จตุคามรามเทพ…อภินิหารมาร์เก็ตติ้ง

ถ้ามองวัตถุมงคล “จตุคามรามเทพ” เป็นโปรดักส์ทางการตลาด สามารถเรียกว่า นี่คือความมหัศจรรย์ของศรัทธามาร์เก็ตติ้ง ชนิดที่สูตรหรือโมเดลทางการตลาดต้องทึ่ง! ยิ่งวิเคราะห์ยิ่งมองเห็นว่าพลังศรัทธานี้ยิ่งใหญ่ ก่อเกิดมูลค่าทางจิตใจ ผ่านมาสู่มูลค่าของเงินแบบไม่มีที่สิ้นสุด

ใครจะเชื่อว่าวัตถุมงคล “จตุคามรามเทพ” ซึ่งมีอายุเพียงยี่สิบปี จะกลายเป็น “ขุมทรัพย์” และมีมูลค่าธุรกิจทางการตลาดมากมายมหาศาลถึงหมื่นล้านบาทแล้วในปัจจุบัน ทั้งมูลค่าในการผลิตและจัดจำหน่าย รวมทั้งการขยายไปสู่ช่องทางธุรกิจอื่นๆ

ความเชื่อ ความศรัทธา กรณีของวัตถุมงคลที่เรียกกันว่า “จตุคามรามเทพ” ถือเป็นตัวอย่างสำคัญของปรากฏการณ์ “ศรัทธามาร์เก็ตติ้ง” อย่างแท้จริง เป็นพลังศรัทธาที่มีจุดพลิกผันสู่กระแแสความศรัทธาชนิดที่วงการพุทธบูชาพากันตื่นตะลึงถึงกระแสที่เกิดขึ้น

มีนักวิเคราะห์หลายคนต่างมองว่า จตุคามรามเทพฟีเวอร์ เกิดขึ้นจากภาวะของสังคมไทยที่อยู่ในความหมิ่นเหม่ไม่แน่นอนหลายๆ ด้าน ทั้งภาวะทางเศรษฐกิจ การเมือง ความไม่ปลอดภัยในชีวิตจากสถานการณ์ลอบวางระเบิดและเหตุการณ์ความไม่สงบจากภาคใต้ ย่อมเป็นผลให้คนในสังคมต่างมองหาที่พึ่งทางใจ

จตุคามรามเทพ เป็นวัตถุมงคลซึ่งมีความเชื่อสำหรับผู้ศรัทธาว่า จะสามารถขจัดปัดเป่าความทุกข์ คุ้มครองป้องกันอันตราย และบังเกิดโชคชัยสมความปรารถนาได้ หากมีวัตถุมงคลชนิดนี้ติดตัว
ความศรัทธานี้เอง เหมือนจุดกระแสพลังความเชื่อให้เริ่มขึ้น!

P- People จุดกระแส

นอกจากสถานการณ์ความหมิ่นเหม่ของภาวะไม่แน่นอนของสังคมไทย ดูเหมือนว่าการก่อเกิดศรัทธานั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าเริ่มจากตัวบุคคลที่มีชื่อเสียงสำคัญหลายคน ทำให้น้ำหนักความเชื่อนี้มีมากขึ้นตามลำดับ

เริ่มจากตัวขุนพันธรักษ์ราชเดช ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของผู้นำจตุคามรามเทพมาบูชาเป็นคนแรกๆ

ภาพของขุนพันธรักษ์ราชเดช จึงถือเป็นบุคคลต้นน้ำ ผู้สร้างความศรัทธาและกระแสความนิยม ยิ่งช่วงพิธีงานศพของขุนพันธรักษ์ราชเดช ปรากฏภาพดวงวิญญาณในงานพิธีศพลงเป็นข่าวกันอย่างครึกโครม นี่ถือเป็นกระแสสำคัญที่ทำให้วัตถุมงคลนี้ดังเป็นพลุแตก

