อัปเดต “เดอะ ฟอเรสเทียส์” เริ่มโอนคอนโดฯ ปลายปี’66 พื้นที่พาณิชย์ “Happitat” เปิดกลางปี’67

เดอะ ฟอเรสเทียส์
โครงการยักษ์ 398 ไร่ “เดอะ ฟอเรสเทียส์” ริมถนนบางนาตราด อัปเดตความคืบหน้า “ป่า” ส่วนกลาง 30 ไร่โตทันเปิดโครงการแน่นอน ตั้งเป้าเริ่มโอนคอนโดฯ สองแห่งแรกภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่พื้นที่พาณิชย์ แหล่งรวมร้านค้าและออฟฟิศ “Happitat” จะเปิดใช้งานกลางปี 2567

บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC จัดอีเวนต์ “The Forestias Story & Beyond: The Immersive Experience of Imagine Happiness” ขึ้น ณ พารากอน ฮอลล์ ภายในงานจัดการแสดงแสง สี เสียง บอกเล่าองค์ประกอบภายในโครงการและอัปเดตความคืบหน้าของ “เดอะ ฟอเรสเทียส์”

โครงการนี้เป็นโครงการระดับแฟลกชิปของ MQDC ด้วยขนาดที่ดินใหญ่ถึง 398 ไร่ บริเวณริมถนนบางนา-ตราด กม.7 ภายในแบ่งเป็นโครงการที่พักอาศัยถึง 6 โครงการทั้งแนวราบและแนวสูง โรงแรมรีสอร์ต และพื้นที่เชิงพาณิชย์ด้านหน้า

(ซ้าย) ดร.ชวัลวัฒน์ อริยวรารมย์ และ (ขวา) ทิพพาภรณ์ อริยวรารมย์

คอนเซ็ปต์โครงการยังแตกต่างจากปกติ โดยต้องการสร้าง ‘เมือง’ ที่ใกล้ชิดธรรมชาติ รักษ์สิ่งแวดล้อม ผ่านการปลูกป่าไว้กลางโครงการด้วยเนื้อที่ถึง 30 ไร่ รวมถึงมีระบบที่ช่วยลดโลกร้อนและการใช้พลังงาน เช่น ระบบผลิตพลังงานความเย็นจากส่วนกลางส่งไปยังที่พักอาศัย อุโมงค์ส่งน้ำใต้ดินวางแนวด้านล่างของถนนเพื่อให้ผิวถนนเย็นขึ้น การออกแบบภูมิสถาปัตย์เพื่อให้เกิด ‘หุบความเย็น’ ทั้งหมดนี้มุ่งเป้าให้เมืองของฟอเรสเทียส์มีอุณหภูมิต่ำกว่าภายนอก 5 องศาเซลเซียส

ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ล้ำสมัยในเมืองไทย ทำให้โครงการมีการอัปเดตเป็นระยะมาตลอด 4 ปีหลังเปิดตัว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าฟอเรสเทียส์จะเกิดขึ้นได้จริงตามเป้า

 

ป่าพร้อมแล้ว คอนโดฯ ใกล้จะพร้อมส่งมอบ

“กิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์” ประธานผู้อำนวยการ โครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ อัปเดตถึงใจกลางของโครงการที่ทุกคนจับตามองนั่นก็คือ “ผืนป่า 30 ไร่” ที่บริษัทต้องเนรมิตด้วยการปลูกป่าขึ้นมาใหม่และสร้างธารน้ำตกธรรมชาติ

กิตติพันธุ์ระบุว่า สถานะของป่าพร้อมแล้วที่จะต้อนรับผู้เข้าอยู่อาศัยในปลายปีนี้ เนื่องจากปัจจุบันความสูงเฉลี่ยของต้นไม้ในป่าอยู่ที่ 8 เมตร สูงสุด 11 เมตร และเริ่มเกิดระบบนิเวศธรรมชาติจริงจากสัตว์และแมลงที่มาอาศัยในป่า เช่น ผึ้งหลวง ผีเสื้อ กระรอก และนกหลายชนิด

“กิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์” ประธานผู้อำนวยการ โครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์

ขณะที่ความคืบหน้างานก่อสร้างโครงการที่พักอาศัย ใกล้จะได้ส่งมอบสองโครงการแรกภายในสิ้นปีนี้ ดังนี้

