สตาร์ทอัพสายโรงแรม “OYO” ยกเลิกเปิด IPO หันพึ่งนักลงทุนแม้จะถูกลดมูลค่าบริษัทฮวบ 70%

OYO
โรงแรม OYO ในอินโดนีเซีย (Photo: Shutterstock)
สตาร์ทอัพสายโรงแรมจากอินเดีย “OYO” ถอนตัวจากการเปิด IPO ในตลาดหุ้นอินเดียเป็นครั้งที่สอง และหันไปพึ่งพิงนักลงทุนอย่างที่เคย แม้จะถูกลดมูลค่าบริษัทลงมากกว่า 70% เทียบกับจุดพีคที่เคยไปถึงเมื่อปี 2021

OYO Hotels and Homes เป็นบริษัทในเครือ Oravel Stays จากอินเดีย ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่มีแบ็กอัพรายใหญ่คือ SoftBank จากญี่ปุ่น ที่ผ่านมาบริษัท OYO พยายามจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินเดียมาแล้ว 2 ครั้ง แต่กลับถอนตัวและยกเลิกไปทั้งหมด

ล่าสุดมีรายงานว่า OYO กำลังเข้าสู่การระดมทุนรอบใหม่ แต่ถูกตีมูลค่าบริษัทลดลงเหลือเพียง 2,300 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงถึง 74% จากเมื่อปี 2021 ซึ่งบริษัทเคยมีมูลค่าสูงถึง 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นรอบที่มี Microsoft มาร่วมลงทุนด้วย

The Economics Times รายงานว่า Ritesh Agarwal ผู้ก่อตั้ง OYO กำลังพูดคุยกับนักระดมทุนที่เป็นผู้มีความมั่งคั่งสูงอยู่หลายราย โดยสำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า หนึ่งในนั้นที่แสดงความสนใจคือ กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติมาเลเซีย

รายละเอียดการลงทุนยังพูดคุยกันอยู่ แต่ทาง OYO คาดการณ์ว่าการระดมทุนรอบนี้จะได้เงินลงทุนรวม 70-80 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยการระดมทุนรอบนี้จะเป็นการ ‘รีไฟแนนซ์’ หนี้สินของบริษัท

ย้อนกลับไปในเส้นทาง IPO ของบริษัท OYO บริษัทเคยยื่นไฟลิ่งขอจดทะเบียนในตลาดหุ้นครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2021 ก่อนที่ SoftBank ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จะตัดสินใจลดการตีมูลค่าบริษัทนี้ลงจากเดิม 3,400 ล้านเหรียญสหรัฐ เหลือเพียง 2,700 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ต่อมา OYO ต้องทำเอกสาร IPO ใหม่ ลดขนาดบริษัทลงประมาณ 40-60% และยื่นไฟลิ่งใหม่อีกครั้งเมื่อเดือนเมษายน 2023

หลังจากนั้นกลับมีข่าวออกมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ว่าบริษัทได้ถอนตัวจากการเปิด IPO เป็นครั้งที่สอง ก่อนที่ทางตลาดหุ้นอินเดียจะยืนยันเองในเดือนนี้ว่า OYO ได้ถอนตัวไปแล้วจริงๆ

ปัจจุบัน SoftBank มีหุ้นอยู่ใน OYO เป็นสัดส่วน 46% ตามด้วยผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Ritesh Agarwal ถือหุ้น 33% ส่วนที่เหลือเป็นนักลงทุนรายอื่นๆ เช่น Lightspeed, Peak XV Partners

OYO มีการดำเนินธุรกิจในไทยด้วยเช่นกัน โดยเข้ามาเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 ใช้โมเดลธุรกิจแบบแฟรนไชส์ คือให้ใช้แบรนด์สวมในโรงแรมเดิม รวมถึงใช้ระบบบริหารและจองห้องพักของ OYO เป้าหมายของบริษัทคือบรรดาโรงแรมบัดเจ็ทขนาดเล็กที่เข้าถึงลูกค้ายากเมื่อไม่มีแบรนด์ นอกจากนี้ ปีนี้บริษัทยังแตกแบรนด์ใหม่ชื่อ ‘Palette’ มาเจาะตลาดโรงแรมระดับกลางในไทยด้วย

Source