พลตำรวจโทสรรเพชญ ธรรมาธิกุล เป็นบุคคลสำคัญอีกคนหนึ่งที่เป็นผู้ริเริ่มนำองค์จตุคามรามเทพมาผลิตเป็นวัตถุมงคลรุ่นแรกๆ โดยเฉพาะรุ่นปี 2530 ซึ่งกลายเป็นรุ่นเงินล้านที่หายาก และทำให้วงการพระทั่วภาคใต้เกิดกระแสความนิยมวัตถุมงคลดังกล่าว

ปัจจุบันมีบุคคลสำคัญอื่นๆ ทั้งในระดับสูงของประเทศ นักการเมือง และในแวดวงธุรกิจมากกมาย รวมทั้งดารานักแสดงต่างนำวัตถุมงคลนี้มาบูชา ยิ่งทำให้ความน่าเชื่อถือและศรัทธาของวัตถุมงคลประเภทนี้มีมากขึ้น

อย่างนักสื่อสารมวลชน สนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือผู้จัดการ ถือเป็นหนึ่งผู้ศรัทธาจตุคามรามเทพอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงการขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และสามารถทำได้สำเร็จ กล่าวกันว่าแรงศรัทธาของนักสื่อสารมวลชนคนนี้ทำให้ผู้คนที่รู้ข่าว เกิดพลังศรัทธาไปรอบด้าน แบบปากต่อปาก

นี่เป็นตัวอย่างของแรงศรัทธาที่ก่อเกิดจากบุคคลสำคัญ ก่อผลทำให้จตุคามรามเทพได้รับการยอมรับเป็นแบรนด์ทางวัตถุบูชาที่พุ่งทะยานขึ้นสู่ความนิยม

P- Product พิมพ์สวย พิธีดี

ในกระบวนการผลิตจตุคามรามเทพ ปัจจุบันเกิดขึ้นมากมายหลายกลุ่ม กล่าวกันว่ามีการปลุกเสกต่อเนื่องทุกวัน มีมากกว่า 100 รุ่นแล้ว มีทั้งจริงและปลอมในกระแสความเชื่อ นักการตลาดหลายคนเรียกว่า ปรากฏการณ์จตุคามรามเทพในวันนี้ถึงจุดสูงสุดของความนิยม มีทั้งความเชื่อ ศรัทธา และพัฒนาการกลายเป็นแฟชั่น ทำให้ผู้คนต่างอยากได้เป็นเจ้าของ บางรายไม่สนใจว่าจะเป็นของจริงหรือของปลอม

หากมีผู้ผลิตจตุคามรามเทพอยากทำในช่วงนี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องยากเย็นนัก ขอเพียงรู้ถึงระบบการสร้าง การปั่นราคา และล่วงรู้ถึงระบบการจัดจำหน่าย ย่อมสามารถขายได้แล้ว

พิมพ์สวย พิธีดี แค่นี้ก็ขายได้แล้ว!! คำกล่าวที่นักเล่นพระนิยามถึง

พิมพ์สวยในความหมายนี้ หมายถึง การออกแบบ หรือวงการพระเรียกว่า “พุทธศิลป์” เนื่องจากองค์จตุคามรามเทพถือเป็นเทพที่สามารถออกแบบลวดลายได้อย่างไม่จำกัด จุตคามรามเทพรุ่นใหม่ๆ จึงมีจุดเด่น จุดขายอยู่ที่การออกแบบลวดลายใหม่ๆ ยิ่งสายการผลิตจากวัดใด มีความชำนาญในเรื่องการฝังตะกรุด หรือการผสมผงพิมพ์ชนิดพิเศษ ออกแบบด้วยเทคนิคใหม่ๆ ทำให้มูลค่าการของวัตถุมงคลชิ้นนี้มีมูลค่าและโอกาสทางการตลาดมากขึ้น

พิธีดี หมายถึง การนำองค์จตุคามรามเทพ ผ่านพิธีการปลุกเสกจากแหล่งที่เชื่อถือ ปัจจุบันมี 6 กลุ่มใหญ่ๆ ประกอบด้วย กลุ่มสรรเพชญ กลุ่มโกผ่อง กลุ่มอาจารย์โชติวัดพุทไธศวรรย์ อยุธยา กลุ่มหลวงพ่อหนุ่ย วัดคอหงษ์ หาดใหญ่ และกลุ่มสายวัดเขาค้อ จังหวัดพัทลุง กล่าวกันว่า หากจตุคามรามเทพผ่านการปลุกเสกจากกลุ่มเหล่านี้จะมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

