พรมแดงที่จัดวางทอดยาวจากหน้าประตูรั้ว ถึงทางเข้าหน้าประตูบ้าน เพื่อต้อนรับกองทัพสื่อมวลชนเข้าสู่บ้านเดี่ยวราคาร้อยล้าน ที่เป็น “ดาวเด่น” เพียง 4 ยูนิตของโครงการ “พฤกษ์ภิรมย์ รีเจนท์”
“คฤหาสน์ 100 ล้านของ คิว-เฮ้าส์ เป็นสินค้าที่บริษัททำขึ้นมาตามดีมานด์ที่มีอยู่จริง จากผลวิจัยได้รู้ว่าลูกค้าที่ซื้อบ้าน 40 ล้าน 60 ล้านไปก่อนนี้ ทั้งรวยขึ้นและครอบครัวขยายใหญ่ ต้องการบ้านใหม่ที่ใหญ่ขึ้น ต้องการบ้านให้ครอบครัวใหม่ของลูกหลาน” ประวิทย์ โชติวัฒทพันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ. ควอลิตี้เฮ้าส์ อธิบาย
“ราคา” ไม่ใช่อุปสรรคของลูกค้ากลุ่มนี้ ประสบการณ์ของควอลิตี้เฮ้าส์หลายปีชี้ให้เห็นว่า ไม่ว่าเศรษฐกิจไทยจะเป็นอย่างไร จะมีคนกลุ่มหนึ่งที่เป็น “ยอดพีระมิด” ร่ำรวยอยู่เสมอ ทำให้เศรษฐกิจไม่ค่อยมีอิทธิพลต่อกำลังซื้อกับคนกลุ่มนี้
การสำรวจวิจัยผู้บริโภคของควอลิตี้เฮ้าส์นั้น “กลุ่มตัวอย่าง” มาจากลูกค้าเดิม ทั้งจากกลุ่มที่เข้ามาเยี่ยมชม และการที่บริษัทได้ออกสำรวจขอเก็บรายชื่อจากข้อมูลจากผู้ประกอบการธุรกิจขนาดใหญ่ทั้งหลายในย่านฝั่งธนฯ เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการทำตลาด
การโฆษณานอกจากจะทำโดยตรงกับ “กลุ่มตัวอย่าง” นี้ ควอลิตี้เฮ้าส์ยังใช้สื่อระดับ mass อยู่คือป้ายคัตเอาต์ขนาดใหญ่หลายจุด และหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ซึ่งประวิทย์เองเผยว่าจากกลุ่มที่เข้ามาเยี่ยมชมโครงการนั้นส่วนใหญ่รับรู้จากสื่อ mass เหล่านี้ เป็นตัวอย่างว่าสินค้าหรูแพงก็ยังใช้สื่อระดับ mass ได้ผล
จากการสำรวจพฤติกรรมการซื้อบ้านเดิมของกลุ่มเป้าหมายนี้ พบว่า ส่วนใหญ่เป็นการจ้างบริษัทสร้างบ้านหรือผู้รับเหมามาสร้างบ้านขนาดใหญ่ ควอลิตี้เฮ้าส์จึงใช้อาวุธ 3 อย่างในการโฆษณา คือ ความปลอดภัย, สังคม และทิวทัศน์นอกบ้าน
อาวุธ 3 อย่างที่ว่านี้เป็นการสร้าง “ความรู้สึกพิเศษ” ให้กับผู้ซื้อเห็นว่าการปลูกสร้างบ้านในที่ดินตัวเองนั้นจะขาด 3 ข้อนี้ไม่ได้ โดยเฉพาะบ้านระดับหรู ความปลอดภัย สังคมในหมู่บ้าน และบรรยายกาศรอบๆ หมู่บ้านต้องดูดี น่าอยู่
ระบบความปลอดภัยก่อนจะถึงตัวบ้านนั้น การเข้าไปในโครงการต้องพบกับการตรวจตราถึงสองชั้น คือหน้าทางเข้าหมู่บ้าน และชั้นที่สองคือทางเข้า “โซนหรู” อีกชั้นหนึ่ง แต่ละจุดมี รปภ. 2 คน กับกล้องโทรทัศน์บันทึกภาพรถ ป้ายทะเบียน ผู้โดยสาร ไว้ตลอด 24 ชั่วโมง ภายในบ้านเองก็มีระบบสัญญาณกันขโมยภายในบ้านและโทรทัศน์วงจรปิด 3 จุด กับ “control panel” คุมทุกระบบน้ำไฟในบ้าน ณ แผงเดียว
ทิวทัศน์รอบบ้านร้อยล้าน 4 หลังนี้ ควอลิตี้เฮ้าส์จัดให้มองเห็นทะเลสาบใหญ่หน้าโครงการ สวนโดยรอบ และหอนาฬิกาใหญ่ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของทั้งหมู่บ้าน ส่วนสังคมก็มีสโมสรคลับเฮ้าส์ที่ใหญ่โตหรูหราพอที่จะดึงเจ้าของบ้านร้อยล้านให้ออกจากบ้านของตัวเองที่ก็มี “คลับเฮ้าส์ส่วนตัว” อยู่แล้วมาพบปะสังคมเพื่อนบ้าน
นอกจากนั้น ควอลิตี้เฮ้าส์ยังเตรียมจุดแข็งไว้สู้กับคู่แข่งโครงการหมู่บ้านหรูระยับด้วยกัน คือประโยชน์ใช้สอยและการตกแต่ง “พร้อมอยู่” ทันที่ในสไตล์ของแลนด์แอนด์เฮ้าส์บริษัทแม่ เช่นผนังลายไม้แบบเรือนไทยหรู และเฟอร์นิเจอร์หรูทั้งลอยตัวและบิลต์อินครบ และต่างแนวกันไปในห้องนอนเด็ก ห้องนอนวัยรุ่น ห้องนอนผู้สูงอายุ
จุดเด่นที่สุดของบ้านร้อยล้านนี้คือเสมือนมี “คลับเฮ้าส์ส่วนตัว” ในบ้าน ห้องจัดเลี้ยงที่มีโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ ชุดโซฟาหรูรองรับคนได้หลายสิบคน ลานจัดเลี้ยงรอบสระว่ายน้ำส่วนตัว พื้นที่จอดรถได้ 6 – 8 คัน ทำให้บ้านหลังนี้พร้อมสำหรับการปาร์ตี้อยู่เสมอ ซึ่งก็มาจากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคของควอลิตี้เฮ้าส์ว่าลูกค้ากลุ่มนี้มักเปิดบ้านรวมญาติ หรือรับแขกมากๆ อยู่เป็นประจำ พื้นกระจกใสเห็นฝูงปลาว่ายแม้อยู่ในบ้าน ห้องฟิตเนส และซาวน่าในห้องน้ำ ก็ยิ่งทำให้ในบ้านดูเหมือนโรงแรมหรูมากกว่าบ้าน