อีเอ็มซีปลื้มยอดขายไตรมาส 4 เพิ่ม 25% ระบุเป็นผลจากลูกค้าให้การต้อนรับโซลูชั่นของการบริหารวงจรการใช้งานข้อมูล (ILM Solution) เน้นการควบรวมด็อกคิวเมนตั

กรุงเทพฯ – อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น (NYSE:EMC) ผู้นำระดับโลกในด้านระบบการบริหารและจัดเก็บข้อมูล ประกาศยอดขายทั่วโลกโต 15 เปอร์เซ็นต์ หลังประสบความสำเร็จจากยอดขายไตรมาส 4 ด้วยอัตราการขยายตัว 25 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ เผยเป็นผลจากความหลากหลายของสายผลิตภัณฑ์ภายหลังจากควบรวมด็อกคิวเมนตั้ม (Documentum) เลกาโต (Legato) และวีเอ็มแวร์ (VMWare) การบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพและการเติบโตของเศรษฐกิจโลก

รายงานผลประกอบการไตรมาสที่สี่ และผลประกอบการของปี 2546 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับโซลูชั่นด้านการจัดการวงจรการใช้งานข้อมูล (Information Lifecycle Management) ทั้งในส่วนของระบบฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการหลากหลายประเภท

มร. โจ ทุซซี่ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า รายได้รวมทั้งหมดของอีเอ็มซีสำหรับไตรมาสที่สี่ในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1,860 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับยอดรายได้ 1,490 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่สี่ของปี 2545 ส่วนกำไรสุทธิของไตรมาสที่สี่อยู่ที่ 220 ล้านดอลลาร์ หรือหุ้นละ 0.09 ดอลลาร์ โดยรวมผลประโยชน์สุทธิ 0.01 ดอลลาร์จากสิทธิประโยชน์ด้านภาษีเงินได้บางอย่าง ซึ่งชดเชยเป็นบางส่วนกับค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างและค่าใช้จ่ายพิเศษอื่นๆ ที่โดยมากแล้วเกี่ยวข้องกับการเข้าซื้อกิจการของเลกาโต้ ซิสเต็มส์ อิงค์ (LEGATO Systems, Inc.) และดอคคิวเมนตั้ม อิงค์ (Documentum, Inc.) เปรียบเทียบกับยอดขาดทุนสุทธิ 64 ล้านดอลลาร์ หรือหุ้นละ 0.03 ดอลลาร์ ในไตรมาสที่สี่ของปี 2545

ทั้งนี้ จากความสำเร็จในผลประกอบการสุดท้ายทำให้รายได้รวมทั้งหมดของอีเอ็มซีสำหรับปีงบประมาณ 2546 ขยับขึ้นไปอยู่ที่ 6,240 ล้านดอลลาร์ โดยมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับตัวเลขรายได้ 5,440 ล้านดอลลาร์ของปีงบประมาณ 2545 ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 496 ล้านดอลลาร์ หรือเท่ากับหุ้นละ 0.22 ดอลลาร์ อยู่ในระดับดีกว่าปีก่อนหน้านี้ซึ่งขาดทุนสุทธิ 119 ล้านดอลลาร์ หรือหุ้นละ 0.05 ดอลลาร์ ในปีงบประมาณ 2545

ทั้งนี้ สาเหตุที่อีเอ็มซีสามารถดำเนินงานด้วยผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจ สืบเนื่องมาจากความแข็งแกร่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของบริษัท ประกอบกับการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ และสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกที่กำลังเติบโต ทำให้อีเอ็มซีมีผลประกอบการที่โดดเด่นในปีที่ผ่านมา กลยุทธ์การจัดการวงจรการใช้งานของข้อมูล (ILM) ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ที่กำลังเผชิญปัญหาเรื่องการปฏิบัติตามกฎระเบียบ การปกป้องข้อมูล และงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด อีเอ็มซีสามารถสร้างจุดยืนที่แข็งแกร่งและช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดเพิ่มมากขึ้นในปี 2546

“ผมรู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งในความสามารถของทีมงานของอีเอ็มซี ผลประกอบการในวันนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการช่วยให้ลูกค้าสามารถควบคุมการจัดเก็บข้อมูลและค่าใช้จ่ายโดยรวม นวัตกรรมของเราสามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ซึ่งช่วยให้เราสามารถนำเสนอฟีเจอร์และฟังก์ชั่นใหม่ๆ แก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และลูกค้าจะได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้นไปอีกจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างจริงจังของเราในช่วงปี 2547” มร.ทุซซี่กล่าวเพิ่มเติม

