พลัส พร็อพเพอร์ตี้ มั่นใจ “ธุรกิจตัวแทนขายโครงการ” โตต่อเนื่อง

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เปิดพอร์ตครึ่งปีหลังรับบริหารการขายโครงการใหม่ 4 ทำเลสุดฮอตทั้งใจกลางสุขุมวิท และหาดหัวหิน รวมมูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท เผยลูกค้าเชื่อมั่นความเป็นมืออาชีพแบบครบวงจร ด้วยจุดขายกระชับระยะเวลาการขาย ครบครันด้วยระบบฐานข้อมูลที่หลากหลายและมีศักยภาพ

นางสาวสมสกุล หลิมศุทธพรรณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2553 ทีมบริหารการขายโครงการของพลัส หรือ Plus Sales Management สามารถรับบริหารงานขายโครงการรวมมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท รวม 6 โครงการ ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และเมืองตากอากาศชั้นนำ อาทิหัวหินและภูเก็ต โดยไฮไลท์เด่นในช่วงครึ่งแรกปี 53 ทีม Plus Sales Management ได้เปิดตัวคอนโดมิเนียมตากอากาศ 2 โครงการใหญ่ในทำเลหัวหินและภูเก็ต รวมมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท ในรูปแบบคอนโดมิเนียมสไตล์ Resort Property หรือ Resort Real Estate คอนโดมิเนียมที่รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันในบริเวณพื้นที่เดียวกัน พร้อมให้บริการกับผู้พักอาศัยอย่างครบวงจร ขณะที่โครงการรับบริหารการขายที่ยังเปิดการขายในปัจจุบัน อาทิ โครงการ The Breeze หัวหิน คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้เร็วๆ นี้ และจากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้ลูกค้าเดิมที่ใช้บริการมีความพึงพอใจ ต่อผลงานการบริหารงานขายเป็นอย่างมาก ส่งผลให้มีการสานต่อธุรกิจต่อเนื่องโดยมีการเจรจานำที่ดินเปล่าเข้ามาร่วมหารือเพื่อพัฒนาโครงการตั้งแต่เริ่มต้นต่อไป

“เหตุผลที่ลูกค้าไว้วางใจให้ พลัส บริหารงานขายในโครงการใหม่ๆ ต่อเนื่อง เนื่องจากเห็นถึงความสำเร็จตั้งแต่ขั้นตอนการให้คำแนะนำ รวมถึงการสร้างสรรค์กลยุทธ์การขายครบวงจร เพื่อให้งานขายเป็นไปตามเป้าหมาย โดยทีมงานจะเข้าให้บริการที่ปรึกษาพัฒนาโครงการตั้งแต่เริ่มต้น ในกลุ่มลูกค้าทั้งที่มีประสบการณ์และไม่มีประสบการณ์ด้านการพัฒนาโครงการมาก่อน ตั้งแต่การวางแผนการตลาด การขายและการวางแผนใช้สื่อโฆษณา รวมถึงการทำงานร่วมกับทีมสถาปนิกในเรื่องการออกแบบ การวางฟังก์ชั่น และกำหนดรูปแบบที่อยู่อาศัยเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการในตลาด ทั้งนี้เพื่อให้การขายประสบความสำเร็จ ซึ่งทุกอย่างล้วนมาจากประสบการณ์จริงที่เราได้สั่งสมมานาน” นางสาวสมสกุล หลิมศุทธพรรณกล่าว

ทั้งนี้ Plus Sales Management วางเป้าหมายบริหารการขายโครงการที่อยู่อาศัยครบวงจร รวมทั้งในปีนี้ยังเตรียมกลยุทธ์ใหม่เพื่อรุกรับบริหารการขายในโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และบ้านแฝด เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพื่อให้บริการที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

“ในครึ่งหลังปี 53 เราได้รับความไว้วางใจจากบริษัทพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ 4 รายเพื่อรับบริหาร งานขายอีกจำนวนกว่า 1,000 ยูนิต มูลค่ารวมประมาณ 2,500 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 3 โครงการในทำเลใจกลางกรุงเทพฯ ที่พร้อมเปิดตัวในเดือนสิงหาคมและพฤศจิกายนนี้ตามลำดับ ส่วนอีก 1 โครงการเป็นคอนโดมิเนียมตากอากาศที่หัวหิน ซึ่งโครงการนี้ พลัส ได้ร่วมวางกลยุทธ์ในการพัฒนาโครงการแบบต่อเนื่องกับลูกค้าเก่าที่ประสบความสำเร็จและให้ความไว้วางใจในบริการการขายต่อเนื่อง นอกเหนือจากนี้ ยังมีอีกหลายโครงการที่อยู่ระหว่างเจรจา ทั้งในเขตกรุงเทพฯ หัวหิน และภูเก็ต” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าว

ปัจจุบัน มูลค่าตลาดรวมของธุรกิจตัวแทนขายโครงการ หรือ Sales Management นั้น ยังไม่มีหน่วยงานกลางหน่วยงานใดเก็บข้อมูลไว้ชัดเจน แต่หากพิจารณาถึงส่วนแบ่งการตลาดแล้ว สำหรับ การบริหารงานขายโครงการในโครงการตามเมืองตากอากาศชั้นนำ อาทิ หัวหินและภูเก็ต พลัส สามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้ถึง 13% จากตลาดรวมของทั้งสองพื้นที่ โดยโครงการที่พักอาศัย ส่วนใหญ่เป็นโครงการขนาดเล็กที่เจ้าของโครงการมักจะดำเนินการขายเอง ดังนั้นจึงยังมีช่องว่าง ในตลาดอีกกว่า 50% ที่ พลัส สามารถก้าวเข้าไปในตลาดนั้นได้

ด้านมุมมองของ พลัส ต่อธุรกิจ Sales Management ของเมืองไทยนั้น นางสาวสมสกุล หลิมศุทธพรรณ กล่าวแสดงความเห็นในประเด็นดังกล่าวว่า “ธุรกิจรับบริหารการขายโครงการ หรือ Sales Management นั้น ยังมีอัตราเติบโตในตลาดอีกมาก เนื่องจากเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสภาวะอสังหาริมทรัพย์โดยรวม ที่กำลังปรับตัวดีขึ้นสอดคล้องกับสภาวะทางเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ประกอบกับความต้องการที่อยู่อาศัยประเภท คอนโดมิเนียม โดยเฉพาะขนาด 1 ห้องนอน ทำเลใกล้เมือง และมีการเดินทางที่สะดวกสบายนั้น ยังมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากการที่มีผู้ประกอบการรายใหม่ๆ เข้ามาพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบดังกล่าวออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น นอกจากนี้จากนโยบายการเปลี่ยนเกณฑ์การขอส่งเสริมการลงทุนโครงการที่อยู่อาศัยหรือ บีโอไอ ยังเปิดโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการต่างเข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาดในส่วนนี้กันอย่างคึกคัก เนื่องจากได้ประโยชน์จากการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ดังนั้นภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์จึงมีโครงการใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งในทำเลกรุงเทพฯ และปริมณฑล ความเฉียบคมด้านกลยุทธ์การขายจึงเป็นจุดเด่นที่ทำให้ผู้ประกอบการเลือกใช้บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านการขายในการสร้างยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เช่นกัน”