คนรวยที่ปรารถนาจะเที่ยวแบบใกล้ชิดธรรมชาติ แต่รังเกียจความลำบากสมบุกสมบัน กำลังกลายเป็นตลาดนักท่องเที่ยวเนื้อหอมกลุ่มใหม่
การเดินทางท่องเที่ยวในโลกนี้ดูเหมือนจะแยกได้เป็น 2 รูปแบบใหญ่ๆ คือแบบหรูเริ่ดหรือไม่ก็ติดดิน
แบบแรกคือการบินชั้นเฟิร์สต์คลาส ทานอาหารในภัตตาคารหรูๆ และแวดล้อมไปด้วยความสะดวกสบายแทบทุกย่างก้าว ในขณะที่แบบหลังคือการแบกเป้ไปตั้งแคมป์อยู่กลางธรรมชาติอันสวยงาม ในท้องถิ่นชนบทอันห่างไกลหรือกลางป่าเขาลำเนาไพร
แม้การเดินทางท่องเที่ยวแบบแรกจะสะดวกสบายและหรูหรา แต่ก็ขาดความน่าตื่นเต้น และต้องถูกจำกัดอยู่แต่ภายในที่พักสุดหรูเท่านั้น ในขณะที่นักท่องเที่ยวแบบติดดินแม้จะได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติที่อาจสวยงามที่สุดในโลกและน่าตื่นเต้น แต่ก็ต้องทนกินอาหารแบบง่ายๆ ที่ไร้รสชาติ
แต่ทุกอย่างกำลังเปลี่ยนไป นักท่องเที่ยวที่นิยมความหรูหราสะดวกสบาย สามารถจะจิบไวน์พร้อมกับท่องป่า และพูดคุยกับธรรมชาติ รวมทั้งใช้ชีวิตอย่างหรูหราได้เหมือนปกติ บนเกาะส่วนตัวสักแห่งในหมู่เกาะ Maldives หรือในเต็นท์ที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษสุดหรูที่ติดแอร์เย็นฉ่ำใน Serengeti
เครือโรงแรมหรูหลายแห่งต่างกำลังเริ่มหาทางสนองความต้องการของตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ ที่ต้องการใกล้ชิดธรรมชาติและต้องการความตื่นเต้นมากขึ้น ทว่าไม่ต้องการพรากจากการใช้ชีวิตที่หรูหราแม้เพียงเสี้ยวนาทีหนึ่ง
Oberoi Group เครือโรงแรมจากอินเดีย ได้สร้างเต็นท์มหัศจรรย์ซึ่งมีทั้งแอร์และห้องน้ำหินอ่อนขึ้นกลางป่า ซึ่งเป็นเขตสงวนพันธุ์เสือ Ranthambhore Tiger Reserve ในอินเดีย ขณะที่ Jumeirah กลุ่มโรงแรมในแถบอ่าวเปอร์เซีย สนองความต้องการของเศรษฐีอาหรับด้วย Bab Al Shams Desert Resort สถานตากอากาศกลางทะเลทรายในดูไบ แม้แต่สินค้าแบรนด์เนมอย่าง Tumi ผู้ผลิตกระเป๋าสุดหรู ก็ขอเอาใจนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักที่อยากใกล้ชิดธรรมชาติ ด้วยการผลิตกระเป๋าเป้หรูเริ่ดที่พร้อมสำหรับการแบกไปปีนเขา Everest แบบหรูๆ
ความกระหายที่จะหลีกหนีจากการจราจร เครื่องแฟกซ์ และเสื้อสูท เพื่อแสวงหาความเป็นส่วนตัวและความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร ก่อให้เกิดตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ ที่ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวและพักผ่อนยังสถานที่ที่ห่างไกลมากขึ้นไปอีก แต่ทว่าจะต้องไม่ขาดความหรูหราสะดวกสบาย
นักท่องเที่ยวจำนวนมากในกลุ่มนี้เป็นชาวอเมริกันยุคเบบี้บูม ซึ่งเกิดหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ลูกๆของพวกเขาล้วนโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ในขณะที่ตัวพวกเขาเองมีอาชีพที่มั่นคง และอยู่ในวัย 40-50 ปี พวกเขาไม่กลัวที่จะเดินทางไปยังสถานที่แปลกๆ ที่ไม่ได้ไปถึงกันได้ง่ายๆ ในขณะที่ลูกๆของพวกเขายังชอบกิจกรรมสังคม แต่พวกเขากลับต้องการอิสระที่จะหาความสนุกที่เป็นส่วนตัว และยังคงกระหายการผจญภัย พวกเขาจึงเลือกที่จะไปปีนเขา ดำน้ำแทนที่จะนั่งดูกีฬา และที่สำคัญพวกเขามีเงิน และเต็มใจที่จะใช้เงินนั้นตามหาวัยเยาว์ที่ผ่านเลยไป แต่จะต้องไม่ขาดความหรูหรา
