นาทีนี้ ใครไม่รู้จักพิธีกรหนุ่มใหญ่…หน้าตี๋…สวมแว่น เจ้าของฉายา “เจ้าพ่อรายการวาไรตี้” เมืองไทย คงจะเชยซะไม่มี แน่ละ! คงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก “วิทวัส สุนทรวิเนตร์ ” พิธีกรมือเก๋า อดีตผู้ประกาศข่าวพยากรณ์อากาศทางช่อง 9 ที่ปัจจุบันผันตัวเองมาเป็นเจ้าของรายการ “ทุ่มสแควร์” และรายการ “ตีสิบ” จนดังสนั่นในจอตู้ คนดูติดกันทั่วบ้านเมืองไทย
…อะไรคือเบื้องหลังความสำเร็จรายการ… ประสบการณ์ที่สั่งสมมานานกว่า 18 ปี …เป้าหลอมที่ทำให้เขากลายเป็นผู้จัดรายการที่ “ทรงอิทธิพล” ต่อวงการทีวี… ต่อคนดู อันยากที่จะ “ปฏิเสธ” …รวมถึงความเชื่อที่ว่า“(รายการ) วาไรตี้… ไม่มีวันตาย ”
…คำตอบดังกล่าวอยู่ ใน Exclusive Interview กับทีมงาน POSITIONING อย่างเป็นกันเอง ที่สตูดิโดอัดรายการ “ตีสิบ” เดอะมอลล์ ท่าพระ เมื่อไม่นานนี้
POSITIONING-รายการตีสิบวันนี้ ไปถึงเป้าหมายที่วางไว้หรือยัง
วิทวัส-การทำรายการโทรทัศน์ปัจจุบัน เหมือนการซื้อล็อตเตอรี่ ที่ต้องอาศัยจังหวะ โชค และอีกหลายๆ อย่าง…ยากมาก อีกทั้งคู่แข่งขันมีสูง ไม่เคยวางหรือคาดการณ์ว่ารายการตีสิบจะต้องไปอยู่จุดสูงสุดที่ตรงไหน มันไม่มีครับ
POSITIONING-วาง Positioning รายการตีสิบไว้อย่างไร
วิทวัส-เป็นวาไรตี้ทอล์กโชว์ และมีความเป็นเรียลลิตี้ ซึ่งหมายถึง รายการโทรทัศน์ที่เกิดขึ้นจริงๆ สดๆ ไม่มีการเขียนสคริปต์ มีเพียงแค่บอกคร่าวๆ สั้นว่า จะต้องทำอะไรบ้าง ผสมอยู่ในช่วงสั้นๆ เช่น ช่วงดันดารา ซึ่งเป็นช่วงที่ได้รับความสนใจจากผู้ชมอย่างมาก ถือเป็น Magnet ตัวหนึ่ง สำหรับไข่แดงของเรา คือ รายการสัมภาษณ์ ขณะที่ดันดารา เป็นเหมือนไข่ขาวที่อยู่รอบๆ ซึ่งเหมือนด้านหน้าในช่วงหัวค่ำที่คนดูเปิดโทรทัศน์กันมากและได้ดูก่อน จึงได้สัมผัสตรงนี้ได้มากกว่า พอถูกใจมันเลยกลายเป็นว่าคนดูเลยกรูแห่กันเข้ามาดู
POSITIONING-สินค้าหลายตัวที่ประสบความสำเร็จ มักทำรีเสิร์ชความต้องการผู้ซื้อ รายการ ตีสิบ ทำวิจัยความต้องการผู้ชมก่อนหรือไม่
วิทวัส-ทำไปเลยง่ายกว่า…การไปถามมันก็ไม่ได้ตอบโจทย์คนดูทั้ง 66 ล้านคนหรอก แต่วิธีทำรายการอย่างให้โดนใจผู้ชมของเรา มาจาก “การถาม” กันในห้องประชุมอยากดูมั้ย ? ตอบไม่อยาก…อีกคน ตอบ อยาก …คนหนึ่งคนเปรียบเสมือนความต้องการ 10 ล้านคน อีกคนเปรียบเสมือนตัวแทนคนอีก 20 ล้านคน ก็เปรียบเทียบกันไป
แน่นอน เพราะพวกเราทำงานด้านนี้มานาน เราจึงรู้ว่า คนดูอยากดูอะไร… เราอยากดูอะไร บางครั้งเราอยากดูหลายๆ อย่างที่ไม่มีใครทำได้ แต่เราทำไม่ถึง เช่น เรื่องบุกทะลวง ล้วงความลับดารา แอบดูเมียน้อยคนโน้นคนนี้ แอบดูบ้านเซฟเฮาส์ ถ้าทำเอาออกมาฉายได้ ผมเชื่อว่าคนดูเต็มเลย แต่ทำได้มั้ยล่ะ ( ย้อนถาม )…ไม่ได้ อย่างนี้เป็นต้น เราก็ต้องหาทางอื่นๆ ออกไป …ถ้ามีการบอกทำรายการแบบนี้โน้น แบบนี้ซิ ฉันจะดู แบบนี้ซิ…หมูเลย
