การแข่งขันช่วงชิงไม่ได้หยุดอยู่ที่ตลาดเครื่องเล่น MP3 แต่ลามลึกลงถึงตลาดโทรศัพท์มือถือ ที่กำลังมองหามิติแปลกใหม่หลังจากโทรศัพท์ติดกล้อง จอสี หรือเสียงโพลีโฟนิกที่เคยแปลกใหม่เริ่มดูจะเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆ ก็มีกันเกร่อ
เมื่อต้นเดือนมีนาคมนี้เอง ค่ายซัมซุงประกาศจะเปิดตัวโทรศัพท์ฮาร์ดดิสก์รุ่น SGH-I300 ใหม่ ที่มีกล้องดิจิตอลความละเอียด 1.3 เมกะพิกเซล พร้อมด้วยความจุข้อมูลขนาด 3GB ซึ่งมากที่สุดในตลาดมือถือปัจจุบัน หลังจากเมื่อกันยายนปีก่อนเคยเปิดตัวรุ่น SPH-V5400 ที่มีความจุ 1.5GB และเป็นโทรศัพท์มือถือเครื่องแรกของโลกที่ใช้ฮาร์ดดิสก์ติดตั้งในตัว
ฮาร์ดดิสก์ที่ว่านี้ นอกจากจะเก็บข้อมูลและสื่อมัลติมีเดียที่ใช้กับโทรศัพท์แล้ว ยังสามารถเก็บไฟล์ประเภทใกก็ได้ในลักษณะเดียวกับไดร์ฟแบบพกพา หรือเครื่องเล่น MP3 โดยเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ด้วยบลูธูท อินฟาเรด หรือพอร์ต USB แต่ยังไม่มีกำหนดวางจำหน่ายจริง
ก่อนหน้านี้ ไอเดียฮาร์ดดิสก์กับมือถือไม่เคยเป็นไปได้ จนกระทั่งมีฮาร์ดดิสก์รุ่นใหม่ขนาด 1 นิ้วแบบกินไฟต่ำ และไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ผู้บุกเบิกการใช้งานตรงนี้ไม่ใช่ใครอื่นไกลนอกจากแอบเปิ้ล ที่ใช้อย่างเป็นล่ำเป็นสันในเครื่อง iPod Mini จนประสบความสำเร็จมาแล้ว
นี่คือสัญญานแห่งสงครามที่ค่ายมือถือหลักเริ่มปรับตัว มาล้ำเส้นตลาดเครื่องเล่นเอ็มพี 3 และถ้าไม่มีฮาร์ดดิสก์ความจุสูง กินไฟต่ำ ยุทธศาสตร์นี้ก็เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ
อานิสงส์ของการบูมของ iPod และเครื่องเล่น MP3 ที่ใช้ฮาร์ดดิสก์ ได้สร้างดีมานด์ฮาร์ดดิสก์ขนาดเล็กขึ้นมหาศาลในตลาดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา Seagate ผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์รายใหญ่ได้แถลงว่า ปี 2005 ที่ผ่านมาได้ขายฮาร์ดดิสก์ขนาดเล็กแบบ 1 นิ้ว ให้กับเครื่องรุ่น iPod Mini ของค่ายแอบเปิ้ล และผู้ผลิตรายอื่นมากถึง 1.5 ล้านตัว หลังจากบุกตลาดด้านนี้เมื่อกลางปีที่ผ่านมา และเป็นโปรดักต์ฮาร์ดดิสก์ที่ขายได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท
วิลเลียม วอลต์กินส์ CEO ของ Seagate เผยว่า ถึงแม้จะคาดหวังสูงสำหรับโปรดักต์ฮาร์ดดิสก์ตัวนี้ แต่ความสำเร็จก็เกินคาด “เห็นได้ชัดว่าเวลาที่คนเราต้องการฟังเพลง จะต้องการฟังในแบบโมไบล์”
พร้อมกันนี้ได้เปิดตัวฮาร์ดดิสก์จิ๋วที่จุได้มากถึง 6 GB ในเดืนกุมภาฯ ไล่เรี่ยกับคู่แข่งอย่างฮิตาชิจากญี่ปุ่น
