เห็นการพัฒนาในต่างประเทศมานาน วันนี้เมืองไทยก็มีแล้วเหมือนกันสำหรับร้านสะดวกซื้อที่ลูกค้าสามารถ “หยิบของ เดินออกได้เลย” ใช้เทคโนโลยีตรวจจับและหักเงินชำระค่าสินค้าได้อัตโนมัติ ไม่ต้องมีแคชเชียร์ ไม่ต้องสแกนบาร์โค้ด สาขาแรกที่เกิดขึ้นในไทยอยู่ที่ “Lotus’s PICK & GO by True Digital” ในศูนย์การค้า “โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์” โดยร่วมกับ “ทรู คอร์ปอเรชัน” เป็นผู้พัฒนาระบบ “True Virgo AI” เทคโนโลยีเบื้องหลังร้านไร้แคชเชียร์แห่งนี้
“มนต์ชัย อินทรพรอุดม” ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานพัฒนาการปฏิบัติการธุรกิจ โลตัส ประกาศการเปิดตัวร้านสะดวกซื้อโมเดลใหม่ “Lotus’s PICK & GO by True Digital” ร้านสะดวกซื้อแห่งแรกในไทยที่ลูกค้าสามารถ “หยิบของ เดินออกได้เลย” โดยไม่ต้องรอคิวสแกนบาร์โค้ดเพื่อชำระค่าสินค้า
Lotus’s PICK & GO สาขาแรกตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้า “โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์” เป็นโซนที่แยกจากพื้นที่ไฮเปอร์มาร์เก็ต โดยใช้พื้นที่ 30 ตารางเมตรวางจำหน่ายสินค้า 400 รายการ เน้นเฉพาะสินค้าสะดวกซื้อที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ส่วนใหญ่ 90% เป็นอาหารและเครื่องดื่ม เช่น น้ำดื่ม น้ำอัดลม นม ขนม อาหารแช่แข็ง และอีก 10% เป็นของใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าอนามัย กระดาษทิชชู่ แชมพู สบู่ ยาสีฟัน
วิธีการใช้งานมี 4 ขั้นตอน คือ
- เปิดแอปพลิเคชัน True Money สแกน QR CODE ณ แผงกั้นทางเข้าร้าน (*ต้องมีเงินในวอลเล็ตขั้นต่ำ 200 บาท)
- เดินเลือกสินค้าภายในร้าน หยิบสินค้าที่ถูกใจ
- เดินผ่านแผงกั้นทางออกร้าน ระบบจะหักเงินค่าสินค้าในวอลเล็ต True Money ที่ใช้สแกนเข้าร้านโดยอัตโนมัติ (ไม่ต้องหยิบมือถือสแกนซ้ำ)
- สแกน QR CODE หลังทางออกร้านเพื่อกรอกอีเมลรับใบเสร็จรับเงินจากโลตัส
มนต์ชัยกล่าวว่า ร้านลักษณะหยิบสินค้า เดินออกได้เลยแบบนี้ในต่างประเทศมีการใช้งานมาแล้วหลายปี ไม่ว่าจะในจีน สหรัฐฯ หรือยุโรป แต่ในประเทศไทยถือว่าโลตัสเป็นผู้นำการเปิดตัวสาขาแรก มีเป้าหมายเพื่อทำให้ลูกค้าสะดวกสูงสุดในการซื้อของกับโลตัส
“ต่อไปคำพูดที่ว่า ‘ขอแวะซื้อของแป๊ปเดียว’ จะแป๊ปเดียวจริงๆ เพราะลูกค้าสามารถสแกนเข้าร้าน หยิบของ เดินออกจากร้าน ซื้อของเสร็จได้ในเวลา 1 นาที ไม่ต้องเสียเวลารอคิวชำระเงินอีกแล้ว” มนต์ชัยกล่าว
AI ของ “ทรู” เบื้องหลังเทคโนโลยีร้านไร้แคชเชียร์
ด้านเทคโนโลยีของร้าน Lotus’s PICK & GO มาจากการพัฒนาของ “ทรู” นี่เอง โดย “เอกราช ปัญจวีณิน” หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านดิจิทัล บมจ.ทรู คอร์ปอเรชัน กล่าวว่าทรูมีการพัฒนาระบบ “True Virgo AI” ซึ่งเป็น RetailTech เทคโนโลยีที่ใช้งานกับกลุ่มค้าปลีก และใช้ระบบนี้ทำงานร่วมกับโลตัสมานานหลายปี
ที่ผ่านมา True Virgo AI ใช้ทำงานได้หลายรูปแบบ เช่น ติดกล้องวงจรเพื่อทำ “Store Analytics” นำภาพที่ได้มาวิเคราะห์ทราฟฟิกลูกค้าที่เข้าออกร้าน และกล้องยังแจ้งเตือนพนักงานได้ด้วยว่าสินค้ากำลังจะหมดจากชั้นวาง ให้พนักงานนำสินค้ามาเติม เป็นต้น
ล่าสุด True Virgo AI พัฒนาไปอีกขั้นคือการนำมาลงระบบในร้าน Lotus’s PICK & GO ทำให้เป็นร้านที่ไร้แคชเชียร์ สามารถหยิบของเดินออกได้ทันที