รายได้ของอีเอ็มซีเติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกกลุ่มธุรกิจหลักและภูมิภาคที่สำคัญๆ ในช่วงไตรมาสที่สี่ โดยระบบการจัดเก็บข้อมูลบนเครือข่าย Symmetrix, CLARiiON และ Centera รวมทั้งซอฟต์แวร์และบริการหลักๆ ของอีเอ็มซี มีอัตราการเติบโตในระดับเลขสองหลัก เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สามของปี 2546 ทั้งนี้ ไม่รวมรายได้จากเลกาโต้ ซอฟต์แวร์ และดอคคิวเมนตั้ม รายได้รวมจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ CLARiiON ซึ่งครอบคลุมถึงระบบและซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้อง อยู่ในระดับเกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงปี 2546 โดยสามารถครองส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในตลาดระบบจัดเก็บข้อมูลขนาดกลาง

นอกจากนั้น รายได้ต่อเนื่องก็มีอัตราการขยายตัวในระดับสองหลักเช่นเดียวกัน โดยเป็นผลมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับอุปกรณ์เกตเวย์ NAS รุ่นใหม่ของอีเอ็มซี นั่นคือ Celerra NS600G ส่วนรายได้รวมจากตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2545 และคิดเป็นสัดส่วนที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ คือ ร้อยละ 43 ของรายได้ทั้งหมดของอีเอ็มซีในช่วงไตรมาสที่สี่

มร. บิล เทอเบอร์ รองประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของอีเอ็มซี กล่าวว่า “สำหรับปี 2546 ผลประกอบการของเราในส่วนหลักๆ เป็นไปตามเป้าหมายที่เรากำหนดไว้ในช่วงต้นปี และบางส่วนก็ดีเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ผลกำไรของเราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละไตรมาส และรายได้ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน การดำเนินงานที่ดีเยี่ยมส่งผลให้โครงสร้างต้นทุนของเราดีขึ้น และช่วยให้เรามีส่วนต่างกำไรเพิ่มขึ้น ทำให้เรามีงบดุลประจำปีแข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของอีเอ็มซี ด้วยเงินสดและเงินลงทุนที่สูงกว่า 6,900 ล้านดอลลาร์”

ในช่วงไตรมาสที่สี่ อีเอ็มซีได้เข้าซื้อกิจการของเลกาโต้ ซิสเต็มส์ อิงค์ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม และดอคคิวเมนตั้ม อิงค์ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ซึ่งทำให้อีเอ็มซีมีโซลูชั่นด้านการจัดการวงจรการใช้งานของข้อมูลที่ครบถ้วนมากที่สุดในโลก ทั้งนี้ เลกาโต้และดอคคิวเมนตั้มมีรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงไตรมาสที่สี่ โดยรายได้ของทั้งสองบริษัทที่รับรู้ภายหลังการควบรวมกิจการดังกล่าวได้ถูกรวมไว้ในผลประกอบการไตรมาสที่สี่ของอีเอ็มซี รวมทั้งผลประกอบการของปี 2546

ระบบจัดเก็บข้อมูลระดับไฮเอนด์ Symmetrix DMX ของอีเอ็มซี ซึ่งเป็นผู้นำตลาดในปัจจุบัน ได้รับเลือกจากนิตยสาร TechTarget’s Storage และเว็บไซต์ Searchstorage.com ให้เป็น “ผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมแห่งปี” สำหรับปี 2546 จากระบบดิสก์ทั้งหมด นอกเหนือจากเหตุการณ์สำคัญอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่สี่ อีเอ็มซียังได้ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากวงการอุตสาหกรรมในฐานะที่เป็นผู้นำเสนอนวัตกรรมสุดยอดและบริการที่เป็นเลิศแก่ลูกค้าทั่วโลก

นอกจากนี้ อีเอ็มซียังได้เปิดตัวระบบจัดเก็บข้อมูลแบบเชื่อมต่อเครือข่าย (NAS) ขนาดกลางหลายรุ่น รวมทั้ง NS600G NAS Gateway และระบบ NetWin 200 ยิ่งกว่านั้น กลุ่มธุรกิจเลกาโต้ ซอฟต์แวร์ ของอีเอ็มซี ยังได้พัฒนาปรับปรุงโซลูชั่น RepliStor for Windows Storage Server ซึ่งช่วยให้สามารถรองรับรีพลิเคชั่นทั้งแบบ many-to-one และ one-to-many สำหรับการผนวกรวมข้อมูลบนแพลตฟอร์ม Windows Storage Server ทั้งอีเอ็มซีและเลกาโต้ได้รับการยอมรับจากสมาคมผู้ประกอบการด้านบริการและการสนับสนุน (Service and Support Professionals Association – SSPA) ในเรื่องของความสามารถที่ดีเยี่ยมในการให้บริการแก่ลูกค้า ในขณะเดียวกัน นิตยสาร DM Review ได้เลือกให้อีเอ็มซีเป็นผู้จัดหาโซลูชั่นระบบจัดเก็บข้อมูลยอดเยี่ยมประจำปี 2546 และนิตยสาร Contingency Planning & Management (CPM) มอบรางวัล CPM Hall of Fame ให้แก่อีเอ็มซี สำหรับคุณูปการในการสร้างสรรค์โซลูชั่นเพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจ

