20 ปีกับของ แฟรงค์สจิวเวลรี่ กับการเดินทางครั้งใหม่

Frank’s เฉลิมฉลองวาระครบรอบ 20 ปีไปเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา พร้อมๆ กับการเริ่มต้นงานหรูชิ้นใหม่ กับ Frank’s Boutique Shop ที่สยามพารากอน

เนื้อที่โอ่โถงแบ่งเป็น 2 ชั้น ทำให้มีพื้นที่รวมกัน 400 ตารางเมตร มาร์ค-ธนพ เอี่ยมอมรพันธ์ บอกว่าเขาลงทุนติดตั้ง control center เพื่อการบริหารงานผ่าน webcam ทำให้สามารถเห็นความเคลื่อนไหวของร้านได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ไหน

นอกจากนี้การลงทุนด้านไอทีบริหาร stock keeping unit ใหม่ และเชื่อมระบบ Frank’s Jewelly Creation เพนนินซูล่า, Frank’s Watch Boutique ที่เพนนินซูล่า และ ดิ เอ็มโพเรียม และ Frank Boutique Shop ที่สยามพารากอน รวมถึงจะ link ไปยัง Piaget ที่ฮ่องกงด้วย เพื่อให้ทุกอย่าง just in time รับออเดอร์ลูกค้าได้ตลอดเวลาและของไม่ขาดสต๊อก เพื่อให้การทำงานและบริหารการขายราบรื่น นับเป็นการ update ในรอบ 20 ปี

ความโอ่อ่าเช่นนี้ใช้งบลงทุนรวมค่าเช่าพื้นที่และตกแต่งกว่า 100 ล้านบาท

ธนพบอกว่า ที่สยามพารากอน Frank’s ไม่ได้นำจิวเวลรี่ไปจำหน่าย มีเฉพาะนาฬิกาเท่านั้น ธนพให้เหตุผลว่า ดีไซน์ของร้านไม่เหมาะกับที่จะขายจิวเวลรี่ เขามองว่าดีไซน์ของร้านสะท้อนตัวตนของเขาออกมาอย่างเต็มที่ซึ่งมีความ passion ในนาฬิกาอย่างยิ่ง การตกแต่งร้านเน้นสไตล์ modern แต่แฝงด้วย comtemporary สี earth tone ถูกใช้เพื่อปกคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ เพื่อให้เกิดบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเองแก่ผู้มาเยือน ผลิตภัณฑ์รุ่นล่าสุดถูกจัดโชว์ไว้ส่วนในสุด เพื่อให้เกิดการสื่อสารกับลูกค้า นั่งพูดคุยกัน เพื่อให้เกิดโอกาสทางการขายมากขึ้น โดยเขาจะเป็นคนดูแลส่วนนี้เอง

ธนพบอกว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ของ Frank’s จะเป็นลูกค้าประจำที่ approach เข้ามาเอง เพราะเชื่อมั่นในชื่อเสียงของแบรนด์และเชื่อว่าเราดูแลเขาดี

“ขายของแพงไม่ยาก หากมีโปรดักส์ที่ดีและต้องไม่ลืม service mind และ after sale service ต้องเต็มที่” และนั่นจะทำให้ลูกค้ากลับมาซื้ออีกครั้ง

เขาบินไปเลือกแบบเลือกดีไซน์ทุกปีที่บาเซิลและเจนีวา ซึ่งเป็นแหล่งแสดงงานนาฬิการะดับโลก ปัจจุบัน Frank’s นำเข้านาฬิกาทั้งหมด 13 แบรนด์ ซึ่งเน้น masterpiece และ mechanism เช่น Piaget, Breguet, EBEL, JAQUET DROZ, DELANEAU, HUBLOT, VERSACE, LONGINES, ฺBLANCPAIN, TISSOT, OMEGA และ Harry Winston

สำหรับแบรนด์ Harry Winston เขาทำหน้าที่เป็น Brand Manager เองด้วย โดย Harry Winston เป็นเรือนที่เขาโปรดปราน ด้วยกลไกและจิวเวลรี่ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว และด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 90 ปี ด้วยสนนราคาตั้งแต่ไม่กี่แสน ถึงเรือนละหลายล้านบาท “ทำน้อยเพื่อให้เกิดดีมานด์สูง”

ท่ามกลางการแข่งขันของนาฬิกาหรู ซึ่งเกทับบลั๊ฟแหลกกันด้วยราคาเรือนละหลายสิบล้าน ธนพบอกว่า “ทำนาฬิกาแพงๆ ไม่ยากเลย ก็แค่เอาเพชรมาประโคม โปะเข้าไป ก็ขายเป็นสิบล้านบาทได้ แต่สิ่งที่คนรักนาฬิกาสนใจและยินดีจ่ายคือ กลไกและลูกเล่นของแต่ละแบรนด์ แต่ละรุ่นต่างหาก พร้อมชี้แจงว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเขาคือ กลุ่มนักสะสมนาฬิกาตัวจริง หรือ real collector ซึ่งแบ่งออกเป็นคนที่ชอบนาฬิกากลไก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนเล่นรถ และนายธนาคาร หรือคนที่ชอบรุ่น limited edition และสุดท้ายคนที่ชอบใส่นาฬิกาเป็นเครื่องประดับจะโปรดปราน Piaget

สินค้าที่ถือเป็น Highlight ของ Frank คือ Piaget ซึ่งเป็น jewelry watch เป็น Top Sale ของบริษัท ธนพบอกว่าคนซื้อของหรูซื้อเพราะตำนาน Piaget ก็เช่นกันมีเรื่องราวร้อยเรียงมากว่า 131 ปี ดังนั้นลูกค้าไม่ได้ซื้อเพียงนาฬิกาบอกเวลา แต่เขาซื้อตำนานแห่งความภาคภูมิใจ ขณะที่ Brequet ก็เป็นอีกตำนานเก่าแก่เริ่มอวดสายตาชาวโลกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1775

การเข้าถึงลูกค้าอีกแนวทางหนึ่งของแบรนด์นาฬิกาหรูในเครือ Frank’s คือ house magazine ชื่อ GEMS & TIME ซึ่งเป็นรายไตรมาส ยอดพิมพ์ฉบับละ 2,000 เล่ม และออกงานแฟร์ใหญ่ๆ ในเมืองไทย อย่าง Central International Watch Fair เป็นต้น

Celebrity สะท้อนความหรู

ทั้งนี้ โฆษณาของนาฬิกาหรูจะเน้นลงในนิตยสารบริหารการจัดการ เช่น ผู้จัดการ และนิตยสารนาฬิกาโดยเฉพาะ Celebrity คือพรีเซ็นเตอร์คนสำคัญ ที่ luxury brand แทบทุกเซ็กเมนต์เลือกใช้ สำหรับ luxury watch นาฬิกา OMEGA ถูกพรีเซนต์โดยนิโคล คิดแมน CYMA พรีเซนต์โดยหลิว เต๋อ หัว เป็นต้น

Website

www.brequet.com
www.harry-winston.com