เมื่อโลกาภิวัตน์และการขยายตัวไปทั่วโลกของเครือโรงแรมขนาดใหญ่ ยิ่งนับวันจะทำให้การท่องเที่ยวแบบหรูหราจืดชืดไร้รสชาติ จึงเกิดโปรแกรมท่องเที่ยวใหม่ๆ มากมายเพื่อสนองความต้องการข้างต้น การท่องป่าใน Botswana ซึ่งมีนักสัตววิทยาและนักวิชาการเป็นไกด์ มีการตั้งแคมป์ซึ่งมีเตียงที่เป็นเตียงจริงๆ ให้นักท่องเที่ยวไฮโซได้นอนฟังเสียงย่ำเท้ารอบๆ แคมป์ของโขลงช้างในตอนกลางคืน ทั้งยังมีอาหารเลิศรสให้นักท่องเที่ยวได้เอร็ดอร่อยกันแม้จะอยู่กลางป่ากลางเขาที่ทุรกันดาร
หรือจะไปฟังเสียงคลื่นในมหาสมุทรอินเดียกระทบฝั่งที่ Mnemba Island Lodge บนเกาะแห่งหนึ่งนอกชายฝั่ง Zanzibar ใน “กระท่อม” สุดหรูที่สร้างจากไม้และปาล์ม ส่วนนักท่องเที่ยวที่ไปเยือน Bullo River Station โรงแรมสุดหรูที่สร้างขึ้นกลางทุ่งเลี้ยงสัตว์จริงๆ ในออสเตรเลีย สามารถจะต้อนสัตว์ จับวัวกระทิงหรือล่าจระเข้เพื่อความตื่นเต้นก็ได้
และถ้าไปที่ Camp Kerala Village คุณจะได้พักในเต็นต์สุดหรูค่าเช่า 6,000 ปอนด์พร้อมตั๋ว VIP และบริการ room service 24 ชั่วโมง แต่ถ้าเป็นที่ Alladale Wilderness Lodge โรงแรมสุดหรูใน Highlands of Scotland นักท่องเที่ยวจะได้สนุกกับกีฬาพื้นบ้านของชาวที่ราบสูงอย่าง การแกะรอยล่าสัตว์ การล่าสัตว์โดยใช้เหยี่ยว และการยิงเป้าบิน
นักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่นี้ทำให้ตลาดโรงแรมหรือรีสอร์ตที่ขายความเป็นส่วนตัว พลอยคึกคักไปด้วย เกิดโรงแรมหรูหลายแห่งผุดขึ้นกลางทะเลทราย ป่าเขา หรือแม้กระทั่งใต้น้ำอย่างน่าตื่นเต้น ซึ่งพร้อมที่จะเสาะแสวงหาสิ่งต่างๆ มาปรนนิบัติแขกที่มาพักอย่างเต็มที่
แม้ว่าราคาที่จะต้องจ่ายจะสูงลิบลิ่ว แต่นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ก็เต็มใจที่จะจ่าย เพื่อซื้อการพักผ่อนที่เป็นส่วนตัว ท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม น่าตื่นเต้น พิเศษเฉพาะ และเต็มเปี่ยมไปด้วยความหรูหราสะดวกสบาย
อย่างเช่นบนเกาะ Khoni Mighili ในหมู่เกาะ Maldives แขกจะได้พักในบังกะโลสุดหรูบนชายหาด ซึ่งมีทั้งเครื่องเสียงชั้นเยี่ยมและผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนตัวระดับแบรนด์เนม สามารถจะล่องทะเลไปบนเรือหาปลาของชาวประมง Maldives โดยไม่ขาดห้องน้ำสุดหรูและคนรับใช้ส่วนตัว และยังสามารถสั่งให้เชฟปรุงอาหารฝรั่งเศสรสเลิศได้ในทันที หรือจะเลือกลิ้มลองเห็ดรสโอชาที่นำเข้ามาจากดูไบ
