ในรอบปีงบประมาณ 2549 ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ดำเนินการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยในกรุงเทพมหานคร-ปริมณฑลและ 11 จังหวัดยุทธศาสตร์ ในภูมิภาค โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำดัชนีอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย ให้ครบถ้วนทั้งทางด้าน Supply และ Demand รวมถึง Sector ที่อยู่อาศัยรอการขาย ที่ผ่านมาได้ประชาสัมพันธ์ผลการสำรวจภาคสนามที่น่าสนใจในจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดภูเก็ตไปแล้ว โดยครอบคลุมข้อมูลอุปทานโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัด ได้แก่ บ้านจัดสรร อาคารชุด อพาร์ทเม้นท์ให้เช่า และหอพัก
จากการสำรวจอุปทานโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดขอนแก่น ที่อยู่ระหว่างการขายและให้เช่า ตั้งแต่อดีตจนถึงไตรมาส 1 ปี 2549 พบว่ามีจำนวนรวม 499 โครงการ จำนวน 15,610 หน่วย ประกอบด้วยโครงการบ้านจัดสรร และอาคารชุดเพื่อขาย มีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายและมีหน่วยเหลือขายตั้งแต่ 6 หน่วยขึ้นไป จำนวน 50 โครงการ รวม 4,625 หน่วย ประกอบด้วยบ้านจัดสรร 50 โครงการ 4,261 หน่วย และเป็นอาคารชุด 1 โครงการ 364 หน่วย ส่วนอพาร์ทเม้นท์ให้เช่า มีจำนวน 448 โครงการ 10,985 หน่วย
เป็นที่น่าสังเกตว่า โครงการบ้านจัดสรรเหลือขาย ณ ไตรมาส 1/2549 มีจำนวน 1,947 หน่วย คิดเป็น 46% ของจำนวนหน่วยที่เสนอขาย โดยบ้านเดี่ยวเป็นประเภทที่อยู่อาศัยที่มีหน่วยเหลือขายสูงสุดถึง 1,630หน่วย ในจำนวนดังกล่าว 42% เป็นบ้านระดับราคา 1- 1.99 ล้านบาท และ 35% เป็นบ้านระดับราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท
อย่างไรก็ดีเมื่อพิจารณาจากบ้านจัดสรรที่ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอน มีจำนวนทั้งสิ้น 2,510 หน่วย ส่วนหน่วยที่เหลือขายพบว่ามีประมาณ 444 หน่วยหรือคิดเป็น 18% ของหน่วยที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ โดย 340 หน่วยเป็นบ้านเดี่ยว และ 65 หน่วยเป็นบ้านแฝด และ 25 หน่วยเป็นทาวน์เฮ้าส์ ส่วนทำเลที่เหลือขาย พบว่าอยู่ในอำเภอเมืองขอนแก่นมีสัดส่วนโครงการเหลือขายมากที่สุดคือ 96% ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากสาเหตุที่มีโครงการเปิดขายมากที่สุด
ทั้งนี้เมื่อพิจารณาโดยภาพรวม พบว่าพื้นที่ที่มีการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรเป็นอันดับ 1 คืออำเภอเมืองขอนแก่น คิดเป็น 95% ของพื้นที่พัฒนาทั้งหมด บ้านจัดสรรระดับราคาที่ขายได้มากที่สุดคือระดับราคา 0.5 – 1.99 ล้านบาท และบ้านเดี่ยวยังคงเป็นรูปแบบที่อยู่อาศัยที่ขายได้สูงสุดคิดเป็น 81% ของที่อยู่อาศัยที่เสนอขาย
สำหรับโครงการอพาร์ทเม้นท์ให้เช่า (รวมอพาร์ทเม้นท์ และหอพัก) พบว่ามีจำนวนสูงถึง 448 โครงการ รวม 10,985 หน่วย ในจำนวนหน่วยนี้ มีผู้เช่าพักอาศัยไปแล้วจำนวน 8,121 หน่วย หรือ …% และมีห้องว่า 2,864 หน่วย คิดเป็น …. แบ่งเป็นห้องเช่าแบบ Studio จำนวน 10,763 หน่วย และห้องเช่าแบบ 1 ห้องนอน 222 หน่วย ห้องว่างหล่านี้ส่วนใหญ่ 55% มีค่าเช่าในช่วง 1,000 – 1,999 บาท ในด้านทำเลที่ตั้งห้องเช่าที่ยังว่างอยู่เหล่านี้ ส่วนใหญ่ 95% อยู่ในอำเภอเมือง
นอกจากนี้ศูนย์ข้อมูลฯได้ทำการสำรวจข้อมูลความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น โดย
เก็บข้อมูลจากผู้เข้าชมงานมหกรรมบ้านของแก่น ณ ศูนย์การประชุทกาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก้น จำนวน 327 คน พบว่า ผู้ตอบแบสอบถามเป็นข้าราชการสูงถึง 39% เป็นเจ้าของกิจการ 20% พนักงานบริษัทเอกชน 17%
ในจำนวนนี้ 32% ยังไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง กล่าวคือ ปัจจุบันอยู่อาศัยกับบิดา-มารดา ญาติ พี่ น้อง หรือ เป็นบ้านพักของหน่วยงาน (พักฟรี) หรือเช่าอยู่อาศัย ส่วนอีก 68% มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองแล้ว
กลุ่มตัวอย่างที่ทำการสำรวจ 39% มีรายได้ต่อครัวเรือนต่อเดือน 20,001 – 50,000 รองลงมา 25% มีรายได้ต่อครัวเรือนต่อเดือน 50,001 – 100,000 บาท และสำหรับครัวเรือนที่มีรายได้ไม่เกิน 10,000 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือนมีสัดส่วนเพียง 8% เท่านั้น เมื่อสอบถามถึงความต้องการที่อยู่อาศัย พบว่าประมาณ 26% ต้องการซื้อภายใน 1 ปี นอกนั้นตัดสินใจจะซื้อภายในระยะเวลามากกว่า 1 ปีขึ้นไป
ส่วนระดับราคาบ้านที่กลุ่มตัวอย่างต้องการซื้อส่วนใหญ่ 73% ต้องการซื้อบ้านไม่เกิน 2 ล้านบาท โดย 49% ต้องการบ้านเดี่ยวสร้างเอง 32% ต้องการบ้านเดี่ยวจัดสรร 10% ต้องการซื้ออาคารพาณิชย์ และ 3% ต้องการซื้อที่ดินเปล่า
โดยสรุปแล้ว อุปทานเหลือขายโครงการบ้านจัดสรรและอาคารชุดในจังหวัดขอนแก่น ณ ไตรมาส 1 ปี 2550 เมื่อเทียบกับความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยของประชากรในพื้นที่ พบว่า อุปทานในระดับราคาไม่เกิน 2 ล้านบาทต่อหน่วยยังมีโอกาสในการขาย ทั้งนี้เนื่องจากยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยในระดับราคาดังกล่าวสูงถึง 73 % ของความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ หากมีมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อบ้านหลักแรกจากรัฐบาล และมีการวางกลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสม โครงการเหล่านี้ยังคงมีโอกาสที่จะปิดการขายได้