สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เผยตลาดบ้านระดับหรูมาแรง มีทิศทางเติบโตสูงขึ้นกว่า 50 % เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่กลุ่มราคา 2.5 – 5 ล้านบาท ครองแชมป์ได้รับความนิยมสูงสุด พบทำเลที่ตั้งที่ต้องการปลูกสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลมีความต้องการต่อเนื่อง เผยยอดขาย Home Builder Expo 2013 ทะลุเป้ากว่า 3,000 ล้านบาท สวนกระแสเศรษฐกิจขาลง
ดร.พัชรา ตัณฑยรรยง นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า จากการจัดงาน Home Builder 2013 ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 22-25 สิงหาคม ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หลังจากสรุปยอดขายจากกลุ่มผู้ที่จองปลูกสร้างบ้านในงาน สามารถทำยอดขายได้ 3,025 ล้านบาท ซึ่งสามารถทำยอดขายได้เกินจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 2,850 ล้านบาท มียอดขายเพิ่มขึ้นจากปี 2555 ที่ทำยอดขายได้ 2,700 ล้านบาท อย่างไรก็ดีเชื่อมั่นว่ามูลค่าตลาดรวมของธุรกิจรับสร้างบ้านทั้งปีจะมีมูลค่า 11,500 ล้านบาท ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้อย่างแน่นอน ประกอบกับในช่วงครึ่งปีหลังผู้ประกอบการได้กลับมาจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและขายมากขึ้นเมื่อเทียบกับในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา และจากการสำรวจและวิจัยพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคโดยฝ่ายวิชาการของสมาคมฯพบว่า ค่าเฉลี่ยของมูลค่าบ้านภายในงาน Home Builder 2013 จะอยู่ที่ราคาหลังละ 7.4 ล้านบาท โดยมูลค่าราคาบ้านที่ผู้บริโภคนิยมสร้างมากที่สุดอยู่ที่ราคา 2.5 -5 ล้านบาท ขณะที่บ้านที่ราคาแพงที่สุดภายในงาน คือ ราคาหลังละ 76 ล้านบาท และราคาต่ำสุดอยู่ที่ 1.58 ล้านบาท
จากการเก็บข้อมูลยอดจองและยอดการทำสัญญาในงานพบว่า งบประมาณในการปลูกสร้างบ้านที่กลุ่มผู้บริโภคทำการจองมากที่สุดจะอยู่ที่ระดับราคา 2.5 – 5 ล้านบาท คิดเป็น 41.14 % ของยอดขายรวมทั้งหมด รองลงมาคือ บ้านระดับราคา 5.1 – 10 ล้านบาทอยู่ที่ 23.98 % และบ้านราคาไม่เกิน 2.5 ล้านบาท มียอดจองอยู่ที่ 14.99 % ทั้งนี้กลุ่มบ้านหลังใหญ่ระดับราคาตั้งแต่ 20 ล้านบาท ขึ้นไป ถือเป็นกลุ่มที่มีทิศทางการเติบโตมากที่สุดถึง 50 % โดยมียอดจองที่ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีมูลค่าถึง 935 ล้านบาท ปี 2555 มียอดขายอยู่ที่ 640 ล้านบาท และพบว่ามีกลุ่มผู้บริโภคได้เข้ามาใช้บริการปลูกสร้างบ้านหลังใหญ่กับบริษัทสมาชิกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านภายในงานมากขึ้นจากปีก่อน
ดร.พัชรา กล่าวต่อว่า จากผลสำรวจความต้องการปลูกสร้างบ้านของผู้บริโภคที่เข้าชมงาน Home Builder Expo 2013 ซึ่งคาดว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการปลูกสร้างบ้านในอนาคต พบว่า งบประมาณในการสร้างบ้านส่วนใหญ่จะอยู่ที่ราคาต่อหน่วย 2-5 ล้านบาท คิดเป็น 25 % รองลงมาคือ 1-2 ล้านบาท คิดเป็น 22% ขนาดที่ดินที่ผู้บริโภคนิยมปลูกสร้างบ้านมากที่สุด คือ 51-100 ตารางวา คิดเป็น 22 % รองลงมา คือ 101-150 ตารางวา คิดเป็น 12 % ด้านทำเลที่ยังเป็นที่นิยมในการปลูกสร้างบ้านอย่างต่อเนื่องมากที่สุด คือ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลคิดเป็น 32 % รองลงมาคือ ต่างจังหวัด 17 % และปัจจัยที่ช่วยตัดสินใจในการเลือกใช้บริษัทรับสร้างบ้านในการปลูกสร้างบ้านเนื่องจากคุณภาพงานก่อสร้าง ขณะเดียวกันพบว่าระยะเวลาที่ต้องการปลูกสร้างบ้านมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป มีผู้บริโภคที่ต้องการปลูกสร้างบ้านคิดเป็น 55 % รองลงมาภายใน 6 เดือน คิดเป็น 23%