สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แต่งตั้ง นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ นายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย เป็นประธาน สภาฯ คนใหม่ แทน ดร. ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ที่หมดวาระลง รวมทั้ง แต่งตั้ง ดร. อนุสรณ์ แสงนิ่มนวล นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ และ นายยงยศ วารีสุรหาญ เป็นกรรมการสภาฯ แทนกรรมการที่ครบวาระ เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2551 ถึงวันที่ 29 สิงหาคม 2553
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทยคนใหม่ (สธท.) เปิดเผยภายหลังได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทยว่า นับจากนี้จะมุ่งเน้นสานต่อเจตนารมณ์ของ สธท. ในฐานะองค์กรหลักในตลาดทุน ที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนและเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนเสริมสร้างบทบาทการดำเนินงานของ สธท. ให้เป็นที่ยอมรับและมีความสำคัญทัดเทียมกับองค์กรลักษณะเดียวกันในภาคเศรษฐกิจอื่น อาทิ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นต้น
“ สธท. ในฐานะองค์กรกลางพร้อมที่จะทำงานเชื่อมโยงกับหน่วยงานในตลาดทุนอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะภายใต้สถานการณ์ตลาดทุนที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในปัจจุบัน สธท. พร้อมที่จะประสานความร่วมมืออย่างเต็มที่กับภาครัฐ ในการเสนอแนะความคิดเห็นหรือแนวทางสำคัญที่จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตลาดทุน รวมทั้ง มีส่วนร่วมสนับสนุนการกำหนดและการดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน เพื่อพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งแก่ตลาดทุนไทย ให้สามารถช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป นอกจากนี้ จะให้ความสำคัญในการเสริมสร้างบทบาทการดำเนินงานของ สธท. ให้เป็นที่ยอมรับ และมีความสำคัญทัดเทียมกับองค์กรลักษณะเดียวกันในภาคเศรษฐกิจอื่นอีกด้วย ” นายประเสริฐ กล่าว
ด้าน ดร. ก้องเกียรติ โอภาสวงการ นายกสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวถึงการดำเนินงานที่ผ่านมาว่า สธท. ได้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจัดทำแผนแม่บทพัฒนาตลาดทุนไทย (Capital Market Master Plan) ฉบับที่ 2 (2549-2553) รวมทั้งการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลตลาดทุน และการจัดทำสมุดปกขาวเสนอแนะความคิดเห็นและข้อมูลที่สำคัญให้ภาครัฐตระหนักถึงความสำคัญของตลาดทุน ทำให้มีการออกนโยบายหรือมาตรการต่าง ๆ ที่เอื้อต่อการพัฒนาตลาดทุนและเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกรรมของตลาดทุนหลายประการ
“ ช่วงต้นปี 2551 ที่ผ่านมา สธท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในตลาดทุน ได้ร่วมกันผลักดันเรื่องการพัฒนาตลาดทุนให้เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากภาครัฐและผู้เกี่ยวข้อง ส่งผลให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนไทยขึ้น เพื่อเสนอแนะนโยบายและทิศทางการพัฒนาตลาดทุนไทยอย่างเป็น องค์รวม รวมทั้งมีการจัดทำแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ซึ่งมีกรอบและแนวทางการพัฒนาตลาดทุนที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม ครอบคลุมทุกองค์ประกอบของตลาดทุน และสอดรับกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจมหภาคอื่น ๆ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2551 และเริ่มมีผลบังคับใช้ประมาณต้นปี 2552 ดังนั้น การเข้ารับตำแหน่งของนายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ในฐานะประธาน สธท. คนใหม่ จะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการสนับสนุนและผลักดันการทำงานของ สธท. เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนไทยอย่างต่อเนื่อง ตามแผนกลยุทธ์ต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ในแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ให้เห็นผลสำเร็จเป็นรูปธรรมต่อไป ” ดร.ก้องเกียรติ กล่าว
ส่วนนางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในฐานะกรรมการและเลขานุการ สธท. กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมและยินดีให้การสนับสนุนการดำเนินงานของสภาธุรกิจตลาดทุนไทย การเสริมสร้างให้องค์กรหลักในตลาดทุนมีความแข็งแกร่ง และสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นเป้าหมายหลักอย่างหนึ่งของตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อทุกหน่วยในตลาดทุนสามารถทำงานขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีเป้าหมายและประสบผลสำเร็จ ตลาดทุนไทยจะพัฒนาอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน พร้อมทำหน้าที่เป็นอีกหนึ่งเสาหลักทางเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ สธท. ยังได้แต่งตั้งตัวแทนจากองค์กรภาคตลาดทุนจำนวน 4 คน เป็นกรรมการใหม่ แทนกรรมการที่ครบวาระ ประกอบด้วย ดร.อนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการ สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย นายไพบูลย์ นลินทรางกูร อุปนายก สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน และ นายยงยศ วารีสุรหาญ อุปนายก สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย โดยมีวาระการดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2551 ถึงวันที่ 29 สิงหาคม 2553 ทั้งนี้ ประธาน และกรรมการ สธท. ที่ได้รับแต่งตั้ง มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 2 ปี และเมื่อพ้นจากตำแหน่งตามวาระอาจได้รับการแต่งตั้งใหม่ได้ แต่ไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน
สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (สธท.) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2547 จากการรวมตัวกันขององค์กรตลาดทุนที่สำคัญ 6 องค์กร ได้แก่ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย สมาคมบริษัทจัดการลงทุน สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คณะกรรมการ สธท. มีจำนวนทั้งสิ้น 11 ท่าน ประกอบด้วย กรรมการโดยตำแหน่ง ซึ่งได้แก่ นายกสมาคมของแต่ละสมาคม รวม 5 ท่าน ดำรงตำแหน่งประธานและรองประธาน และกรรมการโดยการแต่งตั้งจากแต่ละสมาคมแห่งละ 1 ท่าน รวม 5 ท่าน โดยมีกรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำหน้าที่กรรมการและเลขานุการ