บางทีมันเกิดจาก “ปลายเข็ม” แล้วค่อยสปาร์คเป็นไอเดียขึ้นมา ยากครับ…เหมือน “งมเข็มในมหาสมุทร” คำนี้คงใช้ได้ไม่เว่อร์เกินไป ที่จะเปรียบเทียบการทำรายการโทรทัศน์ให้โดนใจผู้ชม
POSITIONING-อะไรคือที่มาของความสำเร็จ
วิทวัส-ความสำเร็จรายการโทรทัศน์ทั่วไปไม่เว้นรายการตีสิบ คือ การอ่านใจผู้ชม และต้องเดาใจผู้ชมว่าต้องการอะไร ตรงไหน มันเหมือนการซื้อล็อตเตอรี่ ที่ต้องลุ้นว่าถูกหรือไม่ แล้วก็โดนใจผู้ชม แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เราหยุดอยู่ตรงนั้น แต่สิ่งที่ถูก คือ เราจะต้องพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ในจุดๆ หนึ่ง เห็นได้ว่าช่วงรายการ ดันราดา มันมีPratern เหมือนกันไม่กี่แบบ แต่ว่าในแต่ในแต่ละอาทิตย์ติดต่อกัน มันจะไม่เหมือนกัน
POSITIONING-ในมุมนักบริหาร มีหลักในการบริหารการผลิตรายการอย่างไร
วิทวัส-ในเชิงบริหาร การทำงานผลิตรายการโทรทัศน์ มันต้องเป็นทีมเวิร์ค ทำงานกันเป็นทีม ไม่ใช่ทำงานคนใดคนหนึ่งไม่สามารถที่จะเป็น One man show ได้ มีการคิดกันเป็นทีมและทำงานให้ประสาน สอดคล้องกัน และสูตรสำเร็จของเรา คือ เราจะคิดสำเร็จออกมาจากห้องประชุมให้หมดทุกอย่าง พอออกจากห้องทำงานทุกอย่างมันก็จะประสาน คล้องจองกันไป
บทบาทผม เป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายในทุกเรื่องของรายการตีสิบ เป็นทั้งฝ่านบริหาร โปรดิวเซอร์ ยังเป็นครีเอทีฟ เป็นฝ่ายฉาก กำกับร้องเพลงด้วย และถ้ามีโอกาสเขียนสคริปต์ก็จะร่วมเขียนด้วยก็ทำทุกอย่าง
POSITIONING-ทำไมต้องลงไปคลุกคลีทุกเนื้องาน
วิทวัส-อาจเป็นเพราะผมร่ำเรียนมาทางด้านผลิตรายการโทรทัศน์โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นงานฉาก งานไลท์ติ้ง ผมเป็นคนที่เข้าไปดูหมด ว่าตรงไหนที่ยังไม่ดี ตรงไหนควรจะแก้ไข ผมจะบอกทีมงาน หลังจากที่ปล่อยให้เข้าทำงานไป ผมเป็นเหมือน “เป็ด”รู้ไปหมด..ชอบรักในการทำงานด้านนี้ …ผมเป็นคนอาร์ต (Art) ศิลปะ เพราะการทำงานโทรทัศน์มัน Pure art 100 เปอร์เซ็นต์
POSITIONING-ฝันทุกวันนี้ถูกเติมเต็มหรือยัง
วิทวัส- เต็มแล้ว…และเต็มนานแล้วด้วย ตั้งแต่สมัยทำรายการ สี่ทุ่มสแควร์ ส่วนตัวผมเป็นคนชอบดูโทรทัศน์ในเชิงวาไรตี้มาตั้งแต่เด็ก สมัยเรียนหนังสือ และตอนไปเรียนต่างประเทศ ทุกๆ วันก็จะดูแต่รายการวาไรตี้ เพราะผมรู้สึกว่าวาไรตี้เป็นรายการสนุกจังเลย มันมีดอกไม้แพรวพราว มันไม่ได้มี Patern ซ้ำกัน แต่มันเป็นอะไรก็ได้ เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นก็ได้