การคาดการณ์เกี่ยวกับธุรกิจ

คำแถลงด้านล่างนี้เป็นข้อมูลการคาดการณ์ที่อ้างอิงสภาวะแวดล้อมในปัจจุบัน โดยเป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงอาจจะคลาดเคลื่อนไปจากที่คาดการณ์ไว้ ข้อมูลดังกล่าวไม่ได้ครอบคลุมถึงการควบรวมกิจการ การเข้าซื้อกิจการ การขายกิจการ หรือการผนวกรวมธุรกิจใดๆ ที่อาจเสร็จสิ้นในภายหลัง คำแถลงนี้ใช้แทนข้อมูลคาดการณ์ทางธุรกิจทั้งหมดที่ระบุในข่าวประชาสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ของอีเอ็มซี

– คาดว่ารายได้รวมสำหรับไตรมาสแรกของปี 2547 จะอยู่ที่ 1,800-1,835 ล้านดอลลาร์โดยประมาณ

– กำไรต่อหุ้นสำหรับไตรมาสแรกของปี 2547 ซึ่งไม่รวมค่าใช้จ่ายราว 0.01 ดอลลาร์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อกิจการของวีเอ็มแวร์ อิงค์ (VMware, Inc) คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 0.06 ดอลลาร์ และหากรวมค่าใช้จ่ายดังกล่าว ก็คาดว่ากำไรต่อหุ้นน่าจะเท่ากับ 0.05 ดอลลาร์

– รายได้รวมสำหรับปี 2547 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 ขึ้นไป โดยจะสูงกว่า 7,800 ล้านดอลลาร์เล็กน้อย

– กำไรขั้นต้นคาดว่าจะเกินกว่าร้อยละ 50 เล็กน้อย ในช่วงระยะเวลาก่อนไตรมาสที่สี่ของปี 2547 โดยมีการผันผวนเล็กน้อยตามปกติในช่วงแต่ละไตรมาส ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ รวมทั้งยอดขายและชนิดของผลิตภัณฑ์

– ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เมื่อเทียบเป็นร้อยละของรายได้ น่าจะอยู่ในช่วงกว่าร้อยละ 20 สำหรับปี 2547

– ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา เมื่อเทียบเป็นร้อยละของรายได้ น่าจะอยู่ในช่วงประมาณร้อยละ 12 สำหรับปี 2547

– ค่าใช้จ่ายที่ตัดจำหน่ายสำหรับการซื้อกิจการของเลกาโต้, ดอคคิวเมนตั้ม และวีเอ็มแวร์ คาดว่าจะเท่ากับ 125 ล้านดอลลาร์ สำหรับปี 2547

– รายได้จากการประกอบการ เมื่อเทียบเป็นร้อยละของรายได้ น่าจะอยู่ในช่วงกว่าร้อยละ 10 สำหรับไตรมาสที่สี่ของปี 2547

– ดอกเบี้ยรับในปี 2547 คาดว่าจะลดลงเมื่อเทียบกับปี 2546

– อัตราภาษีเงินได้ เมื่อเทียบเป็นร้อยละของรายได้ก่อนหักภาษี คาดว่าจะอยู่ในช่วงประมาณร้อยละ 30 สำหรับปี 2547

– ในกรณีที่ไม่รวมผลกระทบจากโครงการรับซื้อคืนหุ้นบางส่วนของอีเอ็มซี คาดว่าจะมีหุ้นปรับลด (diluted shares) ประมาณ 2,500 ล้านหุ้นในปี 2547

ข้อมูลเกี่ยวกับ EMC

อีเอ็มซี คือผู้นำแห่งโลกธุรกิจระบบสตอเรจ ที่คิดค้นทั้งระบบ, ซอฟต์แวร์, ระบบเครือข่าย และ การให้บริการต่างๆ ทั้งยังพัฒนาโซลูชั่นระบบเครือข่ายสตอเรจ แบบอัตโนมัติ เพื่อช่วยให้หน่วยงานต่างๆทั่วโลกสามารถดึงและใช้ข้อมูลต่างๆที่มีอยู่ได้ในระดับสูงสุดและใช้ต้นทุนทั้งหมดขั้นต่ำสุด ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอีเอ็มซี สามารถรับได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.EMC.com