ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค (Unilever Network) ธุรกิจเครือข่ายที่มีศักยภาพสูงสุด เร่งขยายฐานสมาชิกผู้ร่วมธุรกิจให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ชูแคมเปญ “พาวเวอร์ อัพ (Power Up)” จูงใจเหล่านักธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ด้วยการปรับตำแหน่ง พร้อมเงินอัดฉีดสูงถึง 7 หลัก คาดสิ้นปีจะเพิ่มยอดสมาชิกผู้ร่วมธุรกิจอีก 20%
มนต์ชัย เดโชจรัสศรี กรรมการผู้อำนวยการ ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ประเทศไทย บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เผยถึงแคมเปญ “พาวเวอร์ อัพ (Power Up)” ว่า “ในปี 2015 ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค วางแผนจะขยายฐานสมาชิกผู้ร่วมธุรกิจ และพัฒนาศักยภาพของสมาชิกให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ด้วยแคมเปญ “พาวเวอร์ อัพ (Power Up)” และได้ใช้กลยุทธ์นี้มาตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมให้นักธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ได้ขยายฐานสมาชิก และยังได้พัฒนาศักยภาพให้มีความสามารถในการสร้างทีมงานให้สูงขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ รวมถึงสามารถขยายตลาดไปสู่ต่างประเทศอีกด้วย โดยได้ตั้งเป้าจะมีสมาชิก ผู้ร่วมธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค เพิ่มขึ้นอีก 20% และคาดว่าแคมเปญ “พาวเวอร์ อัพ (Power Up)” นี้ จะทำให้มีผู้ร่วมธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ปรับตำแหน่งเพิ่มขึ้นอีก 15% พร้อมรับเงินอัดฉีดสูงถึง 7 หลัก
โดยในไตรมาสแรก มีสมาชิกผู้ร่วมธุรกิจได้ปรับตำแหน่งตามเป้าที่วางไว้ และคาดว่าปีนี้จะมีผู้ที่ได้รับการปรับตำแหน่งสูงมากขึ้นตลอดทั้งปีอย่างแน่นอน และจากผลตอบรับที่ดีของแคมเปญดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมแคมเปญนี้ทั่วประเทศ ทั้งในด้านการขยายตลาด การพัฒนาทีมงาน และที่มากไปกว่านั้น ยังทำให้เกิดอัตราการซื้อสินค้าซ้ำเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งแคมเปญ “พาวเวอร์ อัพ (Power Up)” นี้ ผู้ร่วมธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค สามารถเข้าร่วมแคมเปญนี้ได้ เพียงมุ่งมั่น และทำคุณสมบัติตามที่ทางบริษัทฯ กำหนด ซึ่งการปรับตำแหน่งจะปรับสูงขึ้นตั้งแต่ตำแหน่งแรก
นอกจากนี้ ทางยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ยังได้เตรียมการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่เด่นด้วยนวัตกรรมด้านความงาม และสุขภาพ โดยในไตรมาสแรก ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเสริมอาหาร “บียอนด์ ไลฟ์ เซนเชียล (Beyonde Life Sential)” ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคเช่นเดียวกัน”
ปัจจุบัน ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อต่างๆ เพื่อความชัดเจนถึง 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์และเพอร์ซันนอลแคร์ โดยจะเป็นสินค้าระดับพรีเมี่ยม ภายใต้ชื่อ “อาวียองซ์” (aviance) โดยมีสัดส่วน 60%, กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ภายใต้ชื่อ “บียอนด์” (Beyonde) โดยมีสัดส่วน 30% โดยสัดส่วนที่เหลือ ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพช่องปาก ภายใต้ชื่อ “ไอ-เฟรช” (i-fresh) และกลุ่มผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน ภายใต้ชื่อ “ลีเวอร์ โฮม” (Lever Home) โดยผลิตภัณฑ์ขายดี 3 อันดับแรกได้แก่ ผลิตภัณฑ์ บียอนด์ มากิ พลัส (Beyonde Maqui Plus+) , อาวียองซ์ คอลลาเจน แมทริกซ์ (aviance Collagen Matrix) และ อาวียองซ์ เพอร์เฟค เรเดียนซ์ (aviance Perfec Radiance) ตามลำดับ