แบรนด์หรูยอมจ่ายค่าเช่าแพงบนทำเลที่ดีที่สุดในเมืองมุมไบ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าในอินเดียโดยเฉพาะ

ภาพจาก Shutterstock
แบรนด์หรูทั่วโลกต่างจับจ้องตลาดอินเดียเป็นแหล่งรายได้ใหม่ หลายแบรนด์ยอมที่จะจ่ายค่าเช่าในราคาแพงมหาศาลเพื่อที่จะเปิดร้านในทำเลที่ดีที่สุดในเมืองมุมไบ เพื่อจะเจาะลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของอินเดียในตลาดแบรนด์หรูมากขึ้น

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวว่า อินเดียกำลังจะกลายเป็นตลาดสำคัญของเหล่าแบรนด์หรูทั่วโลก ซึ่งแต่ละแบรนด์ยอมจ่ายค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์บริเวณที่ดีที่สุด เพื่อที่จะเจาะเหล่าเศรษฐีที่มีกำลังซื้อ หลังจากหลายแบรนด์เองเริ่มที่จะเจาะตลาดในกลุ่มประเทศใหม่ๆ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Hermes ไปจนถึงแบรนด์รองเท้าหรูอย่าง Christian Louboutin รวมถึงแบรนด์อื่นๆ ได้ตั้งสาขาขึ้นในเมืองมุมไบ โดยแบรนด์เหล่านี้ยินดีจ่ายค่าเช่าในย่านที่ดีที่สุดของเมืองจนทำให้ค่าเช่าต่อเดือนเพิ่มขึ้นจากราว 6,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเป็น 7,250 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร

จากรายงานของ Knight Frank คาดการณ์ว่าชาวอินเดียที่มีทรัพย์สินเกิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐนั้นคาดว่าจะมีมากถึง 1.66 ล้านคนภายในปี 2027 ขณะที่เศรษฐีที่มีสินทรัพย์เกิน 30 ล้านเหรียญสหรัฐของอินเดียเพิ่มมากขึ้นถึง 60% ในปี 2022 ที่ผ่านมา

อีกสัญญาณหนึ่งที่แสดงให้เห็นการให้ความสำคัญของตลาดในอินเดีย คือ แฟชั่นโชว์ของ Dior ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งแบรนด์หรูรายนี้ได้เลือกสัญลักษณ์อย่าง Gateway of India ในเมืองมุมไบเป็นฉากหลังของโชว์ หรือแม้แต่คอลเลกชันของเสื้อผ้าในงานได้โชว์ศิลปะการเย็บปักถักร้อยแบบอินเดียเอาไว้ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการใช้เอกลักษณ์ดังกล่าวเพื่อที่จะดึงดูดลูกค้าในแดนภาระตะนี้ด้วย

Gateway of India ในเมืองมุมไบ ที่ Dior เลือกเป็นสถานที่จัดโชว์ – ภาพจาก Unsplash

สิ่งดังกล่าวหลายแบรนด์ทำไปเพื่อจะเจาะกลุ่มผู้บริโภคกำลังซื้อสูงในประเทศอินเดียที่กำลังเติบโต ซึ่งในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา GDP ของอินเดียเติบโตมากถึง 7.8%

ก่อนหน้านี้แบรนด์หรูหลายรายได้เริ่มที่จะเจาะกลุ่มเศรษฐีที่มีความมั่งคั่งทั่วโลก ไม่ใช่แค่ในสหรัฐอเมริกาหรือจีนเท่านั้น หลังจากที่รายได้จาก 2 ประเทศดังกล่าวเติบโตลดลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด หรือแม้แต่ความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่สภาวะถดถอย

นอกจากนี้ยังรวมถึงแบรนด์ต่างๆ โฟกัสตลาดอินเดียมากขึ้น ตั้งแต่ภาคการผลิต ที่มีการย้ายกำลังการผลิตออกนอกประเทศจีนเพิ่มมากขึ้น อย่างกรณีของ Apple และยังมีการเปิดหน้าร้านเพื่อขายผลิตภัณฑ์ของบริษัทซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจนทำให้ยอดขาย iPhone ในอินเดียทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามหลัง สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น จีน และสหรัฐอเมริกา

เมื่อแบรนด์หรูเริ่มให้ความสำคัญกับแดนภาระตะมากขึ้น เราคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า “อินเดีย” คือตลาดสำคัญอีกแห่ง ไม่ใช่ตลาดรองตามหลังประเทศใหญ่ๆ แล้วหลังจากนี้