ที่พักที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับโรงแรมหรู และความหรูหราสะดวกสบายที่สั่งได้แม้กระทั่งใน India หรือ Africa นี้เอง ทำให้บริษัทท่องเที่ยวชั้นสูงอย่าง Betty Jo Currie สามารถมอบข้อเสนอใหม่ที่ล้ำเลิศให้แก่ลูกค้าผู้ร่ำรวย ซึ่งไม่เคยกล้าที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวในสถานที่แปลกๆ ที่ห่างไกล เพราะกลัวความลำบากลำบน
นอกจากจะให้ความสำคัญกับการมีเต็นท์ที่พักแรมระดับห้องสวีตเพนต์เฮาส์กลางป่าใน British Columbia การมีห้องน้ำสุดหรูแบบญี่ปุ่นกลางป่าฝน Belize และการได้รับประทานอาหารค่ำอย่างหรูหราในชุดราตรีใน Adirondacks แล้ว นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ยังหลงใหลคลั่งไคล้ในงานฝีมือของท้องถิ่นด้วย
ด้วยเหตุนี้ Francis Ford Coppola ผู้กำกับฮอลลีวู้ดชื่อดัง จึงสร้างรีสอร์ต Turtle Inn ของเขาที่ Placencia Peninsula ใน Belize โดยใช้ช่างฝีมือจากอินโดนีเซียและศิลปะแบบบาหลี
แม้แต่รีสอร์ทที่เน้นการเป็นมิตรกับธรรมชาติอย่าง Green Magic Nature Resort ใน Kerala ก็ยังอดที่จะเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่แขกที่มาพักไม่ได้ บ้านบนต้นไม้ของที่นี่มีทั้งลิฟต์ น้ำประปา และเฉลียงที่ปูพรม ส่วนที่รีสอร์ตงามใน Seychelles บนเกาะ North Island นักท่องเที่ยวสามารถอาบน้ำฝักบัวและได้รับการนวดใต้แสงเดือนดาว
ที่โรงแรม Tsala Treetop Lodge ในแอฟริกาใต้ มีการจำลองอารยธรรมโบราณ Tsala มาไว้ในโรงแรม ขณะที่ Zeavola เพิ่งเปิดตัวที่พักสุดหรูที่สร้างจากไม้ไผ่และหวายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งบนเกาะพีพีของไทย ซึ่งมีทั้งสระว่ายน้ำ ภัตตาคารอาหารอิตาเลียนหรูหรา และเครื่องเล่น CD/VCD/DVD
อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวชนบทที่นิยมความหรูหราบางคนอาจรู้สึกตะขิดตะขวงใจ ที่ได้เห็นภาพความยากจนข้นแค้นของชาวบ้านในท้องถิ่น ในขณะที่ตนได้พักในที่พักอันแสนหรูหรา ติดแอร์เย็นฉ่ำ และจิบไวน์แพงๆ แต่ Currie ตัวแทนท่องเที่ยวระดับไฮโซชี้ว่า การท่องเที่ยวแบบหรูหราในท้องถิ่นชนบทอาจสามารถสร้างประโยชน์ให้แก่ชาวบ้านในท้องถิ่นได้ และการที่นักท่องเที่ยวต้องการความหรูหราสะดวกสบายก็น่าจะถือได้ว่าเป็นการกระจายรายได้และแบ่งปันความร่ำรวยให้แก่คนในท้องถิ่นเช่นกัน***
หลุดพ้น
บนเกาะ Huvafen Fushi ในหมู่เกาะ Maldives เป็นทั้งเกาะสวรรค์แห่งความหรูหรา และแหล่งธรรมชาติอันงดงามซึ่งยังไม่มีใครได้แตะต้องสัมผัส
-นอนรับการนวดพร้อมชมวิวปะการัง “ของแท้” ในห้องพัก “ใต้น้ำ” แห่งแรกของโลก
-รองเท้าเป็นของต้องห้ามของที่นี่ เพราะแม้แต่ในภัตตาคารพื้นก็ยังเป็นทรายนุ่ม***
มื้อหรูกลางสวนงาม
-ร้าน Petersham Cafe ชานกรุงลอนดอน เสิร์ฟสลัดสมุนไพรจากสวนสมุนไพรที่ปลูกเอง
-ร้าน Domaine de Chasseur ใน Mauritius ซึ่งตั้งอยู่กลางแจ้ง นำมะพร้าวจากต้นมะพร้าวที่ปลูกอยู่ในบริเวณร้าน มาคั้นกะทิและปรุงเป็นอาหาร
-ร้าน Le Jardin du Russie ในกรุงโรม จัดอาหารค่ำกลางแสงเทียนในสวนมะนาวสำหรับ 2 ท่านพร้อมบริกรส่วนตัว