“เครื่องใช้ไฟฟ้า” กำลังซื้อฝืดหลังพ้นหน้าร้อน “เพาเวอร์ มอลล์” ลุ้น “บอลยูโร 2024” ช่วยดันยอดขาย “ทีวี”

เครื่องใช้ไฟฟ้า
  • “เพาเวอร์ มอลล์” เปิดข้อมูลตลาด “เครื่องใช้ไฟฟ้า” 4 เดือนแรกทำยอดขาย 78,000 ล้านบาท เติบโตดีจากโครงการ Easy e-Receipt และหน้าร้อนช่วยดันยอดขาย “แอร์”
  • แต่หลังเข้าเดือนพฤษภาคม กำลังซื้อชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัดจากสภาวะเศรษฐกิจ หวังกระแส “บอลยูโร 2024” ช่วยเพิ่มยอดขาย “ทีวี” กลับมาโต

“รัชตะ สุทธาพัฒน์ธานนท์” Chief Business Officer – Specialty Business “บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด” เปิดข้อมูลตลาด “เครื่องใช้ไฟฟ้า” ประเทศไทยปี 2567 ช่วง 4 เดือนแรกถือว่าเป็นช่วงที่ทำยอดขายดี มูลค่าตลาดขึ้นไปแตะ 78,000 ล้านบาท เติบโตแบบดับเบิลดิจิต

ปัจจัยบวกมาจากโครงการ “Easy e-Receipt” ช้อปลดหย่อนภาษีที่สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2567 อานิสงส์ส่งให้ต้นปีเครื่องใช้ไฟฟ้าขายคล่อง

เพาเวอร์ มอลล์
“รัชตะ สุทธาพัฒน์ธานนท์” Chief Business Officer – Specialty Business “บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด”

รวมถึงช่วงหน้าร้อนเดือนมีนาคม-เมษายนปีนี้ เนื่องจากอากาศร้อนจัด ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่ม “เครื่องปรับอากาศ” ทำยอดขาย 4 เดือนแรกโต 10-15% และพยุงตลาด “ตู้เย็น” ให้เติบโตซิงเกิลดิจิต

“แต่ตลาดแอร์ผมคิดว่ายอดขายโตน้อยกว่าที่คาดไว้ เพราะอากาศปีนี้ร้อนจัดมากๆ ยอดขายแอร์ควรจะโตได้ถึง 30-40% ด้วยซ้ำ” รัชตะกล่าว

 

เข้าเดือน 5 กำลังซื้อหด รอลุ้น “บอลยูโร 2024”

รัชตะกล่าวต่อว่า หลังหมดปัจจัยหนุนในช่วงหน้าร้อน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นมาการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเริ่มลดลงมาโตซิงเกิลดิจิต ด้วยสภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้อ

อย่างไรก็ตาม กลุ่มตลาดที่ยังพอมีลุ้นปัจจัยหนุนพิเศษคือ “ทีวี” เพราะการแข่งขัน “บอลยูโร 2024” เริ่มเปิดฉากแล้ว และปกติมักจะเป็นปัจจัยหนุนยอดขายทีวี ตามด้วยในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้จะมีการแข่งขัน “โอลิมปิก 2024” ต่อเนื่อง น่าจะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อทีวีรวมถึงเครื่องเสียงมากขึ้น

เครื่องใช้ไฟฟ้า

“ตอนนี้อาจจะยังไม่คึกคักเพราะธรรมชาติของผู้บริโภคมักจะมาซื้อทีวีในช่วงใกล้จะถึงรอบน็อกเอาต์ ไม่ว่าจะเป็นบอลยูโรหรือบอลโลกจะเป็นแบบนี้เสมอ” รัชตะกล่าว โดยบอลยูโร 2024 จะเริ่มเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรกวันที่ 29 มิถุนายนนี้

สำหรับตลาด “ทีวี” ปี 2567 รัชตะกล่าวว่า ยอดขายทั้งตลาดค่อนข้างฝืด 4 เดือนแรกทำยอดขายไปเพียง 5,000 ล้านบาท ติดลบประมาณ -10% จากปีก่อน ทำให้แบรนด์ทีวีต่างหมายมั่นว่าบอลยูโร 2024 จะช่วยหนุนทำยอดขายเติบโตพุ่ง 20-30% เพื่อให้ยอดขายเฉลี่ยทั้งปียังยืนระยะทรงตัวเท่ากับปีก่อนให้ได้

เครื่องใช้ไฟฟ้า

ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าปี 2567 ทั้งปีนี้ รัชตะมองว่าน่าจะ ‘เติบโตเล็กน้อย’ จากปีก่อนที่มีมูลค่าตลาด 220,000 ล้านบาท โดยหวังว่าครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น และหากโครงการ “ดิจิทัล วอลเล็ต” ของรัฐบาลสามารถใช้จ่ายกับกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าได้จะเป็นปัจจัยสำคัญต่อตลาดนี้ เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่น่าจะต้องการใช้ซื้อ “โทรศัพท์มือถือ” และเครื่องใช้ไฟฟ้าจำเป็นต่างๆ ภายในบ้าน

 

“เพาเวอร์ มอลล์” วางเป้าโต 20-30% หลังสาขาใหม่รีโนเวตเสร็จ

ด้านธุรกิจของ “เพาเวอร์ มอลล์” ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป รัชตะระบุว่ายอดขายปี 2566 เติบโต 10% ส่วนปี 2567 ตั้งเป้ายอดขายโตถึง 20-30% เนื่องจากสาขา 2 แห่งใน “เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ และ บางแค” เพิ่งรีโนเวตเสร็จสมบูรณ์พร้อมกับตัวศูนย์การค้าเมื่อเดือนธันวาคม 2566 ทำให้ปีนี้จะเป็นปีแรกที่สองสาขานี้กลับมาขายแบบเต็มปี

ยอดขายจากสาขาบางกะปิและบางแคน่าจะช่วยดันยอดได้มากเพราะถือเป็นกลุ่มสาขาขายดี รองจากสยามพารากอน และ เอ็มโพเรียม

นอกจากนี้ เพาเวอร์ มอลล์ เองมีการปรับตัวตามตลาด มีการจัดสรรพื้นที่ให้กับกลุ่มสินค้าขายดีอย่าง “แอร์” มากขึ้นกว่าเดิม รวมถึงเน้นกลุ่มสินค้า “พรีเมียม” ต่างๆ เช่น ทีวีขนาดใหญ่ 75 นิ้วขึ้นไป, เครื่องซักผ้าฝาหน้า, สินค้าที่ผสานนวัตกรรม AI ซึ่งเป็นที่ต้องการของลูกค้า

รวมถึง เพาเวอร์ มอลล์ ยังโหมตลาดด้วยการจัดมหกรรม “เพาเวอร์ มอลล์ อิเล็คทรอนิก้า โชว์เคส” ร่วมกับผู้ประกอบการแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้ากว่า 200 แบรนด์ รวบรวมหลากหลายกลุ่มสินค้า เช่น ทีวี เครื่องเสียง มือถือ แกดเจ็ต เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว ฯลฯ มาจัดโปรโมชันลดราคาพิเศษสูงสุด 60%, ผ่อน 0% นานสูงสุด 24 เดือน, แจกคูปองส่วนลดเงินสดสูงสุด 15,000 บาท ที่เพาเวอร์ มอลล์ ทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน – 29 กรกฎาคม 2567