หากกลยุทธ์การตลาดผ่านโซเชียลของคุณยังไม่ปัง ยังไม่เปรี้ยง อย่าเพิ่งท้อ เพราะไม่ใช่ทุกความพยายามที่ลงแรงไปจะเป็นสิ่งที่สูญเปล่า เราอาจต้องปรับกลยุทธ์กันสักหน่อย
ถ้าเดาไม่ผิด ตอนนี้คุณคงพยายามโพสต์ผ่านโซเชียลอยู่อย่างสม่ำเสมอ แชร์คอนเทนต์ที่คิดว่าน่าสนใจสุดๆ และคิดว่าน่าจะทำให้เหล่าผู้ติดตามฮือฮาได้ แต่ตัวเลขเอ็นเกจเมนต์กลับไม่สวยงามอย่างใจหวัง
บางครั้งการทำอะไรตามทฤษฎีมากเกินไปก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จในโลกแห่งโซเชียลมีเดีย เพราะธรรมชาติของลูกค้าในโลกโซเชียลนั้นคาดหวังจะเห็นความเป็นมนุษย์จากแบรนด์มากกว่าในการทำการตลาดผ่านสื่ออื่นๆ ตามปกติ
หากคุณค้นพบแล้วว่าเทคนิคไหนเวิร์คกับแบรนด์ของตัวเอง และลูกเล่นแบบใดกระตุ้นให้เหล่าแฟนๆ ผู้รับสารมีปฏิสัมพันธ์กับเรา เมื่อถึงตอนนั้นการตลาดผ่านโซเชียลจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ สร้างฐานลูกค้าที่จงรักภักดี และช่วยเพิ่มกำไรได้ ดังนั้นเรามาสร้างกลยุทธ์การตลาดโซเชี่ยลที่เวิร์คจริงๆ กันดีกว่า
และนี่คือ 8 กลยุทธ์การตลาดแบบคิดนอกกรอบที่อาจช่วยให้สื่อโซเชียลของคุณมีฟีดแบ็กที่ดีขึ้นได้
1. ขอบคุณผู้ติดตาม
คนทั่วไปชอบคนที่สุภาพและดูเป็นมิตร แล้วทำไมเราไม่ลองนำมันมาใช้กับโซเชียลดูบ้างล่ะ?
ข้อความตอบกลับอัตโนมัติอาจเป็นสิ่งที่ดีในการบอกขอบคุณเมื่อมีผู้มาติดตามคุณ แต่หากมีคนสนใจคอนเทนต์หรือแชร์เนื้อหาจากคุณไป คุณจำเป็นที่จะต้องตอบขอบคุณเขาไปแบบส่วนตัวด้วย อาจจะเข้าไปดูข้อมูลเกี่ยวกับเขาในหน้าโปรไฟล์แล้วพูดชมในเรื่องที่เกี่ยวข้อง หรือลองขอความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องราวที่เขาแชร์ไป ก็จะช่วยสร้างเอ็นเกจเมนต์และความประทับใจ
2. ทำความรู้จักลูกค้า
ลูกค้าคือคนที่ทำให้ธุรกิจของคุณไปต่อได้ เป็นคนที่ซื้อสินค้าของเราและบอกต่อสินค้าของเรากับเพื่อนๆ ดังนั้นการแสดงออกว่าเราให้ความสำคัญกับลูกค้าด้วยการทำความรู้จักลูกค้าให้มากขึ้นจึงเป็นสิ่งที่ดี
พยายามจดจำผู้ติดตามที่มีความผูกพันกับแบรนด์สูงๆ ให้ได้ และพยายามทำความรู้จักพวกเขาให้มากขึ้น ปฏิบัติกับลูกค้าเหมือนเพื่อนด้วยการโต้ตอบโพสต์และสนทนากับพวกเขาอย่างสม่ำเสมอ การสร้างความผูกพันกับลูกค้าในระดับที่ส่วนตัวยิ่งขึ้นนี้จะช่วยสร้างความจงรักภักดีต่อแบรนด์ได้มากขึ้นและลูกค้าอาจกลายเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของคุณในที่สุด
3. ติดแฮชแทคฮิตตามเทรนด์
การใช้แฮชแทคยอดนิยมที่ใครๆ ก็ใช้กันจะช่วยเพิ่มการมองเห็นและสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในกลุ่มลูกค้าที่ยังไม่เคยเห็นแบรนด์ของเรา เมื่อเราแชร์คอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับแฮชแทคที่กำลังได้รับความสนใจ คนที่กำลังค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งนั้นก็จะได้เห็นแบรนด์ของเราด้วย เช่น #อร่อยนะรู้ยัง #HowtoPerfect #กูจะไม่ยอมเห็นรูปนี้คนเดียว
เทคนิคนี้ใช้ได้กับเหตุการณ์ที่กำลังเป็นกระแสในสังคมเช่นกัน แต่การใช้แฮชแทคที่เกี่ยวข้องกับข่าวหรือสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นก็ควรเป็นเนื้อหาหรือคำพูดที่ไม่สร้างความแตกแยก หรือเป็นการให้ร้าย ส่อเสียดผู้อื่น เพราะผู้คนจะชอบอ่านข้อความที่สร้างแรงบันดาลใจและเป็นความคิดในแง่บวกมากกว่า
