Nielsen Holdings N.V. (NYSE:NLSN), เป็นบริษัทผู้นำระดับโลกด้านการให้ข้อมูลและอินไซท์ในสื่อที่ผู้บริโภคดูและสิ่งที่ผู้บริโภคซื้อ และ Myanmar Marketing Research & Development Co., Ltd (MMRD) คือผู้บุกเบิกการให้บริการด้านการวิจัยในประเทศพม่าด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปี และวันนี้ทั้งสองบริษัทได้ประกาศจับมือร่วมทุนกันอย่างเป็นทางการ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2557
การร่วมลงทุนกันภายใต้ชื่อบริษัท นีลเส็น เอ็มเอ็มอาร์ดี (Nielsen MMRD) นั้น คือการรวมความสามารถของทั้งสองบริษัทเข้าด้วยกันเพื่อช่วยให้บริษัทที่ก่อตั้งขึ้นในพม่าหรือวางแผนที่จะเข้าร่วมในตลาดที่เติบโตนี้มีความเข้าใจในเอกลักษณ์ที่แตกต่างออกไปของตลาดและผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
“เราตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกับบริษัท MMRD ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยการตลาดที่ได้รับการยอบรับนับถือในประเทศพม่า” นายสุเรช รามาลินกัม กรรมการผู้จัดการนีลเส็นประเทศไทย เวียดนาม และพม่ากล่าว “ด้วยจำนวนประชากร 55 ล้านคน ประเทศพม่าถือได้ว่าเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่2 ในอาเซียนและเป็นหนึ่งในพรมแดนสุดท้ายที่ลูกค้าของเรายังไม่เข้าถึง โดยเราตั้งตาคอยที่จะได้ร่วมงานกับทีมงานของ MMRD เพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราได้ข้อมูล อินไซท์ที่ครอบคลุมและลึกซึ้งที่สุดสำหรับตลาดและผู้บริโภคในประเทศพม่า”
“เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากในการเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนกับนีลเส็น และเรามองการร่วมทุนนี้ว่าเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างวิสัยทัศน์ของบริษัทเพื่อขยายการบริการสำหรับลูกค้าเราให้กว้างขึ้น เป็นสากลมากขึ้นและทำให้การบริการของเรามีความลึกมากยิ่งขึ้น” นาย U Moe Kyaw ผู้ปรึกษาอาวุโสของนีลเส็นและกรรมการผู้จัดการบริษัท MMRD กล่าว “เราพบว่าความต้องการทางด้านข้อมูลของประเทศพม่ามีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เห็นได้จากอัตราการเติบโตของการวิจัยการตลาดที่ 88.5% ซึ่งถูกรายงานโดย ESOMAR และตอนนี้เรามีจุดยืนที่ได้เปรียบในการให้การช่วยให้ลูกค้าทั้งในและนอกประเทศเข้าใจในเอกลักษณ์ของตลาดเรา”
เทรนด์ของผู้บริโภคและสื่อในพม่า
ประชากร:
· จากนีลเส็น เอ็มเอ็มอาร์ดี (Nielsen MMRD) ประชากรจำนวน 55 ล้านคน อาศัยอยู่ในพม่า โดยเกือบครึ่งหนึ่งของประชากร ( 47% ) มีอายุน้อยกว่า 24 ปี
เทรนด์การใช้สื่อ :
· โทรทัศน์ถือเป็นสื่อที่มีคนใช้มากที่สุด ซึ่งประชากรประมาณครึ่งหนึ่ง ( 50.7 %)จะเปิดโทรทัศน์ดูทุกอาทิตย์ ตามด้วย วิทยุ ( 43.4 % การเข้าถึงผู้ชมรายอาทิตย์) วารสาร ( 29.8 %) หนังสือพิมพ์ (12.0 %) , นิตยสาร (7.6 %) และภาพยนตร์ (2.7% )
· การใช้งานของอินเทอร์เน็ตทั่วประเทศ ยังคงมีอัตราส่วนที่ต่ำ มีเพียง 4%ของผู้บริโภคที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต และมีการใช้งาน เฉลี่ย 3.5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ การใช้งาน ในเมืองหลวงและปริมณฑลมีปริมาณที่เยอะกว่าเมื่อเทียบกับเขตเมืองและชนบทโดยมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตโดยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 16.4 เทียบกับร้อยละ 7.8 และ ร้อยละ 0.7 ในเขตเมืองและชนบทตามลำดับ
เทรนด์การโฆษณา :
· การโฆษณาของแบรนด์ต่างประเทศในพม่ามีจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมาหลังจากที่มีบริษัทต่างชาติจำนวนมากหลั่งไหลเข้าไปในประเทศ และจากการก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ที่ทำงาน 24 ชั่วโมง รวมถึงการจัดตั้งหนังสือพิมพ์ของภาคเอกชน แบรนด์ท้องถิ่นจึงตามเทรนด์ด้วยการเพิ่มงบโฆษณาเพื่อแข่งขันกับธุรกิจใหม่ที่เพิ่งเข้ามาบุกในตลาด ในปี 2013 แบรนด์ต่างประเทศจำนวน 2,793 แบรนด์ได้ลงทุนกับการโฆษณาในประเทศพม่า ซึ่งเพิ่มขึ้นจากจำนวน 1,716 ในปี 2010 ในช่วงเวลาเดียวกันปริมาณของแบรนด์ท้องถิ่นที่ลงทุนกับการโฆษณาก็เติบโตขึ้นจาก 11,552 ในปี 2010 ไปยัง 17,604 ในปี 2013