โดยเบื้องต้นร้านสาขาแรกนี้ยังมีแผงทางเข้าและทางออกฝั่งละ 1 เลนเท่านั้น และยังจำกัดคนเข้าใช้บริการพร้อมกันได้สูงสุด 6 คน เพราะต้องการทดลองความสามารถในการใช้งานจริงก่อน แต่ในอนาคตร้านโมเดลนี้สามารถเพิ่มเลนทางเข้า-ทางออกได้ เพิ่มจำนวนคนเข้าใช้บริการพร้อมกันได้อีกมาก และจะขยายขนาดร้านให้ใหญ่กว่า 30 ตร.ม.ก็ทำได้เช่นกัน
ส่วนกรณีที่หลายคนน่าจะกังวลว่า ร้านลักษณะนี้จะป้องกันการโกงหรือการขโมยของได้หรือไม่เนื่องจากไม่มีพนักงานเฝ้าร้าน เอกราชกล่าวว่า บริษัทได้ทดลองเป็นการภายในจนมั่นใจได้ว่าระบบนี้สามารถป้องกันขโมยได้ค่อนข้างสูงแล้วจึงนำมาใช้งานจริงที่โลตัส เชื่อว่าโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดหรือการขโมยจะน้อยมาก
มีกล้องทุกย่างก้าว
Positioning ได้ทดลองใช้งานจริงที่ Lotus’s PICK & GO มาแล้ว และพบว่าในสถานการณ์ที่มีคนในร้านพร้อมกัน 6 คน (ตามลิมิตสูงสุดปัจจุบัน) ระบบสามารถคิดเงินค่าสินค้าได้อย่างถูกต้อง
จากการพูดคุยรายละเอียดทางเทคโนโลยีกับทีมงานทรู พบว่าทรูมีการศึกษาดูงานจากต่างประเทศ เช่น Amazon Go ในสหรัฐฯ, ซูเปอร์มาร์เก็ต เหอหม่า ในประเทศจีน จากนั้นจึงมาพัฒนาด้วยทีมงานคนไทยเอง รวบรวมข้อดีข้อเสียของระบบต่างๆ และนำมาปรับปรุงให้เหมาะกับบริบทของเมืองไทย เช่น ระบบของทรูมีความท้าทายคือต้องตรวจจับสินค้าที่วางเบียดกันเต็มชั้นวางให้ได้ตามโจทย์ของโลตัส ซึ่งจะไม่เหมือนกับใน Amazon Go ที่มีการวางสินค้าห่างกันเพื่อให้กล้อง AI ทำงานง่าย
ความลับเบื้องหลังการทำงานของ AI มาจากการลงทั้งโครงสร้างพื้นฐานและการทำระบบรองรับ เช่น
- ติดตั้งกล้องวงจร 38 ตัว (ในร้านขนาด 30 ตร.ม.) แบ่งเป็นกล้อง 2 ประเภท คือ
– กล้องตรวจจับความเคลื่อนไหวของลูกค้า ติดตั้งบนเพดานร้าน
– กล้องตรวจจับภาพสินค้าบนชั้นวาง ติดตั้งด้านบนและด้านล่างของชั้นวางสินค้า - สินค้าทุกชิ้นที่เข้ามาวางขายในร้านจะผ่านการสแกนรอบตัวแบบ 360 องศา เพื่อให้ระบบจดจำหน้าตาของสินค้าได้จากทุกมุม
การทำงานของระบบคือ เมื่อลูกค้าสแกน True Money เข้ามาในร้าน กล้องจับความเคลื่อนไหวจะคอยติดตามลูกค้าทุกย่างก้าว เมื่อลูกค้าหยุดยืนหน้าชั้นวาง และกล้องจับภาพสินค้าพบว่ามีการหยิบของออกจากเชลฟ์ ระบบจะบันทึกข้อมูลไว้ว่าลูกค้ารายนี้หยิบสินค้าชิ้นนี้ไป
กรณีที่มีการหยิบสินค้ามาดูและวางคืนเชลฟ์ ระบบจะตัดรายการนั้นออกจากการรอชำระเงินทันที แม้แต่การวางคืนไม่ตรงล็อกที่เดิม AI ก็รู้ได้เพราะมีการสแกนหน้าตาสินค้าไว้แล้ว ทำให้ AI ทราบว่าลูกค้าคืนสินค้าอะไรกลับไปในเชลฟ์
เมื่อกล้องมีระบบตรวจจับในขั้นตอนการนำสินค้าเข้าหรือออกจากชั้นวางและบันทึกไว้ทั้งหมด ทำให้ไม่ว่าลูกค้าจะหยิบสินค้าแล้วใส่กระเป๋าทันทีหรือใส่ถุงที่เตรียมมา เมื่อถึงเวลาเดินออกจากแผงกั้นทางออก ระบบก็จะคิดเงินได้อย่างถูกต้อง ไม่สามารถแอบซ่อนไม่ชำระเงินได้
สาขาต่อไปมาแน่ แต่ต้องลุ้นว่าจะเป็นที่ไหน
ด้านการขยายสาขา Lotus’s PICK & GO มนต์ชัยแย้มว่ามีแผนจะขยายต่ออย่างแน่นอน เบื้องต้นจะเลือกลงในสาขาที่ประกบกับไฮเปอร์มาร์เก็ตเหมือนที่โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์ก่อน เพราะต้องการให้มีทราฟฟิกลูกค้าประจำที่แวะเวียนมาทดลองใช้บริการ Lotus’s PICK & GO ให้มากที่สุด
ส่วนการขยายไปใช้กับร้านสะดวกซื้อหรือค้าปลีกอื่นๆ ภายใต้อาณาจักรเจริญโภคภัณฑ์ เอกราชกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ แต่จะเป็นเมื่อไหร่หรือกับร้านแบรนด์ไหนนั้นต้องรอติดตามกันในภายหลัง