เซียนพระหลายคน เสริมว่า ถ้าจะทำธุรกิจจตุคามรามเทพจริงๆ จุดเริ่มต้นคือ การตั้งชื่อรุ่นให้เกิดความมงคลแบบโดนใจ เช่น รุ่นโคตรเศรษฐี รุ่นชนะมาร รุ่นมั่งมีศรีสุข รุ่นเศรษฐีเงินล้าน คำเหล่านี้มีผลต่อความรู้สึกต่อผู้เช่าซื้ออย่างมาก

Price – ปั่นราคา

ระบบการปั่นราคา มีผลต่อการสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างยิ่ง กลยุทธ์อย่างหนึ่งของผู้ผลิต คือ เทคนิคการตั้งราคา
ยกตัวอย่างว่า หากผู้ผลิตพิมพ์จตุคามรามเทพผลิตจำนวน 10,000 ชิ้น วิธีหนึ่งในการจัดจำหน่าย คือการส่งขายผ่านคนกลาง หรือที่เรียกกันว่า สายเอเย่นต์ เป็นการส่งขายในรูปแบบของใบจอง

เมื่อมองโอกาสแล้ว ผู้ผลิตเห็นว่าขายดี มีใบจองมาก วิธีหนึ่งของผู้ผลิต อาจปล่อยข่าวว่ารุ่นนี้หมดแล้ว (ในความจริงยังไม่หมด) ทำให้เกิดความต้องการสูงขึ้น และอาจจะปรับราคามากขึ้นตามลำดับ

ยิ่งจุตคามรามเทพรุ่นดังๆ ที่ผ่านการปลุกเสกจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ กล่าวกันว่า สามารถปั่นราคากันตั้งแต่ใบจอง จากเอเย่นต์คนกลางคนแรก ไปถึงคนที่สอง คนที่สาม บางแห่งถึงขนาดขอรับซื้อใบจองโดยตรงจากผู้ผลิตเองโดยให้ราคาค่างวดถึงสองเท่า สามเท่า เช่น องค์ละ 500 บาท ขอซื้อ 1,000-1,500 บาท เพราะเชื่อว่าจะสามารถเก็บไว้ปั่นราคาได้อีกทอดหนึ่ง

อีกวิธีหนึ่ง คือ การปั่นราคาขายผ่านเว็บไซต์ โดยผู้ผลิตจำนวนมากในปัจจุบันนิยมเปิดเว็บไซต์จตุคามรามเทพ ลงรูปหรือรุ่นผลิต และสร้างกระแสผ่าน Blog ให้เกิดการโต้ตอบระหว่างผู้ผลิตกับผู้ศรัทธา บางแห่งถึงขนาดเปิดโอกาสให้ผู้ศรัทธามีส่วนในการออกแบบองค์จตุคามที่จะผลิตขึ้น (อ่านเรื่องเว็บไซต์จตุคามรามเทพประกอบ)

ต้นทุนจริงๆ ของการผลิตปั๊มจตุคามรามเทพมีตั้งแต่องค์ละ 10 -50 บาท ตามแต่เนื้อผง แต่ถ้าอยากให้เป็นจตุคามรามเทพยอดนิยมต้องเสียค่าพิธีปลุกเสก ซึ่งมีต้นทุนอยู่ประมาณ 200,000 -500,000 บาท ตามแหล่งปลุกเสกชั้นนำ

อย่างไรก็ดี ผู้ผลิตจำนวนมากสามารถทำกำไรจากจตุคามรามเทพอย่างเป็นกอบเป็นกำ เนื่องจากความศรัทธาไม่มีที่สิ้นสุด สามารถเช่าชื้อได้อย่างเต็มที่หากเขาศรัทธาในรุ่นที่เขาอยากได้ และผู้ผลิตหลายรายหันมาใช้วิธีจำหน่ายแบบยกชุด เช่น ชุดละ 3 เหรียญ ชุดละ 5 เหรียญ ซึ่งเป็นวิธีเพิ่มมูลค่าทางการตลาดอีกวิธีหนึ่ง

