“เฟซบุ๊ก” ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทางการตลาดยอดนิยมที่นักการตลาดเลือกใช้สำหรับพูดคุยกับผู้บริโภคทางช่องทางออนไลน์ โดยแรกเริ่มนั้นเฟซบุ๊กขึ้นชื่อว่าเป็นสื่อใหม่สำหรับคนรุ่นใหม่ที่เล่นเพื่อพบปะพูดคุยกับเพื่อนฝูง ทำให้กลุ่มผู้ใช้ส่วนใหญ่จึงเป็นกลุ่มวัยรุ่น
หลังจากเมื่อต้นปี 2014 ได้มีการรายงานจากแหล่งข่าวต่างประเทศหลายสำนักว่าโซเชียลมีเดียยอดนิยมอย่าง “เฟซบุ๊ก” ที่หลายคนมองว่ามีแต่กลุ่มวัยรุ่นที่นิยมเล่น แต่ในความเป็นจริงนั้นมีผู้ใช้ในกลุ่มวัยรุ่นลดน้อยลงเรื่อยๆ เพราะมีสื่อใหม่ๆ ที่หอมหวานเย้ายวนน่าตื่นเต้นกว่าเฟซบุ๊กเข้ามา อีกทั้งเหล่าวัยรุ่นหลีกหนีมากขึ้นเพราะบรรดาผู้ใหญ่ ผู้ปกครองของพวกเขาเล่นมากขึ้นด้วยนั่นเอง จนเมื่อปลายปี 2014 มีการรายงานถึงจำนวนผู้ใช้ของกลุ่มวัยรุ่นถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤต!
จากผลการสำรวจในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า กลุ่มวัยรุ่นที่อายุระหว่าง 13-17 ปี มีการใช้เฟซบุ๊ก 88% ซึ่งลดลงจาก 94% ในปี 2014 และ 95% ในปี 2012
แต่ก็ยังถือว่ากลุ่มวัยรุ่นยังเป็นกลุ่มผู้ใช้กลุ่มใหญ่อยู่ แม้จะมีสัดส่วนผู้ใช้ลดลงถึง 6% ก็ตาม ซึ่งเฟซบุ๊กเองก็กำลังประสบปัญหาคู่แข่งจากโซเชียลมีเดียเจ้าอื่นเช่นกัน อย่างเช่น “ทวิตเตอร์” ที่มีผู้ใช้ในกลุ่มวัยรุ่นอายุ 13-17 ปี เช่นเดียวกัน แต่มีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจาก 46% ในปี 2013 เป็น 48% ในปี 2014
เหตุผลหลักๆ ของผู้ใช้ในการมาสนับสนุนตัวเลขที่ลดลงนั้น โดยที่มีเพียง 9% เท่านั้นมีบอกว่าเฟซบุ๊กปลอดภัย และน่าเชื่อถือได้ ส่วน 18% บอกว่า เฟซบุ๊กไม่ค่อยสนุกอีกต่อไปแล้ว ในขณะที่ 40% บอกว่าเฟซบุ๊กมีลักษณะเหมือน Pinterest
อย่างไรก็ตาม เฟซบุ๊กยังคงมี “Instagram (อินสตาแกรม)” ที่เคยซื้อไว้ด้วยมูลค่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2012 และ “WhatsApp (วอทแอป)” ด้วยมูลค่า 19,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งอินสตาแกรมก็สามารถมีผู้ใช้ถึง 300 ล้านยูสเซอร์/เดือน ในขณะที่วอทแอปเองก็มีผู้ใช้ 600 ล้านยูสเซอร์/เดือน โดยที่เป็นจำนวน Active User ทั้งสิ้น ยังไงซะกลุ่มวัยรุ่นก็ยังคงวนเวียนอยู่ในอณาจักรของเฟซบุ๊กอยู่ดี
ที่มา : Mashable