4. รูปสวยเตะตา
รูปภาพเดียวบอกเล่าเรื่องราวได้เป็นพันคำ และโพสต์ที่มีภาพสวยๆ ประกอบมักจะได้รับความสนใจมากกว่าโพสต์ที่มีแค่ข้อความ ดังนั้นพยายามหารูปประกอบทุกครั้งที่โพสต์อะไรก็ตามลงบนโซเชียล ภาพประกอบที่ใช้อาจเป็นรูปภาพที่ถ่ายเอง ภาพกราฟิก ภาพสินค้า หรือภาพเบื้องหลังการทำงานของคุณ หรืออาจใช้รูปภาพสต็อกก็ได้ แต่ต้องไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ ภาพเคลื่อนไหว ภาพล้อเลียน หรือมีมที่กำลังดัง ก็ช่วยให้เกิดการแชร์มากขึ้น แต่ต้องแน่ใจว่ารูปภาพที่แชร์นั้นคุณภาพสูง ไม่ใช่ภาพแตกๆ เบลอๆ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ให้แบรนด์ดูดี
5. สร้างความโดดเด่น
อย่าปล่อยให้แบรนด์ถูกกลืนหายไปกับแบรนด์อื่นๆ สร้างจุดเด่นให้ทุกคนจดจำด้วยการสร้างคอนเทนต์ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร หากยังไม่หลุดคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ จงอย่ากลัวที่จะทำอะไรตลกๆ เพราะอารมณ์ขันและลักษณะเฉพาะตัวเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญและมองหาจากแบรนด์ต่างๆ เมื่อตัดสินใจที่จะติดตามแบรนด์ในโซเชียลมีเดีย แถมคอนเทนต์ที่ตลกหรือคอนเทนต์แปลกๆ ก็มักจะมีการแชร์มากกว่าปกติด้วย ดังนั้น ทำให้ผู้ติดตามหัวเราะเข้าไว้!
6. กระตุ้นให้ผู้ใช้ร่วมสร้างคอนเทนต์
คอนเทนต์ที่สร้างโดยผู้ใช้หรือ User Generated Content ถือเป็นกลยุทธ์ที่ได้ผลดีในการขยายการรับรู้แบรนด์ เพราะทุกครั้งที่มีคนแชร์เนื้อหาเกี่ยวกับแบรนด์ของเรา ชื่อหรือโลโก้ของแบรนด์เราจะได้เผยแพร่ไปในกลุ่มเพื่อนของผู้ใช้ด้วย การกระตุ้นให้ผู้ติดตามหรือแฟนๆ มีส่วนร่วมกับแบรนด์จะสร้างความรู้สึกของการเป็นคอมมูนิตี้ให้เกิดขึ้นด้วย ราวกับผู้ใช้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับเรา คุณอาจสร้างแฮชแทคเฉพาะของแบรนด์เพื่อให้ผู้ติดตามสามารถแชร์คอนเทนต์ของตัวเองกับแบรนด์ได้ สามารถรวบรวมเนื้อหาต่างๆ ไว้ในที่เดียวกัน ค้นหาง่าย การแชร์โพสต์ที่ดีที่สุดจากผู้ติดตามหรือจัดประกวดระหว่างแฟนๆ ก็ช่วยให้พวกเขารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์และสร้างคุณค่าทางใจได้ด้วย
7. เพิ่มยอดการเข้าถึงใน Facebook ด้วยการระบุกลุ่มเป้าหมายให้แคบลง
จากอัลกอริทึมปัจจุบันของ Facebook แฟนเพจต่างๆ มียอดการเข้าถึงในแต่ละโพสต์ไม่ถึง 10% ของจำนวนแฟนเพจทั้งหมด แต่คุณสามารถเพิ่มการเข้าถึงได้ด้วยการระบุผู้รับสารในแต่ละโพสต์ โดยอาจระบุเพศ อายุ ที่อยู่ และอื่นๆ ซึ่งสามารระบุได้ด้วยการคลิกปุ่มเล็งเป้าซึ่งอยู่ข้างๆ เครื่องหมายปักหมุดระบุสถานที่ด้านล่างของแต่ละโพสต์
8. โพสต์ก่อนหรือหลังเปลี่ยนชั่วโมง
เราสามารถศึกษาพฤติกรรมการเล่นโซเชียลของตัวเองและนำมาปรับใช้ได้ ลองนึกถึงเวลาที่คุณเล่นโซเชียลมากที่สุดสิ ใช่เวลาที่คุณกำลังเดินทางไหม การโพสต์ก่อนหรือหลังเปลี่ยนชั่วโมงสัก 2-3 นาที คือหนทางง่ายๆ ที่เราจะเข้าถึงแฟนๆ ในระหว่างที่พวกเขาเดินทาง เป็นช่วงก่อนไปประชุม หรือหลังจากเลิกประชุม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หลายคนจะเข้ามาเช็คอัพเดตในโลกโซเชียล
การโพสต์ในช่วงมื้อกลางวันหรือช่วงค่ำ ก็ถือเป็นเวลาที่ดีเช่นกันที่จะเข้าถึงผู้ติดตามได้มากขึ้น