เข้าสู่ปี 2024 บริษัทที่ปรึกษาด้านการตลาด “Kantar” รวบรวมข้อมูลและสรุปเทรนด์ด้าน “การตลาด” จากทั่วโลกที่นักการตลาดควรสนใจในปีนี้ โดย Positioning คัดมาให้ 5 เทรนด์สำคัญ ดังนี้
1.AI จะถูกใช้งานมากขึ้น
รายงาน Media Reactions 2023 ของ Kantar พบว่า 67% ของนักการตลาดรู้สึก “เป็นบวก” กับความเป็นไปได้ในการใช้เครื่องมือ Gen AI ทำให้เกิดการรับเทคโนโลยีใหม่นี้มาใช้งานอย่างรวดเร็ว อุตสาหกรรมการตลาดกำลังหาวิธีและโอกาสที่จะใช้ Gen AI สร้างประสิทธิภาพการทำงาน
เราได้เห็นแล้วว่าปีที่ผ่านมานักการตลาดเริ่มทดลองใช้ Gen AI เพื่อสร้างตัวเลือกไอเดียในระดับ ‘visual concept’ ให้เยอะและหลากหลายขึ้น และใช้ในการทำสตอรีบอร์ดให้ละเอียดประณีตขึ้น อนาคตเป็นไปได้ว่า Gen AI จะถูกใช้ทำ ‘media planning’ ด้วย
ใครก็ตามที่สามารถนำ AI มาใช้ได้ถูกจังหวะและเหมาะสมในปีนี้ จะเป็นเอเจนซีที่เตรียมตัวรับมือได้ดีกว่าคนอื่นแน่นอน
2.ผู้บริโภคเลือกแบรนด์ที่ “เชื่อในสิ่งเดียวกัน”
นักการตลาดต้องสื่อสารกับผู้บริโภคด้วยคาแรกเตอร์ที่เข้าใจกัน ทั้งในแง่ภาษา แฟชัน ดนตรี จนถึงแรงบันดาลใจ การตลาดจะสำเร็จได้เมื่อแบรนด์อยู่ในวัฒนธรรมเดียวกันกับลูกค้า และจะเสียลูกค้าไปเมื่อทำอะไรตรงข้ามกับสิ่งที่ลูกค้าเชื่อ
จากการสำรวจทั่วโลกของ Kantar พบว่า 80% ของผู้บริโภคบอกว่าตนเองจะ “พยายาม” ซื้อสินค้าจากบริษัทที่สนับสนุนสิ่งที่สำคัญกับใจพวกเขา
80% ของผู้บริโภคบอกว่าตนเองจะ “พยายาม” ซื้อสินค้าจากบริษัทที่สนับสนุนสิ่งที่สำคัญกับใจพวกเขา
ในทางกลับกัน ผู้บริโภคมีแนวโน้มจะต่อต้านแบรนด์ที่ไม่ตรงกับความเชื่อและคุณค่าที่ตัวเองยึดถือมากขึ้น Kantar มองว่าอนาคตผู้บริโภคจะมีความคาดหวังมากขึ้นที่แบรนด์จะต้องเดินไปด้วยกันกับผู้บริโภคในบทสนทนาที่ท้าทายสังคมต่างๆ ความคาดหวังนี้จะเป็นหนึ่งใน “ความเสี่ยง” ต่อแบรนด์ และนักการตลาดควรวางแผนรับมือเอาไว้ก่อน
3.แบรนด์ที่ดู “ล้ำ” จะเติบโตเร็วกว่าแบรนด์อื่น 3 เท่า
รายงาน BrandZ 2023 ของ Kantar พบว่า แบรนด์ที่ผู้บริโภคมองว่า “ล้ำ” มีนวัตกรรมสูง จะเติบโตได้เร็วกว่าแบรนด์อื่นๆ 3 เท่า
นักการตลาดก็เริ่มจับเทรนด์นี้ได้แล้วเช่นกัน โดย 57% ของนักการตลาดยอมรับว่าพวกเขาต้องสร้างข้อได้เปรียบด้านนวัตกรรมสินค้าและการตลาดให้มากขึ้น โดยเฉพาะการสร้างนวัตกรรมที่เกี่ยวกับความยั่งยืนซึ่งผู้บริโภคให้ความสำคัญ
