การเปิดตัวแม็กนั่ม ในประเทศอินโดนีเซีย เป็นกรณีตัวอย่างที่ดีสำหรับเส้นทางการรีลอนช์ “แม็กนั่ม” ในไทย ที่เริ่มขึ้นหลังจากอินโดนีเซียถึง 2 ปี
รวมถึงการขยายผลไปสู่การเปิดร้าน “แม็กนั่ม คาเฟ่” ในแกรนด์อินโดนีเซีย ช้อปปิ้งมอลล์ ในเมืองจาการ์ตา อินโดนีเซีย เพื่อต้องสร้างประสบการณ์กับลูกค้าให้รับรู้แบรนด์ได้ตลอดเวลา รวมถึงในไทย การเปิด “แม็กนั่ม คาเฟ่” ก็อยู่ในแผนของยูนิลีเวอร์ที่จะมีขึ้นในเร็ววันนี้
ร้านแม็กนั่ม คาเฟ่ ในอินโดนีเซีย ออกแบบในสไตล์โมเดิร์น วิคตอเรีย และมีการดีไซน์เมนู โดยเชฟอิตาลี ทุกวันนี้ แม็กนั่ม คาเฟ่ คนเข้าแถวแม้จะเปิดให้บริการมาแล้ว 3 เดือนเต็ม ยูนิลีเวอร์จึงมีแผนที่ขยายเปิดสาขาตามเมืองต่างๆ ของอินโดนีเซีย เช่น บันดุง และสุราบายา
ยูนิลีเวอร์ มองว่า การเปิดร้านแม็กนั่ม คาเฟ่ นับเป็นอีกกลยุทธ์ผลักดันแบรนด์เข้าไปอยู่ในใจลูกค้า ผ่านประสบการณ์ที่ลูกค้าจะได้สัมผัสมากกว่าการซื้อไอศกรีมจากร้านสะดวกซื้อเพียงอย่างเดียว เช่นเดียวกับการเปิด ซัลซิลแฮร์สตูดิโอ ในอินโดนีเซีย ที่นอกจากจะยกระดับแบรนด์แล้ว ลูกค้ายังได้ประสบการณ์ที่มีมากขึ้นในร้านซันซิลแฮร์สตูดิโอ
หลังจากยูนิลีเวอร์มองเห็นโอกาสกับการทำตลาดไอศกรีมสำหรับคนในวัยทำงานชาวอินโดนีเซีย ที่เริ่มมองหาไอศกรีมเป็นของหวานมากขึ้น (จากเดิมที่บริโภคผลไม้และขนม) ยูนิลีเวอร์จึงตัดสินใจ “รีลอนช์” ไอศกรีมแม็กนั่ม เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2010 ด้วย3รสชาติ ได้แก่ คลาสสิก อัลมอนด์ และช็อกโกแลตทราฟเฟิล เหมือนกับเมืองไทย
โดยวางกลุ่มเป้าหมายของแม็กนั่ม คือ กลุ่มผู้ใหญ่ คนวัยทำงานที่ยุ่งตลอดเวลา และต้องการอะไรสักอย่างเพื่อให้รางวัลหรือทำให้สดชื่นขึ้น ราคาที่ขายเป็นระดับพรีเมียม
มาริสสา แบรนด์แอมบาสเดอร์ อธิบายว่าการเปิดตัวแคมเปญนี้ ใช้คอนเซ็ปต์ของผู้หญิงในอุตสาหกรรมบนเทิงที่ยุ่งตลอดเวลายากที่จะหาเวลาพักและดูแลตัวเอง เพราะต้องติดอยู่กับงาน เลยอยากจะได้ความรู้สึกพิเศษ เป็นที่สนใจได้รับการดูแลดุจเจ้าหญิง และภูมิใจได้รับเกียรติให้มีรูปติดผนัง มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์เพื่อแสดงให้เห็นว่าแม็กนั่มเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการ