“PROUD” จ่อเข้าซื้อคอนโดฯ 2 แห่งจาก “NOBLE” ย้ำเป็น “วิน-วิน” ดีล กลยุทธ์ทางการเงินลงตัว

PROUD NOBLE
(ซ้าย) “พสุ ลิปตพัลลภ” กรรมการบริหาร PROUD และ (ขวา) “ธงชัย บุศราพันธ์” รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม NOBLE
  • “PROUD” ควง “NOBLE” ย้ำดีลการเข้าซื้อขายคอนโดฯ “นิว ครอส คูคต สเตชั่น” และ “นิว ดิสทริค อาร์ 9” ชี้ข้อตกลงนี้เป็น “วิน-วิน” ดีล พราวได้อุดช่องว่างการรับรู้รายได้ในช่วงปี 2567-68 ขณะที่โนเบิลได้ถอนทุนคืนเร็ว
  • PROUD จะระดมทุนส่วนหนึ่งจากการขายหุ้นเพิ่มทุน ซึ่งทาง NOBLE จะเข้าซื้อหุ้นส่วนนี้ด้วยในอัตราไม่เกิน 5-10% 

ตามกระแสข่าวก่อนหน้านี้ที่ บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD ประกาศการเข้าซื้อคอนโดมิเนียม 2 โครงการ คือ “นิว ครอส คูคต สเตชั่น” และ “นิว ดิสทริค อาร์ 9” ซึ่งทั้งสองโครงการนี้พัฒนาโดยบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE และ บริษัท ทีเอ็นแอล อัลไลแอนซ์ จำกัด หรือ TNLA (*บริษัทนี้อยู่ภายใต้ บมจ.ธนูลักษณ์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของกลุ่มบีทีเอสกับเครือสหพัฒน์)

“พสุ ลิปตพัลลภ” กรรมการบริหาร PROUD ชี้แจงที่มาที่ไปของการเข้าซื้อทั้งสองโครงการนี้ว่า เกิดจากไปป์ไลน์การพัฒนาโครงการของบริษัท โครงการส่วนใหญ่ที่กำลังพัฒนาตามแผนอยู่นั้นจะเริ่มโอนได้ในช่วงปี 2569 เป็นต้นไป ขณะที่ในช่วงปี 2567 บริษัทจะมีการรับรู้รายได้จากโครงการบ้านเดี่ยว “VI อารีย์” มูลค่าโครงการ 495 ล้านบาท เพียงโครงการเดียว และในปี 2568 จะมีการโอนคอนโดฯ “เวหา หัวหิน” มูลค่าโครงการ 2,290 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้รายได้เติบโตไม่สม่ำเสมอ

PROUD NOBLE
แถบสีน้ำเงินคือมูลค่าโครงการจากคอนโดฯ “นิว” 2 แห่งที่จะเข้ามาเติมช่องว่างการรับรู้รายได้ในปี 2567-68

เมื่อมีดีลจาก NOBLE เข้ามาจึงพบว่าเป็นดีลที่ลงตัวกับช่องโหว่การรับรู้รายได้ของบริษัท เพราะคอนโดฯ “นิว ครอส คูคต สเตชั่น” จะสร้างเสร็จต้นปี 2567 และ “นิว ดิสทริค อาร์ 9” จะสร้างเสร็จในปี 2568 มูลค่าโครงการ 2 แห่งรวมกว่า 8,600 ล้านบาท หากทำการเข้าซื้อกิจการสองแห่งนี้ บริษัทจะมีรายได้เข้ามาอุดช่องโหว่พอดีในปี 2567-68

อีกทั้งโครงการนิว ครอส คูคต สเตชั่นยังปิดการขายได้แล้ว 100% ขณะที่นิว ดิสทริค อาร์ 9 ปิดการขายไปแล้ว 83% และมีแนวโน้มที่จะปิดการขายทั้งโครงการได้ในสิ้นปีนี้ จึงมองว่าเป็นโครงการที่ความเสี่ยงต่ำ เหมาะที่จะลงทุน

นิว ครอส คูคต สเตชั่น

ขณะที่ “ธงชัย บุศราพันธ์” รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม NOBLE อธิบายการตกลงดีลในครั้งนี้ว่า เกิดจากกลยุทธ์ของบริษัทต้องการหมุนเวียนเงินทุนให้เร็วเพื่อการเติบโตลงทุนในโครงการใหม่ได้เร็วขึ้น สังเกตว่าที่ผ่านมาบริษัทมีการขายคอมมูนิตี้มอลล์หรือพื้นที่พาณิชย์ด้านหน้าคอนโดฯ ต่างๆ ออกไปเพื่อให้บริษัทมีลักษณะ ‘Asset Light’