Kantar บอกด้วยว่าแบรนด์ที่มักจะถูกมองว่าล้ำสมัยมักจะมีคาแรกเตอร์ 5 อย่างคล้ายๆ กัน คือ ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง, พื้นฐานแบรนด์แข็งแรงและสร้างนวัตกรรมจากพื้นฐานนั้น, เป็นผู้นำสร้างอนาคตของผลิตภัณฑ์ในหมวดของตัวเอง, นำหน้าในการสร้างความยั่งยืน และเป็นแบรนด์ที่กล้าเสี่ยงทดลองและเรียนรู้อะไรใหม่ๆ
4.แบรนด์ “ผู้ท้าชิง” มาแรง
ปี 2023 เป็นปีที่แบรนด์เล็ก แบรนด์รอง หรือกลุ่ม “ผู้ท้าชิง” สามารถเติบโตได้เร็วและบางครั้งคว่ำแบรนด์ใหญ่ได้ สิ่งนี้เกิดขึ้นทั่วโลก โดย Kantar พบว่า “1 ใน 2” ของผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะเลือกซื้อของจากบริษัทเล็กมากกว่าบริษัทใหญ่ระดับโลก
แบรนด์เล็กที่ท้าชิงสำเร็จมักจะเป็นแบรนด์ที่ท้าทายอะไรที่มีมาแบบ “เดิมๆ” ไม่ว่าจะเป็นคอนเซปต์สินค้า ไอเดียสินค้า ความต้องการผู้บริโภค กระทั่งโอกาสที่จะใช้สินค้านั้น แบรนด์เหล่านี้มักจะต้องการเปลี่ยนความคิดและจิตใจของผู้บริโภค
“1 ใน 2” ของผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะเลือกซื้อของจากบริษัทเล็กมากกว่าบริษัทใหญ่ระดับโลก
ในปี 2024 เชื่อได้ว่าแบรนด์เล็กผู้ท้าชิงเหล่านี้จะยังคงประสบความสำเร็จต่อเนื่องโดยใช้กลยุทธ์ต่างๆ เช่น นิชมาร์เก็ตหรือผลิตภัณฑ์ที่เจาะเฉพาะกลุ่มมาก, ใช้โซเชียลมีเดียและอินฟลูเอนเซอร์ผลักดันแบรนด์ให้เติบโต, นำทางแบรนด์ด้วยการเสนอวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนและการสร้างนวัตกรรมความยั่งยืน
- แนวโน้มการใช้ MARTECH ปี 2024 คู่มือสำหรับนักการตลาดเพื่อเป็นผู้มาก่อนกาล
- เจาะขุมทรัพย์กำลังซื้อ “แรงงานเมียนมา” 6.8 ล้านคนในไทย ช่องว่างที่รอแบรนด์ทำการตลาด
5.การใช้ ‘Search Engine’ จะยิ่งทวีความสำคัญ
ปี 2023 มีการประเมินว่า Google ถูกใช้งาน 6.3 ล้านครั้งในทุกๆ นาที และ Kantar พบว่า ‘Search Engine’ หรือการกดค้นหาจะเป็น touchpoint ที่สำคัญเป็นอันดับ 5 ในการสร้างผลดีผลเสียต่อแบรนด์ ถือว่าเพิ่มขึ้นสูงมากถ้าเทียบกับปี 2018 ซึ่งระบบการค้นหาออนไลน์ยังมีความสำคัญเป็นอันดับ 11
เนื่องจากการดิสรัปชันจาก AI ทำให้การค้นหาข้อมูลมีความซับซ้อนมากขึ้น และปี 2024 นักการตลาดจะต้องลงลึกว่า ‘customer journey’ การรับรู้แบรนด์ของลูกค้าผ่านช่องทางนี้จะเป็นอย่างไร ลูกค้าใช้คีย์เวิร์ดอะไรในการค้นหาสินค้าที่เกี่ยวข้องและใช้อย่างไร นี่เป็นห้วงเวลาที่แบรนด์ต้องประเมินกลยุทธ์ด้านคอนเทนต์ดิจิทัลของตัวเองเพื่อให้แน่ใจว่าคอนเทนต์จะไปถึงลูกค้าได้อย่างเหมาะสม
อ่านเทรนด์ด้านการตลาดที่เหลือจาก Kantar ได้ที่นี่