TikTok ยังลุยตลาดสหรัฐฯ แม้เสี่ยงโดนแบน เข็นธุรกิจ E-Commerce ชนคู่แข่งสำคัญอย่าง Shein

ภาพจาก Shutterstock
TikTok ยังลุยตลาดสหรัฐอเมริกา โดยล่าสุดเตรียมจะเปิดตัวธุรกิจ E-Commerce ที่ขายสินค้าทุกชนิดที่นำเข้าจากประเทศจีน เพื่อแข่งกับ Shein ซึ่งเป็นคู่แข่งรายสำคัญ อย่างไรก็ดีก็ยังมีความเสี่ยงในการขยายธุรกิจในสหรัฐอเมริกาเนื่องจากปัญหาด้านความมั่นคง

The Wall Street Journal รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า TikTok เตรียมที่จะเปิดตัวธุรกิจ E-Commerce ของบริษัทในสหรัฐอเมริกา เพื่อที่จะแข่งขันในการแย่งชิงลูกค้ากับ Shein ที่เป็นแพลตฟอร์มคู่แข่งสำคัญที่กำลังตีตลาดแดนมะกันในตอนนี้

โมเดลที่ TikTok จะนำมาใช้คือการขายสินค้าทุกชนิดเหมือนกับ Amazon ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งสินค้าเหล่านี้นำเข้ามาจากประเทศจีน นอกจากนี้ผู้ใช้งานสามารถที่จะรีวิวร้านค้าทั้งในแพลตฟอร์มหรือแม้แต่ร้านค้าภายนอกได้ด้วย

ก่อนหน้านี้บริษัทได้เตรียมทุ่มเงินระดับหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อที่จะลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาแล้ว จากเหตุผลของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ประชากรกำลังเติบโตสูง และการเข้าถึง E-Commerce ยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนา

ไม่เพียงเท่านี้ TikTok เองยังต้องการที่จะใช้จุดเด่นคือเป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานต่อวันมากกว่า 1,000 ล้านคนในการหาโมเดลธุรกิจใหม่ด้วย ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ByteDance บริษัทแม่ได้หาโมเดลธุรกิจใหม่ เพื่อที่จะหารายได้เพิ่มเติมด้วย

ขณะเดียวกันตัวเลขล่าสุดผู้ใช้งาน TikTok ในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ราวๆ 150 ล้านคน นอกจากนี้สหรัฐอเมริกายังเป็นตลาดประเทศกำลังพัฒนาที่มีกำลังซื้อมากที่สุดในโลก ทำให้บริษัทเองก็ไม่สามารถที่จะทิ้งตลาดนี้ไปได้ และบริษัทเองยังวางเป้าหมายที่จะมียอดขายสินค้าออนไลน์รวม (GMV) ให้ได้มากถึง 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐด้วย

ในช่วงที่ผ่านมาแพลตฟอร์ม E-Commerce หลายเจ้าได้พยายามที่จะบุกตลาดโลก เพื่อแข่งขันกับ Amazon หรือคู่แข่งที่มาจากบริษัทจีน เช่น Aliexpress ของ Alibaba และ Temu ของ Pinduoduo หรือแม้แต่ Shopee ของ Sea อย่างไรก็ดีปัญหาด้านสภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาทำให้หลายแพลตฟอร์มต้องชะลอการขยายธุรกิจด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ดีการบุกตลาด E-Commerce ในสหรัฐอเมริกาอาจเป็นงานลำบากของ TikTok เนื่องจากปัญหาการถูกเพ่งเล็งจากรัฐบาลสหรัฐ จากเรื่องข้อมูลผู้ใช้งาน หรือแม้แต่ประเด็นด้านความมั่นคง ซึ่งเป็นประเด็นจากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับจีนในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั่นเอง