หลังจากเปิดให้ทดลองมาระยะหนึ่งแล้วสำหรับ GrabBike บริการใหม่จาก GrabTaxi ที่ขยับจากบริการรถยนต์ทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ มาจนถึงบริการจากรถจักรยานยนต์ หรือรถมอเตอร์ไซต์บ้าง ซึ่ง GrabBike มีรูปแบบการบริการทั้งรับ-ส่งผู้โดยสารแบบพี่วินมอเตอร์ไซต์ และรับส่งพัสดุ เอกสารด้วยเช่นกัน วิธีการเรียกใช้บริการก็เหมือนกับการเรียก GrabTaxi โดยเป็นการผ่านแอพพลิเคชั่น จากนั้นระบุสถานที่ปลายทาง และเลือก GrabBike เท่านั้น ค่าบริการเริ่มต้นที่ 35 บาท กิโลเมตรต่อไป กิโลเมตรละ 12 บาท ส่วนกิโลเมตรที่ 10.1 ขึ้นไป กิโลเมตรละ 15 บาท ค่าบริการนี้ทั้งรับ-ส่งผู้โดยสาร และรับส่งพัสดุเอกสาร ซึ่งค่าบริการจะมีการคำนวนตามระยะทาง และระบุในแอพพลิเคชั่นแล้วเรียบร้อย ทำให้ตัดปัญหาเรื่องพี่วินมิเตอร์ไซต์โก่งราคาในวันที่ฝนตก รถติดไปได้ในทันที...
ยอมทุ่มซื้อลิขสิทธิถ่ายทอดสดฟุตบอลบาร์เคลย์ฟรีเมียร์ลีกแต่เพียงผู้เดียว เฉือนเอาชนะ ทรูวิชั่นส์ คู่แข่งคนสำคัญมาด้วยเม็ดเงินลงทุนเกือบ 10,000 ล้านบาท หวังจะใช้รายการนี้มาเป็นทางด่วนแจ้งเกิด CTH แต่เส้นทางกลับไม่สวยหรู เพราะผ่านมาแล้ว2 ฤดูกาล ปี 2013-2014 , 2014-2015 ก็ยังไม่สามารถปั้นรายได้อย่างที่คาดหมายไว้ เนื่องจากต้นทุนสูงมาก เชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำประเทศไทยว่า 2 ปีที่ผ่านมา ซีทีเอชต้องอยู่ในสภาพขาดทุน ต้องใช้เงินลงทุนสูง ค่าใช้จ่ายตกปีละประมาณ 4,000 ล้านบาท ในขณะที่ทำรายได้รวมในปีที่ผ่านมาได้เพียง 3,000 ล้านบาท...
เดือดแน่! เมื่อ 3 ร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น–เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส–แฟมิลี่ มาร์ท พร้อมใจกันเปิดศึกสะสมแสตมป์ ปีนี้ทั้ง 3 รายยอมทุ่มคว้าเอา “คาแร็กเตอรการ์ตูนดัง” มาใช้เป็น “แม่เหล็ก” เรียกลูกค้า หวังกระตุ้นกำลังซื้อท่ามกลางเศรษฐกิจซบเซา มาดูกันว่าระหว่าง “ริลัคคุมะ-มิกกี้ เมาส์-วันพีช ใครจะ “เปรี้ยง” กว่ากัน ฤดูล่าแสตมป์มาแล้ว ในปีนี้ถือว่าเป็นการพร้อมใจสู้ศึกพร้อมกันทั้ง 3 เจ้าเลยทีเดียว ทั้ง “เซเว่น อีเลฟเว่น” “แฟมิลี่ มาร์ท” และ “เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส” เพื่อหวังกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคท่ามกลางเศรษฐกิจที่กำลังซบเซา ทำเอาอุตสาหกรรมค้าปลีกไม่สดใสมากนัก...