ในช่วงเวลาเดียวกัน Sony Ericsson ผู้ผลิตมือถือในเครือโซนี่ ก็ได้ประกาศตัวมือถือสองรุ่นใหม่ แบบแรกมีกล้องดิจิตอลแบบโฟกัสเองอัตโนมัติ 2 เมกะพิกเซล ซึ่งดูดีไม่น้อย แต่แบบที่สองดูน่าสนใจกว่า เพราะนอกจากจะมีกล้องดิจิตอลที่ว่าแล้ว ยังมีฟังก์ชันเครื่องเล่น MP3 ผสมลงมาด้วย โดยเรียกว่า “Walkman phone” ตามชื่อโปรดักต์และแบรนด์ดังของค่ายนี้ในอดีต
วอล์กแมนโฟน ในคอนเซ็ปต์ใหม่นี้ จะเป็นโทรศัพท์มือถือที่มีความจุข้อมูลราว 512 เมกะไบต์ มาพร้อมกับหูฟังคุณภาพดี เล่นไฟล์มาตรฐาน MP3 และมีพอร์ตเชื่อมต่อสำหรับดาวน์โหลดไฟล์เพลงมาจากเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไป และถ้าปิดโทรศัพท์ (เพื่อประหยัดแบตเตอรี่) ก็จะเล่นเพลงได้เช่นกัน ไม่ผิดอะไรกับเครื่องเล่นเอ็มพี 3 ทั่วไป โดยจะวางตลาดจริงในช่วงปลายปี 2005 นี้
ค่าย Nokia ก็เริ่มขยับตัวตามตลาดด้วยแผนการที่จะออกตัวโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่ใช้ไฟล์เสียงฟอร์แมตของไมโครซอฟท์ และเล่นกับซอฟต์แวร์ Windows Audio Player ของยักษ์ใหญ่ไมโครซอฟท์เช่นกัน
ส่วนเจ้าของตลาดเครื่องเล่น MP3 อย่าง Apple Computer ก็กำลังร่วมมือกับค่ายมือถือใหญ่ของอเมริกาอย่าง Motorola ที่วางแผนจะออกเครื่องโทรศัพท์มือถือแบบฟังเพลงได้โดยใช้มาตรฐานไฟล์เพลงระบบเปิดและฟอร์แมต iTunes ของแอบเปิ้ลเอง โค้ดเนมล่าสุดของผลิตภัณฑ์ตัวนี้คือ iTunes Phone
กระแสมือถือฮาร์ดิสก์ หรือใช้เมมโมรีแบบแฟลชที่จุสื่อมัลติมีเดียจำนวนมากเริ่มมาอย่างชัดเจน เหตุเพราะความนิยมของเครื่องเล่นเอ็มพี 3
“มีเหตุผลที่ดีที่จะเพิ่มฟังก์ชัน MP3 ให้กับโทรศัพท์มือถือ” คริสเตียน คอลลินส์ ผู้จัดการอาวุโสด้านการตลาดของซัมซุงโฟนเผย “ยิ่งมีหน่วยความจำมากขึ้นกับฮาร์ดดิสก์ที่มี ก็จะเล่นเพลงได้ง่ายขึ้นมาก”
ปัญหาที่เหลือมีอยู่เพียงสองเรื่องคือ แบตเตอรี่จะมีแรงไฟรองรับพอหรือไม่ ใช้งานได้นานพอหรือไม่ อย่างไร เพราะโดยทั่วไปมือถือที่เปิดเพลงฟัง พร้อมกับใช้งานโทรศัพท์จะมีอายุแบตเตอรี่ใช้งานแค่ราว 3 ชั่วโมงไม่มากไม่น้อยกว่านั้น
และปัญหาของมาตรฐานไฟล์เพลงมัลติมีเดียที่แตกต่างกันจะทำอย่างไร เพราะทุกวันนี้แต่ละค่ายมือถือยังมีมาตรฐานป้องกันการก๊อบปี้ไฟล์เพลงที่แตกต่างกัน หากผู้ใช้เปลี่ยนเครื่อง หรือพฤติกรรมปัจจุบันที่ใช้หลายเครื่องหลายยี่ห้อในเวลาเดียวกันจะทำอย่างไร
ไม่นับรวมเรื่องไวรัสมือถือที่กำลังเริ่มจะเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นทุกที!