กว่า 18 ปีที่ทำงานมา ถามว่า จุดเปลี่ยนครั้งสำเร็จของผม ช่วงแรก คือ เปลี่ยนจากผู้พยากรณ์อากาศช่อง 9 ตอนนั้นทำงานอยู่กับแปซิฟิค มาเป็นพิธีกร และก่อนหน้านั้นก็มีอีกช่วง คือ การตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทย สมัยนั้นทำงานอยู่ที่ช่อง 9 ที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย ถือเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตการทำงานที่สำคัญ …พอมาทำงานโทรทัศน์เต็มตัว อีกช่วงหนึ่ง คือ การเปลี่ยนจากรายการสี่ทุ่มสแควร์ มาเป็นรายการ ตีสิบ
POSITIONING-ทุกวันนี้ ยังต้องเติมเชื้อไฟอยู่อีกหรือไม่ อย่างไร
วิทวัส-ก็มี…ส่วนใหญ่เป็นรายการวาไรตี้เมืองนอก มีหลายช่อง หลายรายการที่จะดู เยอะแยะ ทั้งสามารถดูยูบีซี เพราะเป็นสื่อขุมไอเดียที่เราสามารถเอามาพัฒนาได้ หนังสือที่อ่านเป็นพิเศษเมื่อก่อนที่รับหนังสือจากต่างประเทศของวงการโทรทัศน์ ซึ่งมีเรื่องราวการทำงานคนทำงานโทรทัศน์
POSITIONING-หากจะตกผลึกประสบการณ์ทำงานกว่า 18 ปี ออกมาเป็นสูตรสำเร็จการทำงาน เป็นประโยคสั้นมีอะไรบ้าง
วิทวัส-การทำรายการโทรทัศน์ให้ประสบความสำเร็จ ประกอบด้วย มุมมอง ความคิด และศิลปศาสตร์ โดย 3-4 อย่างนี้ค่อนข้างสำคัญ แต่ทั้งหมดไปๆ มาๆ นี้ มันมาจากมันสมอง แต่อย่าลืมว่ามันสมองแยกความคิดออกไปได้หลายๆ อย่าง และรวมกันแล้ว สามารถทำรายการโทรทัศน์ได้ โดยเฉพาะ “ศิลปศาสตร์” คือ ความเป็นศิลปะสำคัญมากสำหรับโทรทัศน์ เพราะประกอบด้วยศิลปะ 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งศิลปะในการพูด การแสดง และการร้องเพลง อีกทั้งศิลปะในการจัดฉาก จัดแสง ตัดต่อ และเขียนสคริปต์ รวมถึงความคิดสร้างสรรค์ มุมมองต่อท่านผู้ชมต้องการอะไรที่จะตอบสนองความต้องการคนดูที่มันเป็นทั้งสาระ และบันเทิงได้
POSITIONING-มองรายการวาไรตี้ไทยปัจจุบันเป็นอย่างไร
วิทวัส-ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว สมัยทำรายการโทรทัศน์ครั้งแรกในฐานะลูกจ้างเปรียบเทียบกับปัจจุบัน วงการโทรทัศน์ไทยพัฒนามาไกลม๊าก…มาก (ลากเสียงยาว) ไกลจนกระทั่งหลายครั้งที่เราคาดไม่ถึงว่าคนไทยทำรายการโทรทัศน์ได้มากขนาดนี้แล้วหรือ คนไทยที่มีฝีมือเก่งๆ เยอะมาก นี่คือที่มาทำไมเรามีคู่แข่งเยอะเหลือเกิน เพราะเรามีคนมีฝีมือเยอะ ทั้งพัฒนามันสมอง ความคิดสร้างสรรค์ก้าวหน้าไปมาก
…การแข่งขันรายการโทรทัศน์เองก็มากกว่าในบางประเทศด้วยซ้ำ เพราะในบางประเทศค่อนข้างผูกขาดในเรื่องนี้โดยคนบางกลุ่ม อย่างในอเมริกาการแข่งขันรายการ เชื่อมั้ยว่าน้อยกว่าเมืองไทย มีอยู่ไม่กี่ช่อง ไม่กี่รายการที่สามารถดูได้เป็นเรื่องเป็นราว นอกนั้นเป็นรายการเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ตามเคเบิลทีวี ซึ่งไม่ใช่ตัวแข่งขันกันโดยตรง มีเพียง 2-3 ช่อง และไม่กี่รายการที่แข่งขันกันโดยตรง …แต่เมืองไทยมีรายการมาก และจำนวนช่องมาก 5-6 ช่อง โอ้โฮเต็มไปหมด
