ธารารมณ์ร่วมกับเอแบคแถลงผลวิจัย “ความเหมือนและต่างในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของคนเมือง”

ธารารมณ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ ร่วมกับ ภาควิชาอสังหาริมทรัพย์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ สำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคถึงความต้องการที่อยู่อาศัยรวมทุกเขตในกรุงเทพมหานคร ภายใต้หัวข้อ “ความเหมือนและต่างในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของคนเมือง” เพื่อเป็นแนวทางพัฒนาโครงการให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากที่สุด

นายวสันต์ เคียงศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธารารมณ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับ ภาควิชาอสังหาริมทรัพย์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ จัดทำงานวิจัยขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาของนักศึกษา ที่เรียนในภาควิชาดังกล่าวได้เข้าถึงและทราบถึงพฤติกรรมความต้องการที่อยู่อาศัยในทุกเขตของกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาโครงการให้ตอบสนองความต้องการให้กับผู้ที่ต้องการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยมากที่สุด

โดย ผศ.ดร.สนธยา วนิชวัฒนะ หัวหน้าภาควิชาอสังหาริมทรัพย์ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ให้รายละเอียดด้วยการศึกษาในครั้งนี้ ได้ใช้ข้อมูลจากผู้ที่สนใจและมีความต้องการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย จำนวน 1,080 ข้อมูล โดยทำการสำรวจในกลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 30-45 ปี ทั้งเพศชายและหญิง ระดับรายได้ 30,000 บาทขึ้นไป ใน 5 ของกรุงเทพมหานครคือ

โซนที่ 1 กรุงเทพฯ ตอนเหนือ ได้แก่ เขตบางเขน ลาดพร้าว ลำลูกกา สายไหม หลักสี่ และบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ อำเภอปากเกร็ด

โซนที่ 2 กรุงเทพฯ ตอนใต้ ได้แก่ เขตจอมทอง บางขุนเทียน ราษฎร์บูรณะ ธนบุรี ทุ่งครุ พระประแดง และบางแค

โซนที่ 3 กรุงเทพฯตะวันออก ครอบคลุมพื้นที่ บางกะปิ วังทองหลาง บึงกุ่ม สะพานสูง มีนบุรี และคลองสามวา

โซนที่ 4 กรุงเทพฯ ตะวันตก ได้แก่ เขต ทวีวัฒนา ตลิ่งชัน ภาษีเจริญ หนองแขม บางใหญ่ และบางกรวย

โซนที่ 5 กรุงเทพฯ ศูนย์กลางธุรกิจ ได้แก่ ปทุมวัน บางรัก พระโขนง วัฒนา และคลองเตย

จากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า ลักษณะเด่นของคนกรุงเทพฯ ในศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) จะมีความเป็นครอบครัวใหญ่สูงสุด ส่วนใหญ่มีจำนวนสมาชิก 4 – 5 คน/ครอบครัว มีสัดส่วนเป็นพนักงานเอกชนสูงสุด และ 1 ใน 3 ยังคงเช่าที่พักอาศัย เป็นสัดส่วนสูงกว่าทุกโซน โดยเช่าอพาร์ตเม้นท์ หรืออาคารชุด กลุ่มสำรวจให้เหตุผลว่าที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยใหม่ เนื่องจาก ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง มากกว่าโซนอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีสัดส่วนที่ต้องการซื้ออาคารชุดมากสุด ปัจจัยที่ใช้ในการเลือกทำเลที่อยู่อาศัยมากที่สุด คือ ใกล้รถไฟฟ้า BTS/MRT รองลงมา คือ ใกล้ที่ทำงาน และใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ส่วนโปรโมชั่นด้านการเงินที่อยากให้โครงการจัดให้มากที่สุดคือ ดาวน์ต่ำ