Place – ร้านริมทาง ถึงออนไลน์

สถานที่จัดจำหน่ายของจตุคามรามเทพปัจจุบันมีหลากหลาย ตั้งแต่วัดหลายๆ แห่งทั่วประเทศ ร้านจำหน่ายริมทางเท้าไปถึงร้านระดับหรูในโรงแรมดัง ยังมีเว็บไซต์เกือบร้อยเว็บขายผ่านออนไลน์ในรูปแบบของการสั่งผ่านใบจอง

ยิ่งวัดในจังหวัดภาคใต้ ใกล้ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งถือเป็นจุดกำเนิดองค์จตุคาม คึกคักมากเป็นพิเศษ เป็นสถานที่จำหน่ายยอดนิยมของคนไทยทั่วสารทิศในการเดินมาเช่าซื้อบูชา

วัดพุทธไธศวรรย์ อยุธยา ซึ่งถือเป็นวัดปลุกเสกจุดสำคัญ ก็เป็นสถานที่หนึ่งในแหล่งจำหน่ายจตุคามรามเทพ ที่กล่าวกันว่า มีคนหลั่งไหลไปเช่าซื้อมากที่สุดแห่งหนึ่ง

ความนิยมในช่วงนี้ยังแผ่ขยายไปยังตลาดพระทุกหย่อมหญ้า ตั้งแต่ร้านริมถนนถึงร้านใหญ่ในห้าง โรงแรม ล้วนมีผู้ศรัทธาหลั่งไหลไปหาซื้ออย่างไม่ขาดสาย กล่าวกันว่า ร้านเช่าพระใดไม่มีจตุคามรามเทพให้เช่า ถือว่าเชย และถูกเมินเฉยจากผู้เช่าซื้อ

Promotion – สื่อทุกแขนง

ความโด่งดังของจตุคามรามเทพ จุดสำคัญเกิดจากสื่อมวลชนเกือบทุกแขนงที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจนำเสนอเรื่องราวนี้ผ่านสื่อ ทั้งนี้ในวงการข่าวสารถือว่าเป็นประเด็นข่าวสำคัญที่ต้องติดตาม ยิ่งหนังสือพิมพ์รายวันหัวสีหันมาเล่นข่าวอภินิหารของจตุคามรามเทพ ชนิดเกาะติดเกือบทุกวัน

อย่างเช่น กรณีของการเห็นดวงวิญญาณของขุนพันธรักษ์ราชเดช ในพิธีงานศพ กรณีของผู้ใหญ่บ้านคนดัง ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ห้อยจตุคามรามเทพแล้วถูกรัวยิงด้วยปืนเอชเค-อาก้า แต่ยิงไม่เข้า ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 15 ต.ค. 2549 ล้วนเป็นตัวอย่างของอิทธิฤทธิ์ปฏิหาริย์ ทำให้ความศรัทธาเพิ่มมากขึ้น

ทางสื่อทีวี วิทยุ ล้วนมีการทำรายการเจาะลึกถึงกระแสความดังจตุคามรามเทพออกมาเป็นระยะๆ ย่อมทำให้การรับรู้วัตถุมงคลชนิดนี้กว้างขวางขึ้น

ในแผงหนังสือ หรือพ็อกเกตบุ๊ก ในวันนี้ ถือว่าจตุคามรามเทพ เป็นคอนเทนต์ยอดฮิตถูกนำมาจัดพิมพ์และจำหน่ายกันเต็มแผง และบางเล่มกลายติดอันดับหนังสือขายดีในร้านหนังสือชั้นนำหลายแห่ง

…ข้อสรุปของพลังศรัทธาจตุคามรามเทพ เห็นชัดว่ามีปัจจัยการก่อเกิดในหลายๆ ด้าน ทั้งจากภาวะสังคม ตัวบุคคล สื่อ และเซียนพระ ล้วนเป็นจุดกำเนิดของศรัทธา น่าสนใจตรงที่ว่ากระแสจะจบลงเมื่อใด และจะมีวัตถุมงคลใดมาแทนที่ความนิยมอีกในอนาคต