POSITIONING-แล้วจะมีวิธีหลีกคู่แข่ง หรือหนีอย่างไร
วิทวัส-คู่แข่งอย่างเดียว คือ การช่วงชิงผู้ชมและวัดกันที่เรตติ้ง โดยการช่วงชิงผู้ชมนั้นจะทำอย่างไรให้โดนใจผู้ชมมากที่สุด ซึ่งไม่มีใครมาบอกได้เป็นสูตรสำเร็จว่า ฉันอยากจะดูอย่างนั้น อย่างนี้นะ แต่เค้าจะบอกว่า เธอทำมาให้ดูซิ…แล้วจะบอกว่าฉันชอบหรือไม่ชอบ ต้องเอารายการทำไปให้ดูมันเหมือนซื้อเสื้อว่า นี่คือเสื้อสำเร็จรูปนะไม่ใช่มาสั่งตัดนะ และการตัดเสื้อนี่มันก็ยากกว่ามาสั่งตามออเดอร์ โดยเสื้อสำเร็จรูปนี่ …ยากที่คนทำ เพราะต้องตัดให้เสร็จแล้ว มาให้คนสั่ง ซึ่งเหมือนคนดูมาบอกว่า ชอบ หรือ ไม่ชอบ ดังนั้นคนตัดเสื้อนี่ยาก
ผู้ชมคนไทยค่อยข้างเอาใจยากด้วย…ไม่มีใครสามารถมาบอกได้ และจริงๆ เค้าก็ไม่บอกเราด้วยว่าชอบแบบไหน เธออย่าทำนะไอ้นี่ ไม่ได้แค่ไม่บอกว่าจะดูอย่างไหน แต่ไม่บอกว่า “อย่าทำแบบไหน” แต่ให้ทำออกมาก่อนแล้ว ถึงมาบอกว่า ฉันไม่ชอบ
POSITIONING-มีใครเป็นบุคคลต้นแบบในการทำงานวงการโทรทัศน์
วิทวัส-มีอยู่คนหนึ่ง เขาชื่อ ดอน เลน ( Don Lane) เป็นเจ้าพ่อวาไรตี้ ในออสเตรเลียในยุคที่ผมไปเรียนหนังสือ เขาเป็นคนอเมริกันที่ไปทำมาหากินอยู่ที่ออสเตรเลีย คนที่แหละ…เป็นที่มา และจุดกำเนิดรายการสี่ทุ่มสแควร์ เขาเป็นคนทำงานสไตล์ซอฟต์ แต่บทที่จะต้อง Aggressive เขาก็สามารถทำได้ เขาเคยไปแขกรับเชิญออกจากรายการสดๆ เขาใช้คำว่า Pitch off ซึ่งเป็นคำที่หยาบมาก สำหรับการออกรายการโทรทัศน์
… แต่วันรุ่งนี้เขาก็ขอโทษ…แต่เป็นการขอโทษผู้ชม เขาไม่ได้ขอโทษ…หมอนั่น ถือว่าเป็นพิธีกรต้นแบบของผมเลยก็ว่าได้ ผมชอบสไตล์การทำงานเขา คือทำแบบสดๆ แบบที่รายการสี่ทุ่มสแควร์และรายการตีสิบได้ทำออกมา ซึ่งก็ได้รับอิทธิพลมาจากรายการของเขานี่แหละ ปัจจุบันรายการนี้ คือ The Don Lane show ไม่มีแล้ว แต่เขายังมีชีวิต
POSITIONING-ทุกวันนี้คุณวิทวัสใช้ชีวิต ทำงาน มีไลฟ์สไตล์พักผ่อน เป็นอย่างไร
วิทวัส-ชีวิตทำงานปัจจุบันทำงานไม่ค่อยหนักนัก… ไลฟ์สไตล์ยามว่าง ชอบดูหนัง ฟังเพลง ไม่เคยเปลี่ยน…ไม่มีอะไรมาก วันจันทร์-ศุกร์ ผมเข้าทำงานออฟฟิศ ค่อนข้างสายประมาณเที่ยง จริงๆ แล้วทำงานไม่กี่ชั่วโมง แล้วก็กลับบ้าน ส่วนมากใช้ชีวิตอยู่กับการดูโทรทัศน์ทุกช่อง ยกเว้นรายการคู่แข่ง …เชื่อมั้ย…ผมไม่ค่อยดู…ที่ไม่ดูเพราะอาจจะกลับได้รับอิทธิพลจากเขามั้ง (ยิ้ม) บางครั้งรายการตัวเองก็ไม่ค่อยได้ดีเท่าไหร่นัก เพราะผมเป็นคนเข้านอนแต่หัวค่ำ แต่ถ้าเป็นรายการทีวีจากต่างประเทศจะดูประจำ รายการที่ชอบดู ได้แก่รายการอเมริกัน The Tonight Show ของ Jay Leno รายการของ Larry King และรายการของ David Letter Man
