นักเขียนดับเบิลซีไรต์คนแรกของไทย จากเรื่อง คำพิพากษา และ เวลา ซึ่งวันนี้เขารับบทบาทเป็นคุณครูผู้แนะนำการเขียนอยู่ที่บ้านไร่บนรอยต่อ 3 จังหวัดบ้านเกิด และยังเปิดสำนักพิมพ์ของตัวเองใช้ชื่อว่า “หอน” โดยมีโลโก้สำนักพิมพ์เป็นรูปหมา เรื่องสั้นเรื่องแรกคือ "นักเรียนนักเลง" ตีพิมพ์ในหนังสืออนุสรณ์ ของโรงเรียนวัดปทุมคงคา เมื่อปี 2512 เรื่อง “ผู้แพ้” ได้รับรางวัล “ช่อการะเกด” ปี 2522 ผลงานอื่นๆ เช่น ทางชนะ, มีดประจำตัว, นครไม่เป็นไร เป็นต้น ปัจจุบันพำนักในไร่รอยต่อระหว่างจังหวัดสระบุรี-นครราชสีมา สมรสแล้วแต่ยังไม่มีบุตร
ผู้ประสบการณ์ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการสิ่งพิมพ์ไทยมากว่า 50 ปีของรงค์ วงษ์สวรรค์ เขาถือเป็น 1 ใน 3 นักเขียนที่มีอิทธิพลต่อสังคมไทย อีก 2 คนคือหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช และ ส.ศิวรักษ์ เขาเป็นนักเขียนที่บรรยายบรรยากาศ สถานการณ์ ได้อย่างกินใจ และเห็นภาพ รวมทั้งตัวละครของเขาแต่ละคนล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์ บุคลิกเฉพาะตัวอย่างชัดเจน แม้ทุกวันนี้เขาอายุเลย 70 กว่าปีแล้ว แต่ยังไม่เคยหยุดเรื่องการเขียน จนมีผลงานออกมากว่า 30 เล่ม โดยเขาจะใช้เวลานั่งเขียนงานวันละ 8 ชั่วโมง ผลงานที่โดดเด่น ได้แก่ สนิมสร้อย, บางลำพูสแควร์,...
นามปากกา “กฤษณา อโศกสิน” เริ่มใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2501 จากนวนิยายเรื่อง “วิหคที่หลงทาง” ตีพิมพ์ใน “สตรีสาร” ผลงานชิ้นนี้ได้รับการตอบรับ จนกลายเป็นนามปากกาที่สร้างชื่อให้เธอ และสร้างผลงานออกมาอย่างมากมาย เช่น น้ำผึ้งขม, ระฆังวงเดือน, ชลธีพิศวาส และอีกมากมายกว่าหนึ่งร้อยเรื่อง รวมทั้ง “ปูนปิดทอง” ที่ทำให้เธอกลายเป็นนักเขียนรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมอาเซียน (ซีไรต์) ผลงานของกฤษณา อโศกสิน ได้รับการชื่นชมว่าเป็นงานเขียนกระเทาะเปลือกสังคมได้อย่างสะใจ ไม่ว่าจะเป็น ลานลูกไม้, ไฟทะเล, เสื้อสีฝุ่น, รอบรวงข้าว, เรือมนุษย์, ลมที่เปลี่ยนทาง, ฝันหลงฤดู, บุษบกใบไม้ และผลงานอีกเป็นจำนวนมากได้รับการถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ ที่นับได้ว่าเธอคือราชินีแห่งสวนอักษรเลยทีเดียว
นักเขียนชายวัยย่าง 74 ปี ชื่อ ฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ ที่มีนามปากกา “พนมเทียน” เริ่มต้นงานเขียนด้วยวัยเพียง 17 ปี ขณะเรียนอยู่ในสายอักษรศาสตร์ของสวนกุหลาบวิทยาลัย เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชา ภาษาสันสกฤตและประวัติศาสตร์อินเดียโบราณ จาก มหาวิทยาลัยบอมเบย์ ประเทศอินเดีย เริ่มงานเขียนครั้งแรกเมื่อปี 2484 ด้วยนวนิยายเรื่อง “เห่าดง” ลงในสมุดอ่านเล่นระหว่างเพื่อน ก่อนจะมีผลงานตีพิมพ์ครั้งแรกเรื่อง “จุฬาตรีคูณ”สร้างชื่อให้กับเขา ระหว่างเรียนที่อินเดียได้เขียนนวนิยายรักเรื่อง “มัสยา” เมื่อกลับมานวนิยายเรื่อง “เห่าดง” ได้ลงพิมพ์ในหนังสือ “เพลินจิตต์”รายวัน ในปี 2504 ได้รับรางวัลตุ๊กตาทองในฐานะผู้เขียนบทประพันธ์เรื่อง...