ในกรณีของคอนโดฯ 2 แห่งนี้ก็เช่นกัน เนื่องจากเป็นคอนโดฯ ร่วมพัฒนากับ TNLA ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนด้านการเงินในบริษัทร่วมทุน และมีเงื่อนไขให้ตั้งแต่แรกเริ่มว่าหากบริษัทสามารถรับรู้รายได้และคืนทุนพร้อมกำไรให้ TNLA ได้เร็วมากขึ้น ทาง NOBLE ในฐานะผู้บริหารโครงการจะยิ่งได้รับ ‘เงินอัดฉีด’ เพิ่มเป็นแรงจูงใจ

นิว ดิสทริค อาร์ 9 ทำเลนิวซีบีดี ใกล้ MRT พระราม 9

เมื่อคำนวณดีลการขายคอนโดฯ 2 แห่งนี้ แม้ว่าการขายให้ PROUD จะต้องแบ่งกำไรออกไป แต่เมื่อได้เงินอัดฉีดจูงใจจาก TNLA เพิ่มตามเงื่อนไข ผลลัพธ์คือ NOBLE มองว่าบริษัทจะได้ผลประโยชน์ที่คุ้มค่ากว่า และได้เงินหมุนเวียนไปลงทุนใหม่ได้เร็วขึ้นด้วย

“หลายคนจะถามว่ามีใครในดีลนี้มีปัญหาทางการเงินหรือเปล่า คำตอบคือ เปล่าเลย ทุกคนต่างก็วิน-วินกันทั้งหมด” ธงชัยกล่าว

 

NOBLE เตรียมเข้าถือหุ้นใน PROUD

ด้านมูลค่าการซื้อขายภายใต้ดีลนี้ พสุกล่าวว่า PROUD ตกลงเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท คูคต สเตชัน อัลไลแอนซ์ จำกัด หรือ KK และ ของบริษัท พระราม 9 อัลไลแอนซ์ จำกัด หรือ PA9 ในสัดส่วน 100% ปิดราคาเข้าซื้อที่ 1,735 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามจะต้องมีการหาแหล่งทุนเพิ่มเพื่อก่อสร้างโครงการทั้ง 2 แห่งต่อเนื่องจนเสร็จสิ้น ทำให้เงินทุนที่ต้องการเท่ากับ 2,490 ล้านบาท

PROUD NOBLE

ดังนั้น PROUD จะแบ่งการระดมทุนออกเป็น 2 แหล่ง คือ

  • ออกหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของ PROUD (Right Offering: RO) ในอัตราส่วน 80 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคา 1.75 บาทต่อหุ้น รวมมูลค่าไม่เกิน 624 ล้านบาท
  • เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน เพื่อเป็นเงินทุนเสริมสภาพคล่อง ประมาณ 1,890 ล้านบาท

การดำเนินการออกหุ้นเพิ่มทุนทั้งหมดจะเสร็จสิ้นกระบวนการภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ทำให้ฝั่ง NOBLE จะสามารถบันทึกกำไรพิเศษได้ในไตรมาส 3/2566

ธงชัยยังกล่าวด้วยว่า NOBLE จะมีการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ PROUD ในเดือนกรกฎาคมนี้ด้วย โดยคาดว่าจะเข้าซื้อเป็นสัดส่วนหุ้นไม่เกิน 5-10% ของบริษัท PROUD

PROUD NOBLE

ด้านพสุแย้มว่า ดีลครั้งนี้จะเป็นการเปิดประตูสู่เซ็กเมนต์ใหม่ให้บริษัทด้วย เพราะที่ผ่านมาบริษัทมีพอร์ตโฟลิโอเฉพาะโครงการระดับไฮเอนด์ แต่แบรนด์ “นิว” จะทำให้บริษัทเรียนรู้เซ็กเมนต์ระดับกลางถึงกลางล่าง ได้เริ่มต้นสร้างบุคลากรเพื่อจะบุกตลาดใหม่ๆ ต่อไป

สำหรับลูกค้าที่จองซื้อห้องชุดในโครงการทั้งสองแห่ง ทาง NOBLE จะยังเป็นผู้บริหารโครงการ ควบคุมการก่อสร้างให้เป็นไปตามข้อผูกพันในสัญญาจะซื้อจะขาย และผู้รับประกันผลงานการก่อสร้าง ทำให้ลูกค้าไม่ได้รับผลกระทบจากดีลในครั้งนี้