรื่องการไม่ได้รับค่าจ้างที่ดี และชั่วโมงการทำงานลำบาก
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ Apple ลงโทษ Wistron โดยหยุดโรงงานผลิตที่เปิดใหม่จนกว่าจะมีมาตรการแก้ไข ซึ่งท้ายที่สุดโรงงานดังกล่าวสามารถกลับมาประกอบสินค้าได้ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2021 โดยความเคลื่อนไหวสำคัญก่อนหน้านี้คือบริษัทได้ขายโรงงานประกอบ iPhone ให้กับ Tata ซึ่งเป็นธุรกิจรายใหญ่ของประเทศอินเดีย
Wistron บริษัทจากไต้หวันรายนี้ถือเป็นรับผู้รับประกอบ iPhone 1 ใน 3 รายสำคัญของ Apple โดยบริษัทนั้นได้ดำเนินธุรกิจในอินเดียมาแล้วถึง 15 ปี และเริ่มประกอบ iPhone ในแดนภาระตะตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา ซึ่งบริษัทมีพนักงานมากถึง 12,000 คนในอินเดีย
ขณะเดียวกันกำลังการผลิตของ Wistron เป็นรองทั้ง Pegatron รวมถึง Foxconn ซึ่งมีกำลังการผลิตมากที่สุด ซึ่งยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีจากสหรัฐอเมริกาได้เร่งย้ายกำลังการผลิตมายังประเทศอินเดีย หลังจากที่จีนประสบปัญหาการผลิตหยุดชะงักในช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดีคู่แข่งของ Wistron ทั้ง 2 รายกลับเร่งเพิ่มกำลังการประกอบ iPhone รวมถึงสินค้าอื่นๆ ของ Apple ในประเทศอินเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Foxconn ที่เตรียมตั้งโรงงานแห่งใหม่เพิ่มในประเทศอินเดีย แต่บริษัทจะยังเหลือธุรกิจในการซ่อมสินค้าไอทีในประเทศอินเดียอยู่
สำหรับ Apple แล้วนั้นบริษัทได้ตั้งเป้าความหวังกับตลาดอินเดียอย่างมาก เนื่องจากเป็นตลาดสมาร์ทโฟนใหญ่อันดับ 2 รองจากประเทศจีน ซึ่งบริษัทได้เปิดร้านค้าปลีกดังกล่าวไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และบริษัทยังคาดหวังว่าตลาดอินเดียจะเป็นแหล่งรายได้ใหม่ของบริษัทหลังจากนี้ด้วย
ที่มา – The Economic Times, The Hindu Businessline