“ทมยันตี” มีชื่อจริงว่า วิมล ศิริไพบูลย์ เจ้าของนวนิยาย "คู่กรรม" ที่โด่งดัง เป็นคนกรุงเทพฯ จบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับการฝึกฝนเรื่องการอ่านเขียนมาตั้งแต่เด็กๆ ได้เริ่มเขียนเรื่องสั้นในวัยเพียง 14 ปี จากการได้ลงพิมพ์ครั้งแรกที่ “ศรีสัปดาห์” หลังจากเขียนเรื่องสั้นอยู่ 11 ปี ก็หันไปเขียนนิยายเรื่องแรกคือ “ในฝัน” ในนามปากกาของ “โรสลาเรน” และเรื่อง “คู่กรรม” ก็เขียนในยุคใกล้เคียงกันที่กลายเป็นนวนิยายขายดีไม่แพ้กัน นอกจากนี้ยังมีหลายนามปากกา “กนกเรขา” กับ “ลักษณาวดี” ที่ใช้ในการเขียนหนังสือเช่นกัน และทุกวันนี้ทมยันตียังครองความเป็นนักเขียนหญิงมือวางอันดับ 1 ที่ได้รับค่าเรื่องสูงสุด
เจ้าของรางวัลวรรณกรรมยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ประเทศไทย ประจำปี 2548 กับผลงานเรื่อง “เจ้าหงิญ” ไม่ใช่เจ้าหญิง เป็นผลงานรวมเรื่องสั้นที่ 3 ของบินหลา ชื่อจริงของเขาก็คือ วุฒิชาติ ชุ่มสนิท หรือ ต้อ ถึงแม้ว่าเขาจะเรียนไม่จบคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ แต่ก็ได้ทำงานหนังสือมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ หัวหน้ากองบรรณาธิการ และตอนนี้เขาเป็นนักเขียนแบบ full time เขียนทั้งเรื่องสั้น นิยาย วรรณกรรมเยาวชน และสารคดีท่องเที่ยว หลายคนมักจะเคยอ่านผลงานของเขาในด้านสารคดีท่องเที่ยวมากกว่า เรื่องราวส่วนใหญ่ของเขาเกิดจากการเก็บเกี่ยวประสบการณ์การท่องเที่ยว ที่ส่วนใหญ่เกิดมาจากการใช้จักรยานเป็นพาหนะ แต่ตัวเขาเองกลับไม่เห็นว่าตัวเองนั้นเป็นนักเดินทาง ด้วยความที่เขาไม่เคยอยู่กับที่ ไม่ปลูกบ้านอยู่ มักจะเช่าบ้านอยู่เป็นส่วนใหญ่ บินหลาจึงนิยามตนเองว่า “เขานั้นเป็น Guest Writer...
ยุคนี้หนังสือขายดีมักเป็นเรื่องเล่าของคนมีชื่อเสียง และดาราขวัญใจประชาชน จนกลายเป็นกระแสนิยมให้คนบันเทิงแห่ออกหนังสือเล่มกันมากขึ้น แต่จำเป็นต้องอาศัยจังหวะชื่อฮิตติดชาร์ตเท่านั้นหนังสือถึงขายได้ แตกต่างจากหนังสือแนววรรณกรรมที่มีรางวัลซีไรต์การันตี อย่างเช่นผลงานของนักเขียนสองซีไรต์ “วินทร์ เลียววาริณ”ที่หนังสือเกือบทุกเล่มขายดี เพราะผู้อ่านเชื่อมั่นใจคุณภาพ ซื้ออ่านแล้วไม่ผิดหวัง “วินทร์” ยอมรับว่า รางวัลกลายเป็นดัชนีกระตุ้นยอดขายไปให้เพิ่มมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้มียอดขายเติบโต แบบก้าวกระโดด เพราะปัจจุบันคนอ่านหนังสือน้อยลง แต่หนังสือวรรณกรรมยังโชคดีที่มีกลุ่มคนอ่านที่เหนียวแน่น และเป็นตลาดเฉพาะใหญ่พอสมควร ส่งผลให้หนังสือวรรณกรรมคุณภาพยังขายได้ นั่นไม่ได้หมายความว่า นักเขียนวรรณกรรมทุกคนจะขายหนังสือได้จนร่ำรวย เพราะปัจจุบันคนอ่านหนังสือน้อยลง และมีหนังสือแนวใหม่ๆ ออกมาเป็นทางเลือกให้ผู้อ่านมากขึ้น แต่วรรณกรรมจะขายได้ในตลาดเฉพาะกลุ่มที่เป็นแฟนคลับ และเชื่อมั่นใจคุณภาพนักเขียนเป็นหลัก “ที่ผ่านมานักเขียนกว่า 90%...
