-
ผลประกอบการ “แม็คกรุ๊ป” 9 เดือนแรกรอบบัญชีปี 2566 ทำรายได้เติบโต 24% กำไรสุทธิโต 22% จากกลยุทธ์การปรับตัวมาตลอด 1 ปี และสภาวะตลาดดีขึ้น
-
ต้อนรับรอบบัญชีปี 2567 “แม็คยีนส์” เปิดตัว “อนันดา เอเวอริ่งแฮม” เป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ ตอกย้ำคอนเซ็ปต์แบรนด์ยีนส์ที่ใส่ได้หลากหลายไลฟ์สไตล์
-
ตั้งเป้าปี 2567 เติบโตต่อแบบดับเบิล ดิจิต ทุ่มงบการตลาดเป็น 100 ล้านบาท
“เจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC เปิดเผยผลประกอบการของบริษัทรอบบัญชีปี 2566 ช่วง 9 เดือนแรก (ก.ค. 2565 – มี.ค. 2566) ทำรายได้ไป 2,847 ล้านบาท เติบโต 24% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 525 ล้านบาท เติบโต 22% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน
เจมส์คาดว่ารอบบัญชีปี 2566 บริษัทน่าจะทำรายได้แตะ 3,700 ล้านบาทได้ ซึ่งจะกลับไปเทียบเท่ากับรอบบัญชีปี 2562 ส่วนกำไรสุทธินั้นแค่เพียง 9 เดือนแรกสามารถทำได้สูงกว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเรียบร้อยแล้ว
สาเหตุที่ผลประกอบการแม็คกรุ๊ปปรับตัวดีขึ้นมาจากการปรับกลยุทธ์ภายในมาตั้งแต่ปี 2564-65 เช่น การปรับพอร์ตสินค้าให้เป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่มากกว่าสินค้ายีนส์ เสริมยอดขายต่อบิลได้สูงขึ้น, ปรับหน้าตาร้านค้าให้ดึงดูดลูกค้าได้ดีขึ้น, เพิ่มความแข็งแกร่งของระบบ CRM
รวมถึงตลาดที่ฟื้นตัวจากการปลดล็อกกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในไตรมาสแรกของรอบปีบัญชีนี้ (ก.ค.- ก.ย. 2565) รายได้ของแม็คกรุ๊ปดีดตัวขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าอย่างมาก
ทั้งหมดทำให้วันนี้แม็คกรุ๊ปฟื้นจากช่วงโควิด-19 ซึ่งเคยเผชิญวิกฤตจากที่ศูนย์การค้าต้องปิดชั่วคราวเพื่อป้องกันโรคระบาด
วางเป้าปี 2567 โต “ดับเบิล ดิจิต” ต่อเนื่อง
เจมส์กล่าวต่อว่า กลยุทธ์รอบบัญชีปี 2567 ของ “แม็คยีนส์” หลายอย่างจะสานต่อจากที่ปรับตัวมาตลอดและจะชัดเจนยิ่งขึ้น โดยแบ่งเป็น 4 กลยุทธ์หลัก คือ
1.สร้างความแข็งแกร่งให้พอร์ตโฟลิโอสินค้า – แผนต่อเนื่องจากเดิมที่แม็คยีนส์เริ่มกระจายพอร์ตมีสินค้าที่ไม่ใช่ยีนส์ (non-denim) ในร้านมากขึ้น หลังจากนี้จะต้องทำให้สินค้าทุกกลุ่มแข็งแรงในตัวเอง
2.ลงทุนกับการสร้างแบรนด์ “แม็คยีนส์” – สร้างแบรนด์ให้ชัดเจนอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้เปิดตัว “อนันดา เอเวอริงแฮม” เป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์
3.ยกระดับประสิทธิผลในช่องทางการขาย – ปรัชญาการบริหารหน้าร้าน “ของเต็ม ขายเก่ง ร้านสวย” จะถูกนำไปปฏิบัติ โดยเฉพาะงานบริการ จะมีการฝึกฝนพนักงานร้านให้ดูแลลูกค้าได้ดีขึ้น
