นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Theeranat Rujimethapass, Managing Director of TISCO Asset Management Co.,Ltd.) เปิดเผยว่า เป็นความสำเร็จอีกครั้งของบลจ.ทิสโก้ ในการได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทจัดการกองทุน (บลจ.) ที่มีผลงานด้านกองทุนตราสารทุน (กองหุ้น) ยอดเยี่ยม ของประเทศไทย ในรอบระยะเวลา 3 ปี (Best Equity Fund Group Over Three Years) จาก Lipper Fund Awards 2010
การได้รับรางวัลดังกล่าวเป็นความภาคภูมิใจของทิสโก้ เนื่องจากเป็นรางวัลที่มีการพิจารณาใช้เกณฑ์และกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลที่เป็นสากล เป็นที่ยอมรับและใช้อ้างอิงอย่างแพร่หลาย และเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมากต่อนักลงทุนที่สนใจจะลงทุนในกองทุนรวมในปัจจุบัน
“การจัดอันดับกองทุน หรือ Lipper Fund Awards จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ใน 23 ประเทศ โดยใช้หลักเกณฑ์ในการพิจารณาจากความสม่ำเสมอในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในการบริหารจัดการกองทุนประเภทต่างๆ ของทุก บลจ. ซึ่งที่ผ่านมา หากใครที่ติดตาม ก็จะทราบว่ากองทุนที่ลงทุนในหุ้นของบลจ.ทิสโก้ มีผลงานค่อนข้างโดดเด่น ติดกลุ่ม Top Perform มาอย่างสม่ำเสมอ จนทำให้ได้รับรางวัล “บริหารจัดการกองหุ้นยอดเยี่ยม” จากการติดตามผลงานตลอดระยะเวลา 3 ปี ในที่สุด”
นายธีรนาถ กล่าวว่า ภูมิใจมากกับรางวัลนี้ เพราะเป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นนโยบายการบริหารจัดการกองทุนระยะยาวของทิสโก้ ที่เน้นว่าทำอย่างไรจึงจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหน่วยได้อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยต้องดีกว่าผลตอบแทนของตลาดฯ เป็นการสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีๆ ไม่ได้วัดกัน ณ จุดใดจุดหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของทีมผู้จัดการกองทุน ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมา บลจ.ทิสโก้โชว์ผลงานได้โดดเด่นในเกือบทุกประเภทกองทุน อย่างเมื่อต้นปี มอร์นิ่งสตาร์ รีเสริ์ช ก็มีการจัดอันดับผลตอบแทนกองทุนยอดเยี่ยมทั้งหมด 20 กองทุน ก็มีกองทุนของทิสโก้ติดอันดับถึง 10 กองทุน และคว้าอันดับ 1 ถึง 4 ในการจัดอันดับกองทุนหุ้นที่สร้างผลตอบแทนสูงสุด ของ สมาคมบริษัทจัดการกองทุน และ Lipper ประเทศไทยมาแล้ว ที่เด่นมากก็เป็นกองทุนหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดตั้งแต่ 76-33% – 84.81% เหนือกว่าอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยตลาดหุ้นไทยที่ 63%
ความสำเร็จของการบริหารจัดการกองทุนของ บลจ.ทิสโก้ เป็นผลมาจากการมีทีมงานผู้จัดการกองทุนที่มีคุณภาพและประสบการณ์สูง จำนวน 14 คน มีอายุงานเฉลี่ย 12 ปีขึ้นไป ซึ่งจำนวนกว่าครึ่งได้เคยผ่านเหตุการณ์ในช่วงวิกฤติการณ์ต้มยำกุ้งมาแล้ว ผนวกกับผู้จัดการกองทุนรุ่นใหม่ ทำให้เกิดความผสมผสานกันได้อย่างลงตัวเป็นระหว่างความเชี่ยวชาญและความรู้ในนวัตกรรมทางการเงินใหม่ ๆ ที่จะช่วยกันสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต การวัดผลการดำเนินงานของกองทุนรวม ได้จัดทำขึ้นตามมาตรฐานการวัดผลการดำเนินงานที่กำหนดโดยสมาคมบริษัทจัดการลงทุน