งานเขียนของเขาออกแนวแปลก ลึก ที่โดนใจคนรุ่นใหม่ที่ชอบแสวงงานเขียนสไตล์ใหม่ๆ ปราบดาทำทั้งงานเขียน งานแปล งานศิลปะ แถมงานเขียนของเขาที่ “ความน่าจะเป็น” ที่พิมพ์ถึง 11 ครั้ง ก็ได้รับรางวัลซีไรต์ ปี 2545 อีกด้วย เรื่องสั้นเรื่องแรกที่เขาเขียนก็คือ “คนนอนคม” ที่เขียนส่งให้กับนิตยสารแพรว และเขียนวิจารณ์หนังเป็นภาษาอังกฤษลง Nation Weekly ปราบดาใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่เมืองนอก เริ่มเข้าเรียนวอชิงตัน อินเตอร์เนชั่นแนล สคูล รัฐเวอร์จิเนีย ก่อนจะย้ายไปอยู่ที่แมสซาชูเซตส์ เข้าเรียนที่ ร.ร.ประจำ เดอะ เคมบริดจ์ สคูล ออฟ เวสต์ตัน ก่อนจะย้ายที่เรียนมาที่นิวยอร์ก เข้าเรียนที่พาร์สัน สคูล...
ถ้าใครเป็น Armchair Traveler ก็คงจะรู้จักและคุ้นเคยกับเธอดี เพราะงานเขียนของนิ่ม หรือ กรกฏ พัลลภรักษา ที่ออกมานั้นจะเป็นหนังสือท่องเที่ยว ที่อ่านง่าย ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านตัวละคร (ที่มีอยู่จริง) และประสบการณ์ที่เธอได้ไปเผชิญมา งานเขียนของเธอทำให้คนอ่านรู้สึกเหมือนกับได้เดินทางจริงๆ งานเขียนของเธอยังได้รับคำชมจาก Joe Cumming นักเดินทางและนักเขียนของ Lonely Planet ว่า "งานของเธอเป็นงานแห่งดุลยภาพ บอกเล่าการลองผิดลองถูกมากมาย แต่ก็คงไว้ซึ่งความเข้าใจหยั่งถึงอย่างสนิทแนบ ด้วยความไม่หยุดเพียงแค่ "ดีพอแล้ว" กรกฏ พัลลภรักษา จบการศึกษาจากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เคยเขียนคอลัมน์ท่องเที่ยวให้กับนิตยสาร Summer และงานเขียนพ็อกเกตบุ๊กหลายเล่ม มีนิยามเกี่ยวกับการเดินทางของเธอว่า “การเดินทางคือความคิดถึงไม่จำกัดรูปแบบชนิดหนึ่ง” ผลงาน ไม่ซ้ำหน้า เที่ยวสุดสัปดาห์...
เป็นนามปากกาแสนเก๋ของ กาเหว่า-ชลลดา เตียวสุวรรณ ที่มีที่มาจากละครญี่ปุ่น "ซามูไรพ่อลูกอ่อน" โดยเพลงดาบแม่น้ำร้อยสายเป็นชื่อท่าไม้ตายของโองาทิ อิโต พระเอกของเรื่อง เธอมีผลงานเขียนในหลายรูปแบบ ทั้งเรื่องสั้น ละคร บทกวี และยังมีผลงานเขียนบทภาพยนตร์ “วัยอลวน ตั้ม-โอ๋ รีเทิร์น” อีกด้วย เธอรักการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ งานเขียนเชิงประสบการณ์จึงมีเรื่องราวที่น่าสนใจกับการตามรอยความคิดจากการเดินทางแต่ละครั้งของเธอ ปัจจุบันเธอมีอาชีพ “นักเขียน” เลี้ยงชีวิตได้อย่างสบายๆ ชลลดา เป็นคนชัยภูมิโดยกำเนิด แต่เรียนที่นั่นแค่ชั้นอนุบาล ก่อนจะมาศึกษาต่อที่กรุงเทพฯ จนจบชั้นมัธยม และจบปริญญาตรีจากคณะสังคมศาสตร์ ภาควิชาบัญชีและบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผลงานพ็อกเกตบุ๊ก...