4.เสริมประสบการณ์กับแบรนด์ตลอดเส้นทางการขาย – บริษัทจะหาทางสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าตลอดเส้นทางตั้งแต่การทำความรู้จักจนถึงการซื้อสินค้า
ในแง่งบลงทุนปีหน้าเตรียมงบไว้ 100 ล้านบาท แบ่งเป็นการเปิดสาขาใหม่และรีโนเวตสาขาเดิม 50 ล้านบาท และการปรับระบบภายในและด้านไอทีอีก 50 ล้านบาท ส่วนงบด้านการตลาดก็จะปรับขึ้นอีกเป็น 100 ล้านบาท
โดยเจมส์คาดว่ารอบปี 2567 บริษัทน่าจะยังโต “ดับเบิล ดิจิต” ได้ต่อเนื่องจากกลยุทธ์เหล่านี้
“สร้างแบรนด์” ให้ชัดขึ้นผ่าน “อนันดา เอเวอริงแฮม”
สำหรับกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ปีนี้แม็คยีนส์ได้เลือก “อนันดา เอเวอริงแฮม” เป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์หลัก ถือเป็นคนแรกที่แบรนด์เลือกเพื่อโปรโมตให้กับแม็คยีนส์ทั้งหมดทุกคอลเล็กชัน จากในอดีตมักจะมีพรีเซ็นเตอร์ประจำคอลเล็กชันมากกว่า เช่น โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้คอลเล็กชัน แม็ค ไบเกอร์ หรือ หมอเจี๊ยบ-ลลนา ก้องธรนินทร์ เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้คอลเล็กชัน แม็ค กราฟฟิตี้ เพลย์
เหตุที่เลือกอนันดาเพราะมีไลฟ์สไตล์ที่ตรงกับความเป็นแม็คยีนส์ ตามสโลแกน “MY MC MY WAY ชีวิต…เต็มแม็ค” อนันดามีกิจกรรมหลากหลายเหมือนกับการใส่ยีนส์ที่สามารถปรับแฟชันให้เข้ากับทุกกิจกรรมได้ และเป็นคนที่แต่งตัวในสไตล์เดนิมอยู่แล้ว
ด้าน “ประพัฒน์ เสียงจันทร์” ประธานเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจและการขาย บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการเปิดตัวแบรนด์ แอมบาสเดอร์ครั้งนี้ มาพร้อมกับการเปิดนำยีนส์รุ่น “Mc3109” ในตำนานของแม็คยีนส์กลับมาอีกครั้ง
โดยยีนส์ทรงขากระบอกเล็ก (Straight) ยอดฮิตตัวนี้ในคอลเล็กชันใหม่จะกลับมาถึง 5 เฉดสีให้เลือก และมีองค์ประกอบของวัสดุเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Material) เช่น กระดุมและรีเวทที่ใช้กรรมวิธีทำสีที่กำจัดมลพิษอันตราย ลดการปล่อยของเสีย ลดใช้สารเคมี, ผ้าเทปซิป ใช้วัสดุจากขวดพลาสติกและเศษผ้าที่ผ่านกระบวนการรีไซเคิลมาทอขึ้นใหม่
รอบปีบัญชี 2567 ของแม็คกรุ๊ป จะได้เห็นการออกคอลเล็กชันใหม่ที่ต่อเนื่องมากขึ้น และมีการนำยีนส์รุ่นยอดนิยมสับเปลี่ยนมาทำการตลาดตลอดปี โดยขณะนี้บริษัทเตรียมแผนการออกสินค้าใหม่และโปรโมตสินค้าครบตลอดทั้งปีไว้เรียบร้อยแล้ว
ประพัฒน์ยังกล่าวถึงการปรับประสบการณ์ในร้านด้วยว่า ปีนี้จะได้เห็นการปรับบริการของพนักงานที่ชัดเจนขึ้น ถือเป็นงานที่ท้าทายมากทีเดียวเพราะ “แม็คยีนส์” ปัจจุบันมี 600 สาขาทั่วประเทศ และมีพนักงานถึง 1,600 คน