กลุ่มแสนสิริ โชว์ยอดขายคอนโดมิเนียมปี 2550 พุ่งกว่า 1.06 หมื่นล้านบาท

กลุ่มแสนสิริ-พลัสฯ โชว์ศักยภาพการเป็นผู้นำตลาดคอนโดมิเนียม ด้วยการสร้างตัวเลขยอดขายโครงการคอนโดมิเนียม 11 เดือนของปี 2550 เกือบ 2,700 ยูนิต จาก 25 โครงการ มูลค่าโครงการขายรวมประมาณ 10,600 ล้านบาท ผลจากกลยุทธ์การรุกตลาดที่ชัดเจน โดยเฉพาะการเลือกทำเลที่เหมาะสมและตอบรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย โดยแสนสิริจับกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยม และเจาะกลุ่มตลาดระดับกลางผ่านบริษัทในเครือ

นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมของกลุ่มบริษัทแสนสิริ และบริษัทในเครือ ของปี 2550 ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมานั้น นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยกลุ่มบริษัทแสนสิริและบริษัทในเครือ สามารถสร้างยอดขายโครงการคอนโดมิเนียมโดยรวมได้เป็นมูลค่ากว่า 10,600 ล้านบาท จากจำนวนยูนิตที่ขายทั้งสิ้นประมาณ 2,700 ยูนิต จากโครงการคอนโดมิเนียมทั้งหมด 25 โครงการ ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มบริษัทพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่มีมูลค่าการขายโครงการคอนโดมิเนียมที่สูงที่สุดในระบบในขณะนี้

“ สำหรับยอดขายโครงการคอนโดมิเนียมของกลุ่มบริษัทแสนสิริ และบริษัทในเครือในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมาของปี 2550 แบ่งได้เป็น โครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมที่พัฒนาโดยบริษัทแสนสิริ มียอดขายประมาณ 1,020 ยูนิต มูลค่าโครงการขายประมาณ 7,800 ล้านบาท ส่วนการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมของบริษัทในเครือของ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ มียอดขายประมาณ 1,615 ยูนิต มูลค่าโครงการขายประมาณ 2,800 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นยอดขายโดยรวมที่สูงที่สุดในระบบ และเป็นการตอกย้ำภาพที่ชัดเจนของการเป็นผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมได้เป็นอย่างดี” นายเศรษฐา กล่าว

โครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมใหม่ ที่พัฒนาโดยบริษัทแสนสิริ ในปี 2550 แบ่งเป็นโครงการในย่านธุรกิจใจกลางเมืองที่สำคัญ ได้แก่ โครงการ Siri at Sukhumvit คอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมบริเวณสุขุมวิท ทองหล่อ มูลค่าโครงการขายประมาณ 3,200 ล้านบาท , , โครงการ 39 by Sansiri โครงการ High-Rise คอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมบริเวณซอยสุขุมวิท 39 มูลค่าโครงการประมาณ 1,600 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันปิดการขายแล้ว ส่วน โครงการ SIRI on 8 ตั้งอยู่บริเวณซอยสุขุมวิท 8 มูลค่าโครงการประมาณ 600 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายกว่าร้อยละ 80 และโครงการใหม่ล่าสุดคือ โครงการ PRIVE’ by SANSIRI ตั้งอยู่บริเวณถนนวิทยุ มูลค่าโครงการขายประมาณ 1,260 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมตากอากาศในพื้นที่ท่องเที่ยว ในอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์อีกหลาย โครงการ ได้แก่ โครงการบ้านแสนปลื้ม หัวหิน มูลค่าโครงการขายประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งใช้เวลาในการปิดการขายเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น , โครงการบ้านนับคลื่น หัวหิน คอนโดมิเนียมสุดเก๋สไตล์ Coastal Village มูลค่าโครงการขายประมาณ 1,200 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้วประมาณร้อยละ 60

ส่วนการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมของบริษัทในเครือ ของบริษัทพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากจากแบรนด์คอนโดมิเนียม “Condo One” และแบรนด์ใหม่ล่าสุด “My Condo” ที่มีการเปิดตัวถึง 5 ทำเลที่พัฒนาขึ้นในทำเลที่เหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัย และอยู่ใกล้เส้นทางคมนาคมที่สะดวกสบาย โดยเป็นแบรนด์คอนโดมิเนียมที่มีระดับกลาง และระดับที่สามารถตอบรับกับความต้องการของลูกค้าทั่วไปได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้เกือบทุกโครงการประสบความสำเร็จในการขายอย่างมาก โดยบางทำเลสามารถปิดการขายได้ภายในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์เท่านั้น

“ ความสำเร็จในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมของกลุ่มบริษัทแสนสิริ เกิดจากการวางกลยุทธ์การรุกตลาดที่ตอบรับกับความต้องการของลูกค้าที่ชัดเจน โดยบริษัทแสนสิริเน้นการพัฒนาคอนโดมิเนียมเพื่อตอบรับกับความต้องการของลูกค้าระดับพรีเมี่ยมเท่านั้น ซึ่งทุกโครงการจะต้องอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดกลางใจเมืองหรือ CBD เป็นหลัก ส่วนคอนโดมิเนียมตากอากาศในพื้นที่ของหัวหิน จะเป็นโครงการที่มีความน่าสนใจและมีดีไซน์ที่แตกต่าง ที่สำคัญคือ ทุกโครงการต้องเน้นการพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพสูง เพื่อตอบรับกับกลุ่มลูกค้าระดับบน ส่วนบริษัทในเครืออย่างพลัสฯ จะรุกตลาดลูกค้าในระดับรองลงมา เพื่อเป็นการกระจายการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมที่ตอบรับกับทุกกลุ่มความต้องการนั่นเอง” นายเศรษฐา กล่าว