POSITIONING-รู้สึกอย่างไรที่เป็น “บุคคลทรงอิทธิพล” ในวงการโทรทัศน์
วิทวัส-คิดว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ ของคนที่ทำงานตรงนี้มานาน (เน้นเสียง) และเป็นธรรมชาติของคนที่ออกรายการโทรทัศน์อาทิตย์ละ 1 ครั้งๆ 2 ชั่วโมง และก็มีคนดูเยอะ ย่อมที่จะจดจำเราได้ ย่อมรู้จักเรา ไปไหนก็มีคนทักทาย…รุ่งขึ้นก็ย่อมมีคนพูดถึงเนื้อหาของรายการในคืนนั้น เป็นปกติ …ใครที่อยู่ตรงนี้เหมือนผม ก็ต้องเป็นอย่างนี้ล่ะครับ
POSITIONING-วางแผนอนาคตของคุณวิทวัส กับวงการโทรทัศน์ไว้อย่างไร
วิทวัส-พูดไปมันเหมือนศิลปินนะ… ก็แล้วแต่ท่านผู้ชม ซึ่งมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ และการตอบรับของท่านผู้ชม คิดว่าเรื่องของไอเดียมันสามารถขุดพบกันได้อยู่แล้ว…ไม่กลัวตัน…เพราะวาไรตี้ไม่มีทางตันอยู่แล้ว ผมทำงานวงการนี้มาเป็นปีที่ 18 เพราะฉะนั้นไม่กลัว แต่ไม่เคยคิดว่ามันจะตัน
…ที่จริงผมอยากได้รายการใหม่อีกสักรายการหนึ่ง แต่ตอนนี้ยังหาบิ๊กไอเดียไม่เจอ เพราะไอเดียแต่ละอันที่เราคิดมาได้ ก็โยนใส่ในรายการตีสิบหมดเลย …ที่จริงช่วงดันดารา มีคนพูดเหมือนกันว่า สามารถแยกไปทำเป็นอีกหนึ่งรายการได้เลย …ผมยังคิดว่ารายการตีสิบ มันเป็นรายการแม่ตัวหนึ่งที่ยังต้องประคบประหงมให้มันแข็งแรง …ให้มันอ้วนพีตลอดเวลา ตัวรายการลูกใหม่ ถ้าเกิดมาแล้วอดๆ อยากๆ ก็สู้ทำหมันไปเลยดีกว่า …แต่ถ้าได้ไอเดียเด็ดๆจริง ผมก็จะทำเพิ่มอีกสักหนึ่งรายการเป็นแน่
“…รายการวาไรตี้ไม่มีวันตาย…”
Profile
Name : วิทวัส สุนทรวิเนตร์
Birth Date : 30 เมษายน 2497
Education :
-จบมัธยมปลายที่โรงเรียนพระโขนงพิทยาลัย
-ปริญญาตรี ศิลปศาสตร์ จาก CURTIN UNIVERSITY OF TECHNOLOGY รัฐ WESTERN AUSTRALIA, AUSTRALIA.
Career Higlights :
-ART DIRECTOR รายการ MATCH MATES สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 SYDNEY AUSTRALIA.
-DESIGNER ฝ่ายข่าว สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 SYDNEY AUSTRALIA.
-ผู้รายงานพยากรณ์อากาศ ข่าว ช่อง 9 กรุงเทพฯ
-พิธีกรรายการคืนนี้ที่ช่อง 9 ช่อง 9 กรุงเทพฯ
-พิธีกรรายการที่นี่กรุงเทพฯ ช่อง 7 กรุงเทพฯ
-พิธีกรรายการสี่ทุ่มสแควร์ ช่อง 7 กรุงเทพฯ
-MD บริษัท คอนสแตนท์ แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด
-พิธีกรรายการตีสิบ ช่อง 3 กรุงเทพฯ
-MD บริษัท ทเว็นตี้ ทเว็นตี้ เอ็นเทอร์เทนเมนต์ จำกัด
Status : สมรส มีบุตรสาว 3 คน