ผู้ให้บริการ Co Working Space อย่าง WeWork ล่าสุดสถานการณ์บริษัทส่อแววไม่รอดสูง หลังจากบริษัทรายงานผลขาดทุนอย่างต่อเนื่อง สภาพคล่องลดลงอย่างหนัก และบริษัทเองยังกังวลความสามารถในการดำเนินธุรกิจด้วย
WeWork ผู้ให้บริการเช่าพื้นที่ทำงาน (Co Working Space) ได้รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ของบริษัทว่า “กังวลความสามารถในการดำเนินธุรกิจ” ซึ่งบริษัทได้รายงานผลขาดทุนจากการดำเนินงานมากถึง 396 ล้านเหรียญสหรัฐ
รายงานผลประกอบการ บริษัทกล่าวว่า “มีข้อสงสัยอย่างมากเกี่ยวกับความสามารถของบริษัทในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง” บริษัทยังชี้แจงถึงความสามารถของบริษัทในการดำเนินกิจการได้นั้นขึ้นอยู่กับการดำเนินการตามแผนในการปรับปรุงสภาพคล่องและความสามารถในการทำกำไรในช่วง 12 เดือนข้างหน้าว่าขึ้นอยู่กับแผนการดำเนินงานของผู้บริหารหลังจากนี้
ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2023 นั้น WeWork มีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,693 ล้านเหรียญสหรัฐ ขาดทุนทั้งสิ้น 696 ล้านเหรียญสหรัฐ ไม่เพียงเท่านี้บริษัทมีสภาพคล่องเหลือแค่ 680 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น
แผนการของ WeWork ที่จะกู้ธุรกิจให้กลับมาอยู่รอดประกอบไปด้วย
- การลดค่าเช่าและการเช่าโดยการดำเนินการปรับโครงสร้างและการเจรจาเงื่อนไขการเช่าที่ดีขึ้น
- เพิ่มรายได้โดยการหาลูกค้าเพิ่มเติม
- ควบคุมค่าใช้จ่าย
- หาเงินทุนเพิ่มเติมโดยการออกหุ้นกู้ หรือหุ้นเพิ่มทุน ไปจนถึงมาตรการขายสินทรัพย์ของบริษัท
หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 บริษัทเชื่อว่าจะมีลูกค้าใหม่เข้ามาเป็นสมาชิกเพิ่ม นอกจากนี้ยังมีการลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น การไล่ปิดสาขา ปลดพนักงานมาเป็นระยะๆ รวมแล้วหลายพันคน แต่ก็ยังไม่ทำให้สถานการณ์ของบริษัทดูดีขึ้นเท่าไหร่นัก
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา WeWork เป็นหนึ่งในธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีมูลค่ามากที่สุดในสหรัฐอเมริกา มีบริษัทร่วมลงทุน หลายรายได้ลงทุนในระดับหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐ หรือแม้แต่กองทุนยักษ์ใหญ่อย่าง Vision Fund ของ SoftBank ก็ได้ลงทุนกับผู้ให้บริการ Co Working Space รายนี้ด้วย
มูลค่าบริษัทของ WeWork นั้นเคยสูงสุดมากถึง 47,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนที่ Adam Neumann ผู้ร่วมก่อตั้ง WeWork ต้องถูกบีบลาออกจากตำแหน่งหลังจากถูกวิจารณ์ว่าใช้อิทธิพลนำเพื่อนฝูงรวมถึงคนในครอบครัวมาปักหลักทำงานในบริษัท และยังมีข้อครหาในการนำอสังหาริมทรัพย์ของตัวเองมาปล่อยเช่าให้กับบริษัทด้วย
ผลจากการบริหารของ Adam Neumann ทำให้บริษัทมูลค่าตกลงก่อนการเข้าตลาดหุ้น จนท้ายที่สุดต้องมีการล้างบางผู้บริหารแทบทั้งหมด เพื่อฟื้นฟูความมั่นใจให้กับนักลงทุน แต่ราคาหุ้นหลังจาก IPO ไม่ได้กลับเพิ่มขึ้นเลยด้วยซ้ำ
ปัจจุบันราคาหุ้นของ WeWork ลดลงมาแล้วมากถึง 85% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงภาพรวมบริษัทที่น่ากังวลเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ (อดีต) CEO อย่าง Sandeep Mathrani ที่ได้เข้ารับเผือกร้อนในการฟื้นฟูกิจการในปี 2020 ที่ผ่านมา ก็ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีรักษาการ CEO เท่านั้น ยังไม่มีการหาหัวเรือใหญ่รายใหม่เข้ามาทดแทนแต่อย่างใด