· ในระหว่างปี 2001และ2013 อัตราการใช้จ่ายกับการโฆษณานั้นเพิ่มขึ้นถึง 15 เท่า จาก 11.7 ล้านดอลล่าสหรัฐ สู่ 152 ล้านดอลล่าสหรัฐ ทั้งนี้การเติบโตส่วนใหญ่นั้นอยู่ในช่วง 2008 และ 2013
· ห้าอันดับประเภทของสินค้ายอดนิยมสูงสุดในการใช้งบโฆษณาในปี 2013 เมื่อดูจากสื่อทั้งหมดคือ แปรงสีฟันและยาสีฟัน ตามด้วยเครื่องดื่มกาแฟ (coffee mix) ยาสระผมและครีมนวดผม ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า และโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์สำหรับมือถือ ในขณะที่แบรนด์ 5 อันดับแรกที่ใช้งบโฆษณาสูงสุดคือ Colgate, Ovaltine, Signal, HTC และ Sunsilk
เทรนด์ของสินค้าประเภทหลัก:
· สินค้าประเภทเครื่องดื่มกาแฟและน้ำอัดลมคือประเภทสินค้าที่อยู่ในกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดและเติบโตไวที่สุดในพม่า ในปี2013 สินค้าประเภทเครื่องดื่มกาแฟ (coffee mixes) มีอัตราการเติบโตรายปีกว่า 8 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่เครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมมีอัตราการโตมากกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ระหว่างปี
“การปฏิรูปทางการเมืองที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้รวมถึงประชากรจำนวนมากที่มีอายุน้อยและภาพรวมทางเศรษฐกิจที่แข็งแรงทำให้ประเทศพม่าเป็นหนึ่งในตลาดที่น่าดึงดูดเป็นอย่างมาก” Kyaw กล่าว “ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วพร้อมการใช้สื่อที่ขยายเพิ่มมากขึ้นและการพัฒนาของพฤติกรรมการซื้อ ดังนั้นการที่เราสามารถตามกิจวัตรของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงได้นั้นถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้บริษัทท้องถิ่นและบริษัทข้ามชาติ ประสบความสำเร็จในปีต่อๆ ไปข้างหน้า”
การปฏิเสธความรับผิดชอบต่อข้อความที่ใช้ในการคาดการณ์ล่วงหน้า
ข่าวประชาสัมพันธ์ นี้ประกอบด้วยข้อมูลที่อาจเป็นข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าที่ทำขึ้นตามบทบัญญัติการคุ้มครองของ Private Securities Litigation Reform Act ปี 1995 ข้อความเหล่านี้อาจจะ ระบุ คำ เช่น ‘ จะ ‘, ‘ คาดหวัง ‘, ‘ ควร ‘, ‘ อาจ ‘, ‘ ต้อง ‘ และ สำนวนที่คล้ายกัน ข้อความเหล่านี้อยู่ภายใต้ความเสี่ยงและความไม่แน่นอน โดยผลที่เกิดขึ้นจริงและ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจแตกต่างไปจากสิ่งที่คาดหวังไว้ ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดเหตุดังกล่าวอาจรวมถึงภาวะเศรษฐกิจ สภาวะในตลาดที่นีลเส็นมีส่วนร่วมด้วย พฤติกรรมของลูกค้า ซัพพลายเออร์และคู่แข่ง การพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี รวมทั้งกฎหมายและกฎระเบียบที่ มีผลกระทบต่อธุรกิจของนีลเส็น และปัจจัยเสี่ยงในการปล่อยข้อมูลและ public filing ที่ทำโดยบริษัท (รวมถึงการยื่นเอกสารของบริษัท ฯ ต่อคณะกรรมการกำกับ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ) ปัจจัยที่ถูกกล่าวถึงนี้ไม่ได้ตั้งใจจะให้มีรายละเอียดที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าที่ถูกกล่าวถึงได้พูดสำหรับข้อมูล ณ วันที่ ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ได้ถูกปล่อยออกเท่านั้น และเรา ถือว่าเราไม่มีภาระหน้าที่ ในการปรับปรุงการแถลงการณ์หรือการคาดการณ์ล่วงหน้าใดๆ ที่เขียนขึ้นโดยเราหรือในนามของเราและเป็นผลของข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ในอนาคต หรือ ปัจจัยอื่นๆ