ปัจจัยจุดกระแสความนิยมของจตุคามรามเทพ

ภาวะสังคม
-ความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจ
-ความไม่ปลอดภัยในชีวิต เช่น กรณีเหตุรอบวางระเบิดทั่วกรุงเทพฯ
-ความไม่สงบในภาคใต้

ตัวบุคคล
-ขุนพันธรักษ์ราชเดช
-พลตำรวจโทสรรเพชญ ธรรมาธิกุล
-บุคคลสำคัญอื่นๆ ที่นำมาบูชาและเกิดกระแสปากต่อปาก

สื่อ
-หนังสือพิมพ์ลงข่าวรายวัน เรื่องอภินิหาร
-ทีวี เสนอเรื่องราวความนิยม เช่น รายการเรื่องจริงผ่านจอ
-เว็บไซต์ มีเกือบนับร้อย ทั้งเสนอขายและเรื่องราวของความนิยม
-พ็อกเกตบุ๊ก และนิตยสารจำนวนมากนำเสนอเรื่องราว

เซียนพระ
-นำจตุคามรามเทพมาปั่นราคา ทำให้เกิดกระแสปากต่อปาก
-นำมาผลิตเพิ่มจำนวนรุ่นมากขึ้น เพื่อรองรับกระแส

จุดกำเนิดแห่งจตุคามรามเทพ

จตุคามรามเทพ คือเทพรักษาพระบรมธาตุจังหวัดนครศรีธรรมราช สถิตอยู่ที่บนบานประตูทางขึ้นพระบรมธาตุ โดยในปี พ.ศ. 2530 มีเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดนครศรีธรรมราชมากมาย จึงมีการทำพิธีผูกดวงเมืองนครศรีธรรมราชขึ้นใหม่ จึงมีการอัญเชิญจตุคามรามเทพไปสถิต ณ ที่นั้นเป็นต้นมา และมีการสร้างศาลหลักเมืองขึ้นมาใหม่

โดยในการสร้างศาลหลักเมืองหลังใหม่ ได้มีการจัดทำวัตถุมงคลจตุคามรามเทพขึ้นมาเพื่อหาเงินในการก่อสร้าง โดยบุคคลสำคัญที่ร่วมทำพิธีก่อสร้างและนำจุตคามรามเทพมาจัดทำเป็นวัตถุมงคลมี3 คนด้วยกันคือ 1.พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช 2.พล.ต.ท.สรรเพชญ ธรรมาธิกุล และ 3.โกผ่อง หรือ อะผ่อง สกุลอมร

ตามความเชื่อว่ากันแต่เดิม องค์จตุคามรามเทพเป็นกษัตริย์ในสมัยอาณาจักรนครศรีธรรมราช มีพระนามอย่างเป็นทางการว่า พระเจ้าจันทรภาณุ เป็นกษัตริย์พระองค์ที่ 2 ของราชวงศ์ศรีธรรมาโศกราช เชื่อว่ามีพระวรกายเป็นสีเข้ม เป็นกษัตริย์นักรบที่แกร่งกล้า เมื่อสถาปนาอาณาจักรศรีวิชัยได้อย่างมั่นคงแล้ว จึงได้สมัญญานามว่า “ราชันดำแห่งทะเลใต้” หรือมีอีกราชสมัญญานามหนึ่งว่า “พญาพังพกาฬ” และต่อมาทรงบำเพ็ญบุญเพื่อสร้างบารมีอธิษฐานจิตเป็นพระโพธิสัตว์ เพื่อบรรเทาทุกข์แก่มนุษย์ทั้งปวง

ปัจจุบันจตุคามรามเทพได้รับความนับถืออย่างกว้างขวาง โดยเชื่อว่าทรงฤทธานุภาพในทุกๆ ด้าน ตามจารึกของชาวศรีวิชัยได้บอกว่า “มีอานุภาพดุจดังพระอาทิตย์และพระจันทร์ ที่ขจัดความมืดมัวในโลก” โดยผู้บูชาส่วนใหญ่เชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ สามารถคุ้มครองป้องกันอันตรายจากภัยอันตรายต่างๆ และยังให้โชคลาภ ร่ำรวย หากบูชาได้อย่างถูกวิธี