29 กรกฎาคม 2558 คือกำหนดการเปิดตัวระบบปฏิบัติการตัวล่าสุดของไมโครซอฟท์ในชื่อ “วินโดวส์ 10” ระบบปฏิบัติการที่บริษัทอ้างว่า สามารถทำงานได้บนอุปกรณ์หลากหลายชนิด และถือเป็นความพยายามสร้างโอกาสให้ไมโครซอฟท์ได้แจ้งเกิดในตลาดโมบายไปในตัว แต่กว่าจะเดินมาถึงจุดนี้ ไมโครซอฟท์ต้องเปลี่ยนหลายสิ่งหลายอย่าง ทั้งในเรื่องนโยบายการอัปเกรดฟรี (ผู้บริโภคสามารถอัปเกรดมาใช้วินโดวส์ 10 ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ในภาคธุรกิจอาจมีค่าใช้จ่าย) ซึ่งในจุดนี้นักวิเคราะห์มองว่า เป็นนโยบายที่ออกมาเพื่อให้เกิดการอัปเกรดซอฟต์แวร์เป็นวินโดวส์ 10 ให้รวดเร็วที่สุดนั่นเอง นอกจากนี้ ความพยายามพัฒนาผู้ช่วยส่วนตัวอย่างคอร์ทานาก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่แตกต่างไปจากอดีต โดยซีอีโอไมโครซอฟท์ มร.สัตยา นาเดลลา เผยว่า เขาหวังว่าฟีเจอร์ผู้ช่วยส่วนตัวอย่างคอร์ทานา (Cortana) จะทำให้วินโดวส์ 10 โดดเด่นมากขึ้น เมื่อเทียบกับค่ายคู่แข่งอย่างแอปเปิลที่มี “สิริ” (Siri) หรือกูเกิลที่มี “กูเกิลนาว” (Google...
เปิดโผรายได้ 24 ช่อง ทีวีดิจิตอล ปี 2557 ทำเงิน 3,633,230,983.30 บาท จ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาตไป 72,114,619.69 บาท ระบุช่องที่มีฐานธุรกิจเดิมได้เปรียบ ช่องเกิดใหม่ ลงทุนไม่ต่ำกว่าปีละ 2 พันล้าน รายได้หลักสิบล้าน ช่องทีวีดิจิตอลทีรายได้เป็นอันดับต้นๆ ล้วนแต่เป็นผู้ประกอบการเดิมที่มีฐานธุรกิจทีวีเดิมทั้งสิ้น ทั้งช่องอนาล็อก ช่องเคเบิลทีวี หรือ ทีวีดาวเทียม เป็นส่วนใหญ่ เขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีโทรทัศน์พีพีทีวี ตั้งข้อสังเกตว่า ช่องที่มีฐานธุรกิจทีวีอยู่เดิมทำให้เกิดข้อได้เปรียบทั้งในแง่ของฐานคนดูเดิมและโอกาสในการหารายได้จากโฆษณา ดูจากช่อง 8 ของอาร์เอส และเวิร์คพอยท์ ที่ขึ้นนำเป็นอันดับ 1 และ 2 หรือช่องเนชั่น, ช่องทีเอ็นเอ็นก็เช่นกัน...
โมโตโรลา (Motorola) เปิดตัวสมาร์ทโฟนเจเนอเรชันใหม่ของ “โมโต จี (Moto G)” พร้อมด้วย 2 เวอร์ชันใหม่ของ “โมโต เอ็กซ์ (Moto X)” โดย Moto G รุ่นใหม่เริ่มวางจำหน่ายแล้วในสหรัฐอเมริกาผ่านร้านออนไลน์ ก่อนจะวางขายจริงหน้าร้านในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ ร้านออนไลน์ที่วางจำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของโมโตโรลาในขณะนี้ ได้แก่ Motorola.com, BestBuy.com และ Amazon.com โดยรุ่นความจุ 8GB ของ Moto G พร้อม RAM ขนาด 1GB มีราคาเริ่มต้นที่ 179.99 เหรียญสหรัฐ...
สื่อโซเชียลมีเดียชื่อดังอย่างทวิตเตอร์ (Twitter) ประสบปัญหาครั้งสำคัญ หลังการแถลงผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของปีที่แม้จะดูดีมีกำไร แต่ทางบริษัทก็ยังต้องเผชิญต่อคำถามจากนักลงทุนถึงแผนการทำกำไรในอนาคตที่ดูมืดมนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยสิ่งที่นักลงทุนอาจไม่ติดใจนักก็คือ ผลประกอบการของทวิตเตอร์ในไตรมาสที่ 2 นี้ บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 61 เปอร์เซ็นต์ หรือเท่ากับ 502.4 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีเม็ดเงินจากค่าโฆษณาเพิ่มขึ้น 63 เปอร์เซ็นต์ เป็น 452 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งในจุดนี้ถือว่าทำได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์รายได้เอาไว้ที่ 481.3 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ดี เมื่อมีการเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ตลอดทั้งปีนั้น ทวิตเตอร์ได้ระบุไว้ที่ 2.20-2.27 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งแม้จะเพิ่มขึ้นจากที่บริษัทเคยตั้งไว้ (เคยตั้งไว้ที่ 2.17-2.27 พันล้านเหรียญสหรัฐ) แต่หากพิจารณาจากตัวเลขผู้เข้าใช้งานในระบบที่เพิ่มขึ้นเพียง 2 ล้านคนในไตรมาสนี้ (จาก 302 ล้านคนในไตรมาสก่อนหน้า...






