ด้วยการเติบโตของ ‘ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในไทย’ อย่างในปี 2568 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินไว้ว่า ธุรกิจนี้จะมีมูลค่าอยู่ประมาณ 657,000 ล้านบาท เติบโต 4.6% จากปีก่อน ทำให้มีหลายแบรนด์จากหลายสัญชาติขอลงสนามเพื่อชิงมาร์เก็ตแชร์ในตลาดนี้แม้การแข่งขันจะดุเดือดมากแค่ไหนก็ตาม
รวมถึง ‘YogurBara’ (โยเกอร์บารา) โยเกิร์ตพรีเมียมจากเกาหลี ที่มาลองตลาดในไทยกับการเปิดสาขาแรกที่สยามพารากอน ที่มาในคอนเซ็ปต์ Omma-Made Yogurt, Bara loves it! ‘โยเกิร์ตที่ทำด้วยหัวใจและความใส่ใจเหมือนทำให้คนในครอบครัวทาน’
สำหรับการเข้ามารุกตลาดในไทยนั้น เป็นความร่วมมือของเจ้าของแบรนด์จากเกาหลีกับทีมไทยอย่าง FireFly ที่มีแบรนด์ในเครือ ได้แก่ HAAB ขนมไข่สงขลา, Layers หรือ ไก่ทอดเจ้าดังอย่าง ฮาโร่ย จากหาดใหญ่ และแบรนด์น้องใหม่ ก็คือ YogurBara โดยที่ผ่านมาเราได้เห็นภาพการต่อแถวยาวเพื่อรอซื้อสินค้าจนกลายเป็นกระแสไวรัล
แล้วกลยุทธ์อะไรที่ทำให้แบรนด์น้องใหม่อย่าง YogurBara แจ้งเกิดในบ้านเราได้
1.การเลือกปักหมุดในโลเคชั่นใจกลางกรุงเทพฯ : อย่างที่ทราบกันดี สยามพารากอน ถือเป็น CBD ที่เป็นทั้งย่านเศรษฐกิจ และย่านท่องเที่ยวที่รวมทุกเทรนด์ ทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมจับกระแสแบบเรียลไทม์ ขยับเกมไว ทำให้แฟลกชิปสโตร์กลายเป็นทั้ง ‘จุดขาย’ และ ‘จุดโปรโมต’ ไปพร้อมกัน
2.การสร้าง Emotional Branding ควบคู่ไปกับทำ Cross-Cultural Marketing : YogurBara พยายามเชื่อมโยงอารมณ์และความรู้สึกให้ลูกค้าตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาที่ร้าน เพื่อให้ทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับแบรนด์ เสมือนเป็นคนในครอบครัวที่มาหาออมม่า ผสมผสานกับ Brand Storytelling เผยถึงเบื้องหลังการทำโยเกิร์ตที่เกิดจากความรักและความตั้งใจจาก Omma Lim (ออมม่า อิม) คุณแม่ชาวเกาหลีที่เริ่มต้นทุกอย่างจากครัวเล็ก ๆ เมื่อ 7 ปีก่อน
3.รู้จักลูกค้ามากขึ้นผ่าน Data-Driven : เพื่อให้เข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ทาง FireFly จึงให้ความสำคัญกับ Data-Driven ตั้งแต่วิเคราะห์ข้อมูลการขายและพฤติกรรมผู้บริโภคแบบเรียลไทม์ รวมถึงนำข้อมูลเชิงลึกมาปรับกลยุทธ์การตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างรวดเร็ว ทำให้ YogurBara ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ตรงใจ
นอกจากนี้ยังมีกลยุทธ์อื่นๆ เพิ่มเติม เช่น นอกโปรดักต์หลักแล้วยังมีเมนูพิเศษที่มีเฉพาะในประเทศไทย อาทิ โยเกิร์ตพร้อมดื่มมะเขือเทศ, โยเกิร์ตพร้อมดื่มไรซ์เบอร์รี่, กรีกโยเกิร์ตทุเรียน เป็นต้น
หลังจากแจ้งเกิดได้สำเร็จแล้ว FireFly วางแผนจะขยายสาขา YogurBara ในทำเลศักยภาพทั่วกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ ภายใต้รูปแบบร้านที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึง ‘YogurBara Cafe’ เต็มรูปแบบ ที่จะเริ่มทยอยเปิดตัวภายใน 1 ปีข้างหน้า โดยตั้งเป้าผลักดันยอดขายให้เติบโตขึ้น 300% ภายใน 2 ปีแรก ควบคู่ไปกับการรักษาและขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของการปักหมุดแรกสำหรับ YogurBara ซึ่งต่อจากนี้ยังคงต้องพิสูจน์ฝีมือ อีกมาก เพราะอย่างที่บอกตลาดนี้แม้จะมีมูลค่ามหาศาล แต่ขณะเดียวกันการแข่งขันก็ดุเดือดเป็นอย่างมากเช่นกัน