ขอ Happy ใน YouTube

หนุ่มหน้าตาต่างจาก ”เรน” ศิลปินสุดป๊อปปูลาร์ของเกาหลี แต่มาแต่งตัวคล้ายเรน ทำท่าทางออกลีลา เต้นตามจังหวะเพลงที่ก็เลียนแบบแปลงท่าของเรนอีก เป็นหนังโฆษณาที่เป็นเอ็มวีสั้นๆ ถูกปล่อยใน YouTube และแถมยังมีฟอร์เวิร์ดอีเมลจากคนรู้จักส่งมาให้ลองคลิกเขาไปชมอีก

นี่คือความตั้งใจจากค่ายดีแทคที่ต้องการทดลองวิธีการทำตลาดที่เรียกว่า Viral Marketing โดยมีเป้าหมายสุดท้ายคือ อยากให้ทุกคนบอกต่อ และถามหาว่าโฆษณาเป็นของใคร สินค้าใด แบรนด์ชื่ออะไร

นับเป็นรูปแบบการทำมาร์เก็ตติ้งใหม่ล่าสุดจากค่ายดีแทค สำหรับแบรนด์ “แฮปปี้” ที่ธนา เธียรอัจฉริยะ” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานพาณิชย์ดีแทค บอกว่า จะทดลองดูว่าการใช้ออนไลน์เป็นสื่อ และใช้ Viral Marketing จะได้ผลเพียงใด โดยปักธงในปี 2550 กำหนดให้ Positioning แบรนด์ Happy อยู่ที่ความ “พอดี-ใจดี” จึงลงทุนทำหนังโฆษณาชุดนี้ก่อน

สำหรับViral Marketing ที่ดีแทคเริ่มต้นทำนั้น ในช่วงแรกจะใช้วิธีให้พนักงานฟอร์เวิร์ดอีเมลไปยังคนรู้จัก ให้เข้าลิงค์ในเว็บของ YouTube ก่อน และส่วนหนึ่งจะแจกแผ่นซีดีเอ็มวีชุดนี้ไปยังร้านค้าต่างๆ ประมาณ 2 สัปดาห์ โดยหวังว่าจะให้เกิดกระแสการบอกต่อๆ จากนั้นจึงจะยิงโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ตามปกติ โดยเน้นให้ลูกค้าได้เห็นถึงการใช้โทรศัพท์มือถืออย่างพอดี

การใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อครั้งนี้ผ่าน YouTube ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ดีแทคนำมาใช้สื่อสารกับลูกค้าเพื่อทำตลาด จากก่อนหน้านี้ “ธนา” บอกว่า ตัวเขาและทีมงานได้เข้าไปตอบคำถาม และนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับดีแทคมานานกว่า 7-8 ปีแล้วในห้องสนทนา เว็บบอร์ดของพันทิพ ที่ห้องมาบุญครอง โดยใช้ชื่อเปิดเผยชัดเจนว่าเป็น “ธนา ดีแทค”

นอกจากนี้ในระยะอันใกล้จะมี www.happyvirus.com เป็นเครื่องมือหนึ่งในการทำให้แบรนด์ Happy เข้าใกล้กับกลุ่มวัยรุ่นมากยิ่งขึ้น จากเดิมภาพของแบรนด์ Happy จะออกไปในกลุ่ม Mass มากกว่า ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้น ตามสไตล์แฮปปี้ ที่ขอแถลงเป็นระยะๆ ตอนนี้จึงขออุบไว้ก่อน

Did you know?

Viral Marketing หรือ V-Marketing คำที่เลียนแบบจากอาการไวรัสคอมพิวเตอร์ที่ส่งต่อๆ กัน เหมือนลักษณะการบอกปากต่อปาก Word of Mouth Marketing คำสมัยก่อนที่ใช้ “Pass-it-on Marketing”, “Tell-A-Friend Marketing”, “Pyramid Marketing” หรือพฤติกรรมการส่งฟอร์เวิร์ดอีเมลต่อๆ กัน ก็ถือเป็นกระบวนการหนึ่งของ Viral Marketing

YouTube ตั้งขึ้นเมื่อกุมภาพันธ์ 2005 เป็นเว็บไซต์แลกเปลี่ยนวิดีโอที่มีชื่อเสียงมากที่สุด และโด่งดังที่สุด เพราะคุณสมบัติสำคัญคือทุกอย่างที่นี่ฟรี ทั้งการใส่ข้อมูล และการดาวน์โหลด ไม่ว่าจะเป็นหนัง และเพลง โดยเมื่อปลายปี 2006 กูเกิลซื้อกิจการ YouTube ด้วยมูลค่า 63,000 ล้านบาท

http://www.pantip.com/cafe/mbk/topic/T5162953/T5162953.html