บริษัทที่มีทุนจดทะเบียนสูงถึง 1 พันล้านบาทในจังหวัดฉะเชิงเทรา ถูกเข้าตรวจค้นเนื่องจากใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท บริษัทแห่งนี้เป็นโรงงานผลิตที่มีรายได้สูงถึง 924 ล้านบาทต่อปี พบการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิบนเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวน 63 เครื่อง
บริษัทดังกล่าวมีผู้ถือหุ้นเป็นชาวจีนและชาวไต้หวัน ได้ละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์โดยติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิบนเครื่องคอมพิวเตอร์ รวมถึงเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับกระบวนการผลิต จำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่พบสูงสุดนับตั้งแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มดำเนินการบังคับกฎหมายในปีนี้
“จากประสบการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่หรือขนาดเล็กก็สามารถละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์ได้เหมือนกัน หากผู้บริหารไม่มีนโยบายการบริหารจัดการสินทรัพย์ซอฟต์แวร์อย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทนี้ไม่ใช่บริษัทที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมในปีนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีการเข้าตรวจค้นบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีสินทรัพย์มากถึง 2 พันล้านบาท” พ.ต.อ.สรรักษ์ จูสนิท รองผบก.ปอศ. รักษาราชการแทน ผบก.ปอศ. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) กล่าว
อีกหนึ่งบริษัทที่ถูกเข้าตรวจค้นเมื่อไม่นานมานี้ คือโรงงานผลิตอาหารและเครื่องดื่ม ยาและเครื่องสำอางในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งมีสินทรัพย์ประมาณ 313 ล้านบาทและมีรายได้เฉลี่ย 270 ล้านบาทต่อปี พบการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิบนเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวน 6 เครื่อง มีมูลค่าความเสียหายราว 1.47 ล้านบาท
คดีที่สามคือโรงงานผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในจังหวัดฉะเชิงเทรา มีผู้ถือหุ้นเป็นชาวซามัวและชาวไต้หวัน บริษัทดังกล่าวมีสินทรัพยประมาณ 235 ล้านบาทและมีรายได้เฉลี่ย 190 ล้านบาทต่อปี พบติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิบนเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวน 32 เครื่อง มีมูลค่าความเสียหายราว 2 ล้านบาท
คดีที่สี่คือบริษัทร่วมทุนไต้หวันและไทยในจังหวัดฉะเชิงเทรา ผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ พบการใช้ซอฟต์แวร์โดยไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิบนเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวน 19 เครื่อง มีมูลค่าความเสียหายราว 9 ล้านบาท
“ไม่ว่าองค์กรธุรกิจจะมีขนาดใหญ่หรือขนาดเล็ก หากไม่ใช้ซอฟต์แวร์ที่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิอย่างถูกต้อง ถือว่ากำลังทำผิดกฎหมาย องค์กรธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์จะลงทุนในซอฟต์แวร์ที่ถูกกฎหมายเพื่อให้แน่ใจว่าได้ปฏิบัติตามกฎหมาย และเพื่อเพิ่มผลผลิตและรักษาความมั่นคงปลอดภัยของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ถือเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับองค์กรธุรกิจในปัจจุบันที่ต้องดำเนินการอย่างมีจริยธรรมและปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศอย่างเคร่งครัด” พ.ต.อ.สรรักษ์ กล่าว
ตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2558 ตำรวจได้เข้าตรวจค้นองค์กรธุรกิจกว่า 38 แห่ง เนื่องจากใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมาย โดยบริษัทที่ถูกจับกุมดำเนินคดีส่วนใหญ่เป็นบริษัทในภาคอุตสาหกรรมการผลิต และอื่นๆ เช่น บริษัทที่ให้บริการด้านการก่อสร้างและวิศวกรรม การจัดการของเสีย ติดตั้งระบบไฟฟ้า รวมถึงบริษัทรับเหมาก่อสร้างและให้บริการด้านโลจิสติกส์ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา พบเครื่องคอมพิวเตอร์กว่า 424 เครื่อง มูลค่าสูงถึง 80 ล้านบาท ที่ใช้ซอฟต์แวร์โดยไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ
ผู้ที่แจ้งเบาะแสการใช้ซอฟต์แวร์โดยไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ หรือการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ในองค์กรธุรกิจ มีสิทธิ์ได้รับเงินรางวัลสูงสุด 250,000 บาท โดยสามารถแจ้งผ่านสายด่วนที่ 0-2714-1010 หรือรายงานผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งนี้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้แจ้งเบาะแสจะถูกปิดไว้เป็นความลับ ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดตามได้ที่ www.stop.in.th