SCB เปิดจองซื้อหุ้นกู้ Q-House อัตราดอกเบี้ย 5.25 % ต่อปี

ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมกับธนาคารกรุงเทพ และธนาคารทหารไทย จัดจำหน่ายหุ้นกู้บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ Q-House มูลค่าไม่เกิน 1,500 ล้านบาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.25 % ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เพื่อเสนอขายนักลงทุนรายย่อย กำหนดจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท เริ่มเปิดจองซื้อ 2-3 และ 6-7 ตุลาคม นี้ ผ่านสาขาธนาคาร

นายจรัมพร โชติกเสถียร รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ธนาคารได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศ จะจัดออกหุ้นกู้อายุ 3 ปี มูลค่าไม่เกิน 1,500 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการจัดซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการ รวมถึงเป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการของบริษัท หุ้นกู้ Q-House นับเป็นการเพิ่มโอกาสและทางเลือกที่ดีในการลงทุนให้แก่นักลงทุนรายย่อย โดยเสนออัตรา ดอกเบี้ย 5.25% ต่อปี และจ่ายดอกเบี้ยให้ทุก ๆ 3 เดือน กำหนดวงเงินจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท ไทยพาณิชย์จะเปิดรับจองซื้อหุ้นกู้ดังกล่าวในช่วงระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 2-3 และ 6-7 ตุลาคม 2551 นี้

ในปี 2551 นี้ Q-House ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้จากทริสเรตติ้ง เป็นระดับ A- และมีแนวโน้มของอันดับเครดิตคงที่ ซึ่งอันดับเครดิตที่เพิ่มขึ้นนี้สะท้อนถึงสถานะของบริษัทที่แข็งแกร่งขึ้นในตลาดบ้านระดับราคาปานกลาง ความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น ภาพพจน์ตราสัญญลักษณ์ที่ แข็งแกร่งของบริษัทในตลาดบ้านจัดสรรระดับบน ตลอดจนผลงานที่ยาวนานเป็นที่รู้จักดีของบริษัท และสามารถรักษาสถานะผู้นำในตลาดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จากการประเมินความต้องการจากผู้ลงทุนพบว่า ผู้ลงทุนให้ความสนใจกับหุ้นกู้ Q-House เป็นอย่างดี เนื่องจากผู้ลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อบริษัทในฐานะผู้นำกลุ่มผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มายาวนาน และมีกลุ่มผู้ถือหุ้นที่มีความแข็งแกร่งทางการเงิน รวมทั้งผลการดำเนินงานของบริษัทในหลายปีที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ณ เดือนมีนาคม 2551 บริษัทมียอดขายโครงการบ้านจัดสรรคิดเป็น 85% ของรายได้ทั้งหมด และบริษัทยังมีรายได้อื่นจากค่าเช่าเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์และอาคารสำนักงานคิดเป็น 10-12% และ 3-4% ตามลำดับในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งเมื่อพิจารณาอัตราดอกเบี้ยที่ผู้ลงทุนจะได้รับ นับว่าเป็นผลตอบแทนที่สูง จึงนับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ผู้ลงทุนอาจพิจารณาเพื่อเป็นกระจายการลงทุนน่าสนใจ