ด้านลักษณะเด่นของคนกรุงเทพฯ ตอนเหนือ ปัจจุบัน ที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่เป็นทาวน์เฮ้าส์ (สูงกว่าบ้านเดี่ยว) คนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง และมีจำนวนผู้ที่อยู่กับบิดา-มารดา พอๆกับผู้ที่เช่าอยู่ โดยมีสัดส่วนเป็นที่ 2 เทียบกับโซนอื่นๆ นอกจากนี้ยังสนใจซื้อที่อยู่ ไว้สำหรับเป็นทรัพย์สินส่วนตัว, เพื่อการลงทุนเก็งกำไร, และเพื่อความสะดวกในการเดินทางสูงมากกว่าในโซนอื่น ผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นแม่บ้าน มีจำนวนมากกว่าโซนอื่นๆ (ประมาณ 10%) ส่วนกรุงเทพฯ ตอนใต้ ลักษณะเด่นของคนกรุงเทพฯ ตอนใต้ จะมีจำนวนสมาชิกต่อครอบครัวกระจายตัว แต่ส่วนใหญ่ มีจำนวน 3 – 5 คน สูงถึง 70% เทียบกับโซนอื่นแล้ว มีอาชีพรับราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ และมีความเป็นเจ้าของกิจการสูงเป็นที่ 2 รองจากโซนตะวันตก นิยมรับประทานอาหารนอกบ้านระหว่างสัปดาห์มากเกือบที่สุด (เกือบเท่า CBD) ออกจากบ้านหลัง 7.00 น. สูงกว่าทุกโซน กว่าครึ่ง (51%) กลับถึงบ้านหลัง 19.00 น. สูงกว่าทุกโซน เกือบครึ่ง (47%) และพบว่า ฮวงจุ้ย ไม่มีส่วนในการตัดสินใจซื้อที่อยู่ มากที่สุด (62%) และยังต้องการซื้ออาคารชุดในสัดส่วนต่ำที่สุด

คนกรุงเทพฯ ตะวันออก ลักษณะเด่นคือ มีผู้ที่อยู่คนเดียวมากกว่าโซนอื่นๆ ลักษณะที่อยู่ปัจจุบัน มีสัดส่วนพอๆกันในประเภท บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และอาพาร์ตเม้นท์ (ประมาณประเภทละ 30%) ส่วนใหญ่เช่าที่อยู่อาศัยโดยที่อยู่อาศัยที่เช่า มีทุกประเภทของอาคาร (บ้านเดี่ยว, ทาวน์เฮ้าส์, อาคารชุด, อพาร์ตเม้นท์) แต่สัดส่วนเช่าอพาร์ตเม้นท์ (ประมาณ 60%) มากกว่าประเภทอื่นๆ รับประทานอาหารนอกบ้านระหว่างสัปดาห์น้อยที่สุดกว่าทุกโซน (0 – 1 ครั้งต่อสัปดาห์ = 53%) กิจกรรมในวันเสาร์-อาทิตย์ มีสัดส่วนอยู่ที่บ้านสูงกว่าทุกโซน เป็นโซนที่ต้องการซื้อทาวน์เฮ้าส์มีสัดส่วนมากกว่าทุกโซน ส่วนโซนกรุงเทพฯ ตะวันตก ลักษณะเด่นของคนย่านนี้ จะมีสัดส่วนเป็นเจ้าของกิจการสูงสุด ปัจจุบันกว่า 80% อาศัยในบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ และเป็นโซนที่มีผู้อาศัยในทาวน์เฮ้าส์มากกว่าทุกโซน กลุ่มสำรวจเป็นเจ้าของบ้านเองหรือพักกับบิดามารดา ในสัดส่วนสูงสุด ให้เหตุผลที่ต้องการซื้อบ้านเพราะต้องการ ขยายพื้นที่ครอบครัวและมีสภาพแวดล้อมที่ดีกว่า มากที่สุด วันเสาร์-อาทิตย์มีกิจกรรมนอกบ้าน ในสัดส่วนสูงสุดกว่าทุกโซน (กว่า 60%) และฮวงจุ้ยมีส่วนในการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยสูงที่สุด (80%)

