ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยจำนวนที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง ที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนทั่วประเทศ ระหว่างเดือนมกราคม – กันยายน 2550 พบว่าจำนวนหน่วยลดลงอย่างมาก
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ อธิบายว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2550 มีจำนวนโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยและปานกลางที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนทั่วประเทศ ทั้งสิ้น 24 โครงการ รวมจำนวน 10,524 หน่วย แยกประเภทที่อยู่อาศัยเป็นบ้านเดี่ยว 2,661 หน่วย ทาวน์เฮ้าส์ 3,996 หน่วย และห้องชุดคอนโดมิเนียม 3,867 หน่วย คิดเป็นจำนวนหน่วยเฉลี่ยต่อโครงการ 439 หน่วย เปรียบเทียบกับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2549 มีจำนวน 36 โครงการ รวม 42,635 หน่วย คิดเป็นจำนวนหน่วยเฉลี่ยต่อโครงการประมาณ 1,184 หน่วย ซึ่งแสดงว่าจำนวนหน่วยลดลงมากถึง 75%
ทั้งนี้จำนวนที่ลดลงส่วนใหญ่เป็นห้องชุดคอนโดมิเนียม ซึ่งใน 9 เดือนแรกของปี 2549 มีจำนวนสูงถึง 30,886 หน่วย แต่ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2550 กลับมีการอนุมัติเหลือเพียง 3,867 หน่วย ลดลงเกือบ 90% ส่วนที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวลดลง 40% และทาวน์เฮ้าส์ลดลง 45%
เมื่อแบ่งเป็นรายภาค ใน 9 เดือนแรกปี 2550 มีจำนวนที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง ที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในกรุงเทพฯและปริมณฑล 2,613 หน่วย อยู่ในกรุงเทพฯ 377 หน่วย ส่วนปริมณฑลมีเพียง 3 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี 1,047 หน่วย นนทบุรี 965 หน่วย และสมุทรปราการ 224 หน่วย
ภาคกลาง 4,655 หน่วย ได้แก่ อยุธยา 2,106 หน่วย ปราจีนบุรี 1,395 หน่วย และฉะเชิงเทรา 1,154 หน่วย
ภาคตะวันออก 1,683 หน่วย อยู่ในจังหวัดชลบุรีทั้งหมด
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 928 หน่วย ได้แก่ นครราชสีมา 853 หน่วย และมหาสารคาม 75 หน่วย
ภาคเหนือ 645 หน่วย อยู่ในจังหวัดเชียงรายทั้งหมด
ส่วนภาคใต้ ไม่มีโครงการที่อยู่อาศัยที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนเลย
เฉพาะไตรมาส 3 ปี 2550 เพียงไตรมาสเดียว มีโครงการที่อยู่อาศัยที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอเพียง 5 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ 162 หน่วย นนทบุรี 965 หน่วย สมุทรปราการ 224 หน่วย ฉะเชิงเทรา 358 หน่วย ชลบุรี 292 หน่วย ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮ้าส์ รองลงมาเป็นคอนโดมิเนียม แต่ไม่มีประเภทบ้านเดี่ยว
ทั้งนี้ ในอดีตการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในที่อยู่อาศัยมีรวมกันปีละไม่เกิน 10,000 หน่วย แต่ในปี 2548 มีถึง 36,175 หน่วย และเพิ่มขึ้นประมาณเท่าตัวเป็น 61,331 หน่วยในปี 2549 ส่วนหนึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในบางส่วนของโครงการบ้านเอื้ออาทร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในปี 2549 มีที่อยู่อาศัยในโครงการบ้านเอื้ออาทรที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนมากถึงประมาณ 35,200 หน่วย ในจำนวนนี้เป็นที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดประมาณ 27,500 หน่วย แต่ในรอบ 9 เดือนแรกปี 2550 มีที่อยู่อาศัยในโครงการบ้านเอื้ออาทรที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนเพียงประมาณ 4,100 หน่วย ในจำนวนนี้เป็นที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดเพียงประมาณ 2,100 หน่วย