อีก 20 ปีข้างหน้าประชากรกลุ่ม 50+ (Fifty plus) หรือผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปนี้ จะเพิ่มสัดส่วนเป็นถึงครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมดของประเทศ จากปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 14 ล้านคน หรือคิดเป็น 20% ของประชากรทั้งประเทศไทย เป็นวัยที่ “Wealth&Wisdom” ควรค่าแก่การจับจองด้วยประการทั้งปวง
พวกเขายังเปี่ยมด้วยความหวัง หาใช่วัยแห่งการสิ้นหวังไม่ ซ้ำยังเป็นความหวังให้นักการตลาดได้อีกต่อหนึ่งอีกด้วย จากบ่อน้ำที่ไม่เคยมีใครสนใจ ได้กลายเป็นมหาสมุทรทองคำผืนกว้างที่ใครหลายคนจะต้องถวิลหา
ผลวิจัยชิ้นนี้ของโอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ ประเทศไทย คงพอจะเป็นกำลังใจให้นักการตลาดได้มีเรี่ยวแรงแสวงหากลุ่มเป้าหมายใหม่ที่ทรงพลังในปี 2550 นี้ได้อย่างไม่ยาก
โอกาสทองธุรกิจเพื่อสุขภาพและความงาม
ตัวอย่างของปทุมวดี เค้ามูลคดี ที่ลุกขึ้นมากระชากวัยด้วยศัลยกรรมแบบหมดจดที่โรงพยาบาลเวชธานี เป็นตัวอย่างหนึ่งของ 50+ ที่มีศักยภาพ ความงามยังคงเป็นปัจจัยที่กระตุ้นเร้าให้คนกลุ่มนี้สรรหาสินค้าและบริการมาบำรุงบำเรอตนเอง แบบไม่ยอมแก่
“โรงพยาบาลควรปรับปรุงภาพลักษณ์ของตัวเอง โดยเริ่มจากการตกแต่งปรับ Postioning เพื่อรองรับความต้องการ Well being ของคนสูงวัย ให้เขาคิดว่าไปโรงพยาบาลเพื่อชีวิตที่ดี ไม่ใช่ไปเฉพาะเพื่อรักษาโรคเท่านั้น” ดร.อัญชลี พิชญางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ ประเทศไทย ให้คำแนะนำ
สื่อสิ่งพิมพ์ยังไปได้สวย
พวกเขาสนใจอ่านหนังสือ 34% ของผู้ชาย และ39% ของผู้หญิงกลุ่มนี้ใช้เวลาว่างกับการอ่านหนังสือ ดังนั้น ดร.อัญชลี วิเคราะห์ว่า สิ่งพิมพ์ทั้งหนังสือพิมพ์และนิตยสารยังมีโอกาสทางการตลาดกับกลุ่มนี้อยู่ เพียงแต่ต้องทำตัวหนังสือให้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าปกติ อีกทั้งยังกล่าวติดตลกว่า หากนิตยสารเล่มใดเจาะกลุ่มเซ็กเมนต์นี้เป็นหลักก็น่าจะแถมแว่นขยายไปด้วยเลย
รุกประชิดตัว ที่วัด โรงพยาบาล
นอกจากนี้ คนกลุ่มนี้ยังใช้ชีวิต มีไลฟ์สไตล์นอกบ้านเยอะ จากก่อนหน้านี้ที่คนส่วนใหญ่มักมองว่าจะเจ็บไข้ได้ป่วย หมดเรี่ยวหมดแรงจะเดินทางไปไหน
“เข้าวัดฟังธรรมก็บ่อย ถ้าอยากไปเจอกลุ่มเป้าหมายก็ต้องไปที่วัด ไปโรงพยาบาล ส่วนธุรกิจที่มีโอกาสโดยตรงคือ ธุรกิจประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ก็ควรพิจารณาเรื่องของกรมธรรม์ที่ส่วนใหญ่จะจบที่อายุ 60 ปี แต่จริงๆ แล้ว อายุขัยเฉลี่ยคนไทยเพิ่มมากขึ้นเป็นถึง 70 ปีแล้ว โดยเฉพาะคนกลุ่มนี้ดูแลตัวเองดี กินอยู่ดี เขาต้องการบริการตรงนี้มาก”
หมู่บ้านมั่งคั่ง (เงินทองและอายุ)