โดยหัวหน้าภาควิชาอสังหาริมทรัพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในทั้ง 5 โซนของกรุงเทพมหานคร มีทั้งความเหมือนและความแตกต่างกัน โดยความเหมือนได้แก่ กลุ่มสำรวจทุกโซน มีอาชีพเป็นพนักงานบริษัทเอกชนมากที่สุด เหตุที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ เพราะต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง มีปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย 2 อันดับแรกเหมือนกันคือ ทำเลที่ตั้งและราคา นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับห้องนอนและห้องน้ำมากที่สุด ต้องการบ้านสร้างเสร็จก่อนขาย ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮ้าส์ก็ตาม พบว่า ทุกโซน กลุ่มรายได้ และทุกอาชีพ มีความต้องการที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวมากที่สุด โดยเป็นบ้านเดี่ยวราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท หากเป็นทาวน์เฮ้าส์ต้องการพื้นที่ใช้สอยขนาด 121-150 ตารางเมตร หากเป็นอาคารชุดจะซื้อในระดับราคา 1-2 ล้านบาท และในทุกโซนและทุกกลุ่มรายได้ยังต้องการเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านแบบบิวท์อิน(Built-in) ด้วย

ในขณะที่ความแตกต่างที่พบจากการสำรวจ คือ ในโซนศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) ต้องการโปรโมชั่นทางการเงินประเภท ดาวน์ต่ำ ส่วนโซนอื่น ๆ ต้องการอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ในกลุ่มสำรวจรายได้ 90,000-120,000 บาท ต้องการโปรโมชั่นด้านการเงินในรูปแบบส่วนลดเงินสด และของแถมเป็นเครื่องปรับอากาศ ซึ่งต่างจากโซนอื่นที่ต้องการอัตราดอกเบี้ยพิเศษและของแถมเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน แต่ทั้งนี้เป็นโซนตะวันออกที่ต้องการเครื่องปรับอากาศเป็นของแถม และคนในโซนเหนือ ตะวันตก และตะวันออกให้ความสำคัญในเรื่องฮวงจุ้ย มากกว่าโซนใต้และ CBD ส่วนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เรื่องการพักผ่อนในโครงการ โซนเหนือต้องการสวนพักผ่อน โซนใต้และตะวันตกต้องการสระว่ายน้ำ โซนตะวันออกและซีบีดี ต้องการห้องออกกำลังกาย ส่วนงานบริการประเภทต่าง ๆ ในโซนเหนือและตะวันออกต้องการบริการช่างซ่อมบ้าน / ประปา / ไฟฟ้า ในขณะที่โซนใต้ และซีบีดี ต้องการบริการทำความสะอาดบ้าน ส่วนโซนตะวันตกต้องการบริการดูแลสวน ส่วนความต้องการบ้าน โซนเหนือ ใต้ และตะวันตก ต้องการบ้านเดี่ยวขนาดที่ดิน 50-70 ตารางวา และขนาดพื้นที่ใช้สอย 120-150 ตารางเมตร ซึ่งต่างกับโซนตะวันออกและซีบีดีที่ต้องการบ้านเดี่ยวขนาดที่ดิน 71-90 ตารางวา และขนาดพื้นที่ใช้สอย 151-180 ตารางเมตร เป็นขนาดที่ดินและพื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่หากถามถึงความต้องการทาวน์เฮ้าส์ก็ต้องการขนาดที่ดินที่ต่างกัน โดยโซนเหนือ ใต้ และซีบีดี ต้องการขนาดที่ดิน 21-25 ตารางวา ซึ่งต่างกับโซนตะวันตก ที่ต้องการทาวน์เฮ้าส์ขนาดที่ดินเพิ่มขึ้น คือ 36 ตารางวาขึ้นไป ส่วนโซนตะวันออก ต้องการทาวน์เฮ้าส์ขนาดที่ดินเพิ่มขึ้น 26-30 ตารางวา ในโซนเหนือ ตะวันตก และซีบีดี จะให้ความสำคัญกับพื้นที่จัดสวนบริเวณบ้าน ซึ่งต่างกับโซนใต้ และตะวันออกจะให้ความสำคัญกับที่จอดรถ