  • วิซส์ดอม เดอะ ฟอเรสเทียส์ คอนโดมิเนียมตึกสูง 3 อาคาร จำนวน 1,119 ยูนิต คาดส่งมอบปลายปี 2566
  • มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ คอนโดมิเนียมตึกเตี้ย 6 อาคาร จำนวน จำนวน 269 ยูนิต คาดส่งมอบปลายปี 2566
วิซส์ดอม เดอะ ฟอเรสเทียส์
  • ดิ แอสเพน ทรี เดอะ ฟอเรสเทียส์ โครงการที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงวัย คอนโดมิเนียม 5 อาคาร จำนวน 290 ยูนิต คาดส่งมอบเดือนเมษายน 2567
  • มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่า บ้านเดี่ยวขนาด 4-6 ห้องนอน จำนวน 37 ยูนิต คาดส่งมอบกลางปี 2567
  • ซิกซ์เซนส์ เรสซิเดนส์ เดอะ ฟอเรสเทียส์ บ้านเดี่ยวริมทะเลสาบ พร้อมบริการจากเครือโรงแรม Six Senses จำนวน 27 ยูนิต คาดส่งมอบกลางปี 2567
  • (ใหม่) เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซิกเนเจอร์ ซีรีส์ คอนโดมิเนียมตึกสูง จำนวน 122 ยูนิต เตรียมเปิดพรีเซล 8 กรกฎาคม 2566 และกำหนดสร้างเสร็จภายในสิ้นปี 2568

 

“Happitat” จะเปิดใช้กลางปีหน้า

อีกหนึ่งพื้นที่โครงการที่ถูกจับตามองคือโซนพาณิชย์ด้านหน้าโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ซึ่งจะมีทั้งออฟฟิศ รีเทล และพื้นที่อีเวนต์ ซึ่งส่วนนี้จะเปิดเป็นสาธารณะ ผู้ที่ไม่ได้พักอาศัยในโครงการก็สามารถมาใช้งานได้ “อรดา เกิดหงส์” ประธานผู้อำนวยการ Storied Place Management อัปเดต ‘ชื่อ’ ของโซนนี้จะเรียกว่า “Happitat” (แฮปปี้แทท) ซึ่งมาจากคำว่า Happiness และ Habitat

Happitat เดอะ ฟอเรสเทียส์
เปิดตัว Happitat

ภายใน Happitat มีพื้นที่ใช้สอยรวม 211,200 ตารางเมตร จะแบ่งเป็นอาคารสำนักงาน 10 ชั้น พื้นที่รวม 61,900 ตารางเมตร, อีเวนต์ ฮอลล์ และพื้นที่จัดกิจกรรมต่างๆ พื้นที่รวม 4,000 ตารางเมตร ส่วนที่เหลือคือพื้นที่รีเทล

อรดาฉายภาพ Happitat เมื่อเปิดใช้ช่วงกลางปี 2567 จะออกแบบเป็นธีมแฟนตาซีแบบ “Magical Themed” และร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ ภายในโซนนี้จะมีการออกแบบพิเศษให้เข้ากับคอนเซ็ปต์เมืองฟอเรสเทียส์ เป็นร้านที่มีความเอ็กซ์คลูซีฟ รวมถึงโครงการจะจัดอีเวนต์หมุนเวียนตามเทศกาลเพื่อให้บรรยากาศมีความสนุกสนานรื่นเริงตลอดปี ทั้งนี้ เดอะ ฟอเรสเทียส์เริ่มใช้พื้นที่อีเวนต์ทดลองจัดงานตามเทศกาลต่างๆ มาแล้วหลายครั้ง เช่น งานฮัลโลวีน งานคริสต์มาส งานปีใหม่ งานสงกรานต์

เดอะ ฟอเรสเทียส์

นอกจากพื้นที่ Happitat ที่สามารถจัดอีเวนต์ได้แล้ว อรดายังกล่าวถึงเดอะ ฟอเรสเทียส์ว่าเป็นโครงการเดียวในบริเวณกรุงเทพฯ ที่มี ‘Forest Attraction’ มีป่าเป็นจุดดึงดูดการทำกิจกรรม ทำให้ต่อไปจะนำป่ามาเป็นส่วนหนึ่งของการจัดอีเวนต์ เช่น Immersive Dining in Forest การทานอาหารในป่าพร้อมกิจกรรมแสงสีเสียงประกอบ หรือจัดคอร์ส Forest School ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ป่า เป็นต้น

ภายในอีเวนต์ The Forestias Story & Beyond “ภารุต เพ็ญพายัพ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โครงการ MQDC Idyllias ยังนำเสนอโลกเสมือน “เมตาเวิร์ส” ที่จะมาพร้อมกับเดอะ ฟอเรสเทียส์ด้วย โดยโครงการจะมี ‘Digital Twin’ ในโลกดิจิทัล ลูกบ้านจะได้รับยูนิตเสมือนในดิจิทัล และสามารถเข้าสู่โลกเมตาเวิร์ส ใช้ชีวิตทำกิจกรรมต่างๆ ได้ในโลกเสมือน พร้อมรับสิทธิประโยชน์จาก MQDC ในฐานะลูกบ้านของเดอะ ฟอเรสเทียส์

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมห้องตัวอย่างของที่พักอาศัยในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ได้ที่โครงการริมถนนบางนาตราด กม.7 และเข้าชมผืนป่า 30 ไร่ได้แล้ว