แท็บเล็ตเบาๆ รับเทรนด์สุขภาพ

ข้อมูลจาก Davine Health and Beauty รายงานเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554 ว่าน้ำหนักกระเป๋าถือของผู้หญิงเฉลี่ย 3 กิโลกรัม เพราะใส่ของเยอะขึ้นตั้งแต่โน้ตบุ๊ก กล้อง ขวดน้ำ กระเป๋าเล็กกระเป๋าน้อย เครื่องสำอาง ร่ม และอื่นๆ ทำให้เกิดโรคปวดเมื่อยที่เรียกว่า Hand Bag Syndrome กันทั่วโลก จนนักบำบัดทั้งหลายพยายามแนะนำผู้ผลิตกระเป๋าโดยเฉพาะแบรนด์ดังๆ ให้ทำตลาดกระเป๋าไซส์เล็กกันเถอะ

แล้วควรจะหิ้วกันหนักแค่ไหน? ไม่มีตัวเลขบอกชัด แต่มีสถิตหนึ่งที่น่าสนใจว่า น้ำหนักกระเป๋าถือของผู้หญิงเพิ่มและลดตามพัฒนาการของอุปกรณ์เทคโนโลยี โดยห้างสรรพสินค้า Debenhams อังกฤษ รายงานเมื่อมกราคม 2553 ว่าน้ำหนักกระเป๋าถือโดยเฉลี่ยของผู้หญิงอังกฤษ ช่วงทศวรรษ 1990 หรือช่วงประมาณ 2534-2544 มีน้ำหนักกันเฉลี่ยที่ 1.4 กิโลกรัม ช่วงนั้นโทรศัพท์มือถือเฉลี่ยน้ำหนัก 247 กรัม นอกเหนือจากมีเครื่องสำอาง ทิสชู น้ำหอม หวี กระจกในกรเป๋าอยู่แล้ว

ในช่วงปี 2549-2550 น้ำหนักเพิ่มเป็น 3.5 กิโลกรัม เพราะถือคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ เครื่องเล่นเอ็มพี 3 ในปี 2553 น้ำหนักลดลงเหลือประมาณ 1.5 กิโลกรัม เมื่อไอโฟน และแบล็คเบอรี่ช่วยทำให้ทำงานได้ง่ายขึ้น แม้จะยังไม่มีผลวิจัยว่าแท็บเล็ตจะทำให้น้ำหนักกระเป๋าเพิ่มขึ้นหรือไม่ แต่เทรนด์กระเป๋าล่าสุดจากนักแฟชั่นหลายแห่ง ต่างก็ดีไซน์กระเป๋าที่มีช่องใส่แท็บเล็ตกันมากขึ้น 

กระเป๋าใส่แท็บเล็ตนี้ไม่ใช่แค่ทรงกระเป๋าหิ้วแบบโน้ตบุ๊กอีกต่อไป แต่ที่เห็นส่วนใหญ่คือภายนอกเป็นกระเป๋าแฟชั่นธรรมดา แต่ข้างในมีช่องแยกให้ใส่อุปกรณ์ Gadget กันอย่างหลากหลาย

ผลอันนี้ทำให้ผู้หญิงบางคนที่เคยแบกโน้ตบุ๊กด้วยอาจทำให้ถือเบาขึ้น หากเลือกแท็บเล็ตแทน เพราะเฉลี่ยน้ำหนักน้อยกว่าโน้ตบุ๊กอยู่แล้ว แต่บางคนอาจหิ้วเพิ่มขึ้น แต่ก็ยินดีถ้ามีแท็บเล็ตไว้ใช้ 

และนี่เองคือจุดแข็งหนึ่งของแท็บเล็ตที่มีขนาดเล็ก ที่เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 350 กรัม ขณะที่ขนาดจอใหญ่จะมากกว่า 600 กรัม ที่ตอบโจทย์ผู้หญิงจำนวนมากที่ไม่อยากถือของหนักและใหญ่จนเกินไป เพราะอย่าลืมว่าในกระเป๋าของสาวๆ ทั้งหลายยังมีเครื่องสำอาง และอีกหลายสิ่งที่เติมความสวย ความมั่นใจในกระเป๋า

 

อย่างไรก็ตาม Davine Health and Beauty มีข้อแนะนำสำหรับการถือว่าหนักแค่ไหน ถึงจะไม่ต้องเสี่ยงกับการเป็น Hand Bag Syndrome ดังนี้

– ขนาด ควรเลือกให้เหมาะ เช่น ถ้าร่างเล็ก ผอม ก็อย่าถือกระเป๋าใหญ่และหนัก

– น้ำหนัก อย่าให้หนักกว่า 10% ของน้ำหนักตัว เช่นหนัก 45 ก็อย่าเกิน 4.5 กิโลกรัม เพราะถ้าหนักเกินก็ทำให้หลัง คอ กล้ามเนื้อปวดแน่นอน 

– วัสดุ ที่เบาก็พวกผ้า ไวนิล ที่เบากว่าหนัง

– สายหิ้ว เลือกสายที่กว้าง และยาวเหมาะกับความสูง 

– พื้นที่ในกระเป๋า ถ้ามีของเยอะหลากหลาย ก็เลือกแบบที่มีหลายช่อง เพื่อจะได้กระจายน้ำหนักสิ่งของ และให้ของหนักๆ ก็อยู่ล่างๆ ไว้