นอกเหนือจากธุรกิจโรงพยาบาล ประกันชีวิต ประกันสุขภาพแล้ว ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ หรือหมู่บ้านสำหรับคนวัยชรา นับเป็นธุรกิจดาวรุ่งที่มาแรง แต่เธอแนะนำว่าต้องเลือก Location ให้ดี และควรอยู่ในเมืองใหญ่ที่ใกล้โรงพยาบาล เพราะหากเกิดปัญหาสุขภาพหรือโรคประจำตัวกำเริบ จะได้ไม่ลำบากในการเคลื่อนย้าย โดยกลุ่ม 50+ มีความต้องการศูนย์ดูแลผู้อายุถึง 24%
สินค้าไอทีต้องใช้งานง่าย
ส่วนใครที่ปรามาสว่าคนอายุมากไม่รู้เรื่องไอที แต่จริงๆ แล้ว 50+ ยังสนใจติดตามเรื่องราวเหล่านี้อยู่ 93% ใช้โทรศัพท์มือถือ 26% ใช้อินเทอร์เน็ต เป็นต้น ดร.อัญชลีให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า “โทรศัพท์มือถือจะเพิ่มโอกาสทางการตลาดได้ต้องใช้ดีไซน์ที่แตกต่างออกไป ฟีเจอร์ต้องไม่เยอะ ปุ่มกด แป้น หน้าจอต้องมีขนาดใหญ่เพื่อรองรับปัญหาสายตายาว เป็นต้น”
เที่ยวจุใจ แบบ Long Stay
ขณะที่การท่องเที่ยวได้รับอานิสงส์จากกลุ่มนี้เช่นกัน เพราะส่วนใหญ่จะหมดภาระจากงานประจำ การท่องเที่ยวจึงเป็นเสมือนรางวัลอันดับต้นๆ ที่มอบให้กับชีวิตหลังเกษียณของพวกเขา
“ธุรกิจท่องเที่ยวจะต้องปรับ Facility ให้รองรับกับคนกลุ่มนี้ Long Stay มีโอกาสสูง รองรับการพักผ่อนที่ยาวนาน”
ขายตรงมาแรง
ในด้านของปัจจัยการเลือกซื้อสินค้า คนพันธุ์ A กลุ่มนี้ ให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้ามากถึง 75% ด้วยความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพดังกล่าว ทำให้เป็นโอกาสของธุรกิจขายตรงมากขึ้น เพราะมีโอกาสในการนำเสนอและสาธิตสินค้า เนื่องจาก อายุ 50 ปีขึ้นไปจะมีเวลาว่างมาก จึงนิยมศึกษาข้อมูลโดยตรงเพื่อประกอบการตัดสินใจ แต่ทั้งนี้ต้องเป็นแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ และใช้งานง่ายด้วย
ชอบลองของใหม่
คิดผิด คิดใหม่ได้เลย ใครว่าคนอายุ 50 ปีขึ้นไป มี Brand Loyalty สูง เพราะกว่า 71% พวกเขาชอบทดลองสินค้าและบริการใหม่ๆ และอีก 53% นิยมซื้อสินค้าแบรนด์ดัง หรือเป็นที่รู้จัก
จะเห็นได้ว่าคนกลุ่มนี้ยังคงแสวงหาความแปลกใหม่ สีสัน เพื่อไม่ให้ชีวิตรู้สึกจำเจหรือน่าเบื่อจนเกินไป
โฆษณาเพ้อฝันหลบไป
สำหรับ 50+ นั้น 74% บอกว่าต้องของจริงเท่านั้นถึงจะปรายตามอง ดังนั้นวิธีการสื่อสารกับกลุ่มนี้ โฆษณาต้องสมจริง ไม่เพ้อฝัน หรือโม้ไปเรื่อยเปื่อย ข้อความสื่อสารต้องชัดเจน แต่ก็มีบ้างที่ชอบโฆษณาแบบตลกขบขัน แต่สิ่งที่ไม่ควรทำเลยก็คือโฆษณาที่ใช้พรีเซ็นเตอร์เป็นคนวัยเดียวกันกับพวกเขา เพราะ 50+ ไม่ปลื้ม ! ที่จะเห็นว่าตัวเองแก่
แม้ทุกวันนี้ตลาด 50+ ในเมืองไทยเพิ่งจะถูกจุดกระแส แต่ดร.อัญชลีเชื่อว่านับจากปีนี้เป็นต้นไป ธุรกิจที่มีโอกาสดังที่กล่าวมาจะต้องทำการตลาดเพื่อให้โดนใจคนกลุ่มนี้มากขึ้น เพราะนี่คือขุมทรัพย์แห่งใหม่ที่มากล้นด้วยเงินทอง
