แข่งเป็นเมืองแห่งอีเวนต์! “ฮ่องกง” วางแผนดึง “ศิลปิน” ระดับโลกจัด “คอนเสิร์ต” กระตุ้นเศรษฐกิจ

เทย์เลอร์ สวิฟต์
(Photo: Emma McIntyre/TAS23/Getty Images for TAS Rights Management)
“จอห์น ลี” (ลี กาจิว) ผู้นำสูงสุดของฮ่องกง ประกาศนโยบายดึง “ศิลปิน” ระดับโลก เช่น เทย์เลอร์ สวิฟต์ เข้ามาจัด “คอนเสิร์ต” บนเกาะเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว แข่งขันกับเมืองหลักอื่นๆ ของเอเชียให้ได้

สำนักข่าว South China Morning Post รายงานว่า จอห์น ลี ผู้นำสูงสุดของฮ่องกง ให้คำมั่นว่าจะนำซูเปอร์สตาร์ระดับโลกมาจัดการแสดงบนเกาะฮ่องกงให้ได้ แต่ยอมรับว่าการเชิญชวนศิลปินมาจัดคอนเสิร์ตนั้นต้องใช้ความพยายามอย่างมาก “เหมือนชวนใครสักคนออกเดต”

โดยจะมีการทำงานผ่านคณะกรรมการด้านการท่องเที่ยวเพื่อสนับสนุนใ ‘one-stop shop’ ให้กลุ่มออร์กาไนเซอร์คอนเสิร์ตสามารถผ่านขั้นตอนต่างๆ ได้ง่ายที่สุด ทำให้ฮ่องกงมีเสน่ห์ดึงดูดการจัดอีเวนต์มากขึ้น

ไม่เฉพาะการดึงดูดคอนเสิร์ตของซูเปอร์สตาร์เท่านั้น ฮ่องกงยังต้องการดึงดูดอีเวนต์ระดับโลกทุกประเภทให้มาจัดบนเกาะ

“เราจะต่อสู้เพื่อสิ่งนี้ แต่ก็เหมือนการขอใครสักคนออกเดต” ลีกล่าว “ผมโทรฯ ไปหาเขาได้อยู่แล้ว แต่ก่อนอื่นต้องขึ้นอยู่กับเขาด้วยว่ามีเวลาจะคุยกับผมไหม และการมาจัดงานที่ฮ่องกงจะใส่เข้าไปในแผนของเขาได้หรือเปล่า”

ลีมองว่าการสร้างความสำเร็จของรัฐในประเด็นนี้ จะต้องอาศัยส่วนผสมของ “จังหวะเวลา สถานที่ และคน” ที่ถูกต้อง

เรจิน่า อิป ที่ปรึกษาคนสำคัญของรัฐบาลฮ่องกง เคยวิจารณ์ภาครัฐไว้ก่อนหน้านี้ที่ไม่สามารถดึงซูเปอร์สตาร์อย่าง “เทย์เลอร์ สวิฟต์” มาจัดคอนเสิร์ตในฮ่องกงได้ โดยสวิฟต์มีการจัดเวิลด์ทัวร์ 2024 ในเอเชีย แต่เธอเลือกจัดแสดงเพียง 2 ประเทศเท่านั้น คือ ญี่ปุ่น กับ สิงคโปร์

นอกจากสวิฟต์แล้ว อีกหนึ่งศิลปินดังระดับโลกที่มีทัวร์คอนเสิร์ตในเอเชียปีนี้อย่าง “Coldplay” ก็เลือกจัดแสดงเพียง 2 ประเทศเช่นกัน คือ สิงคโปร์ กับ ไทย ไม่มีแผนการจัดแสดงบนเกาะฮ่องกง

จอห์น ลี (ลี กาจิว) ผู้นำสูงสุดของฮ่องกง (Photo: Shutterstock)

ฮ่องกงจึงตื่นตัวมากในการดึงอีเวนต์ระดับโลกให้เข้ามามากขึ้น เพราะต้องการใช้อีเวนต์เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจภายในได้สองต่อคือทั้งการจัดอีเวนต์และการท่องเที่ยว

ระหว่างการหารือของภาครัฐ ซันนี่ ถัน ประธานสภาการสร้างประสิทธิผลแห่งฮ่องกง คือผู้เรียกร้องถึงรัฐบาลว่าควรจะมีการสร้าง “สถานที่” จัดคอนเสิร์ตหรืออีเวนต์ใหญ่ๆ ที่เหมาะสม โดยกล่าวเปรียบเทียบถึง “Opera House” ของซิดนีย์ ที่สามารถเป็นทั้งจุดจัดงานสำคัญและแลนด์มาร์กของเมืองได้

จอห์น ลีตอบเห็นด้วยว่าฮ่องกงควรจะมีสถานที่จัดงานที่ดีกว่านี้และมากกว่านี้ พร้อมเสนอแผนงานว่าจะมีการจัดสร้างสถานที่จัดอีเวนต์ให้มากขึ้นอีก 40% จากที่มีอยู่เดิม แต่จะต้องใช้เวลากว่าจะไปถึงจุดนั้นได้

ลียังเชิญชวนให้ภาคธุรกิจต่างๆ เข้าร่วมรวมกำลังกันเพื่อผลักดัน “เศรษฐกิจอภิมหาอีเวนต์” ให้เกิดขึ้นจริงบนเกาะฮ่องกง

“เพื่อฟื้นชีวิตชีวาให้กับเศรษฐกิจที่ขึ้นอยู่กับการจัดอีเวนต์ขนาดใหญ่ บทบาทของภาครัฐคือการเป็นโปรดิวเซอร์และคนเขียนบท” ลีกล่าว “แต่ออร์กาไนเซอร์และภาคธุรกิจต่างๆ ต้องเล่นตามบทบาทที่เขียนไว้ด้วย รวมไปถึงผู้บริหารและพนักงานในธุรกิจท่องเที่ยว เคเทอริ่ง และอุตสาหกรรมรีเทล”

เขากล่าวด้วยว่าตลาดเองก็ต้องมีสินค้าใหม่ๆ วิธีการใหม่ๆ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวและทำให้นักเดินทางต้องการอยู่เที่ยวต่อ รวมถึงกระตุ้นให้คนท้องถิ่นเองต้องการออกมาใช้จ่ายในเศรษฐกิจช่วงกลางคืนด้วย

“ผมเชื่อว่าผู้บริหารและพนักงานในฮ่องกงมีความสามารถ พวกเขาจะแสดงถึงองค์ประกอบที่สามารถสร้างความภาคภูมิใจและความสำเร็จให้กับฮ่องกงได้อีกครั้ง” ลีกล่าว

Source