คนซื้อบ้าน – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 29 Feb 2024 12:32:18 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ปี 2567 คนมีแผน “ซื้อบ้าน” ลดลง สาเหตุจากเศรษฐกิจซบกระทบเงินเก็บ บ้านแพง ดอกเบี้ยสูง https://positioningmag.com/1464521 Thu, 29 Feb 2024 10:34:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1464521
  • DDproperty สำรวจความต้องการ “ซื้อบ้าน” ของคนไทย พบว่าปี 2567 คนไทยที่วางแผนซื้อบ้านภายใน 1 ปีข้างหน้าลดลงเหลือ 44% เท่านั้น จากปีก่อนที่มี 53%
  • 30% ของผู้ตอบแบบสอบถาม “เลื่อน” แผนการซื้อบ้านออกไปก่อน สาเหตุหลักจากภาวะเศรษฐกิจส่งผลต่อเงินเก็บที่จะใช้ซื้อบ้าน มองว่าราคาบ้านแพงเกินไป และอัตราดอกเบี้ยสูง
  • ผู้บริโภคคาดหวังว่ารัฐบาลจะมีมาตรการลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านออกมา เพื่อช่วยเหลือทั้งผู้กู้เดิมและที่จะกู้ใหม่
  • DDproperty จัดทำสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคและเผยแพร่ผ่านรายงาน DDproperty Thailand Consumer Sentiment Study รอบล่าสุด ครึ่งปีแรกประจำปี 2567 พบว่าความเชื่อมั่นต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ของผู้บริโภคไทยลดลงทุกด้าน ดังนี้

    คนอยาก “ซื้อบ้าน” ลดลงอย่างมีนัยยะ

    รายงานชิ้นนี้พบว่า 44% ของผู้บริโภคมีแผน “ซื้อบ้าน” ภายใน 1 ปีข้างหน้า ตัวเลขนี้ถือว่าลดลงอย่างมีนัยยะจากการสำรวจรอบก่อนหน้าช่วงครึ่งปีหลัง 2566 ที่เคยมีสัดส่วน 53% ตัวเลขคนอยากซื้อบ้านที่ลดลงต่ำกว่าครึ่งหนึ่งเป็นภาพสะท้อนว่ากำลังซื้อผู้บริโภคยังไม่ฟื้น และภาวะเศรษฐกิจกระทบมากต่อกลุ่มผู้ซื้อระดับกลางถึงล่างซึ่งมีความเปราะบางทางการเงินสูง

    สอดคล้องกับคำตอบของผู้บริโภคในอีกหัวข้อหนึ่งคือ 30% ของผู้บริโภคตอบว่าได้ตัดสินใจเลื่อนแผนซื้อบ้านออกไปก่อน เนื่องจากปัญหาทางการเงิน

    ซื้อบ้าน

     

    เงินเก็บไม่พอ บ้านแพง ดอกเบี้ยสูง

    ผู้บริโภคที่เลื่อนแผนซื้อบ้านออกไปหรือไม่มีแผนที่จะซื้อมาจากปัจจัยด้านการเข้าถึงที่อยู่อาศัย ดังนี้

    • “ดอกเบี้ยสูง”ผู้บริโภค 48% มองว่าดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง และ 29% มองว่าอยู่ในระดับสูงมาก มีเพียง 16% ที่มองว่าดอกเบี้ยอยู่ในระดับเหมาะสม
    • “เงินเก็บไม่พอ” – ในกลุ่มผู้บริโภคที่เลือกเช่าแทนการซื้อ 61% ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะพวกเขายังไม่มีเงินเก็บพอที่จะซื้อที่อยู่อาศัย
    • “บ้านแพง” – ขณะที่คนที่เลือกเช่าแทนซื้อ 38% มองว่าบ้านมีราคาแพงเกินไป

    ซื้อบ้าน

    ปัจจัยเหล่านี้ส่งเสริมให้คนไทยเลือกจะเช่าบ้านเพิ่มขึ้น โดยมี 14% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่มองว่าตนจะหาเช่าบ้านใน 1 ปีข้างหน้า เพิ่มจากสัดส่วน 9% เมื่อการสำรวจรอบก่อน

    อีกวิธีหนึ่งที่ผู้บริโภคใช้ในการแก้ปัญหาคือ “ลดช่วงราคาที่อยู่อาศัยที่จะซื้อลง” โดยมี 20% ของผู้ถูกสำรวจที่จะใช้แนวทางนี้ เพื่อลดความเสี่ยงในการก่อหนี้ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจซบเซา

     

    ขอสินเชื่อไม่ผ่านเพราะ “รายได้ไม่มั่นคง”

    อุปสรรคคนซื้อบ้านยุคนี้จึงเป็นเรื่องทางการเงินที่รุมเร้า นอกจากจะมีปัญหาจากเศรษฐกิจแล้ว ฝั่งแบงก์เองก็ระมัดระวังสูงในการอนุมัติสินเชื่อบ้าน มีการพิจารณาอย่างเข้มงวดจนทำให้อัตราลูกค้าที่ถูกปฏิเสธให้สินเชื่อสูงถึง 60-65% ของการยื่นขอกู้ทั้งหมด (ข้อมูลโดย LWS)

    เหตุที่ลูกค้าขอสินเชื่อบ้านไม่ผ่านนั้น 56% เกิดจากรายได้และอาชีพไม่มั่นคง 38% มีประวัติทางการเงินไม่ดี และ 31% มีเงินดาวน์ไม่พอ

    ขณะที่การช่วยเหลือจากภาครัฐผ่านมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ นั้น ผู้บริโภค 58% ต้องการมาตรการลดดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน 51% ต้องการมาตรการลดดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านทั้งที่มีอยู่แล้วและที่กู้ใหม่ และ 40% ต้องการมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์และจดจำนอง

    ]]>
    1464521
    สรุปตลาดอสังหาฯ ไตรมาส 2/2566 ดีมานด์ ‘ซื้อบ้าน’ ยังซบเซา แต่คนมองหา ‘บ้านเช่า’ สูงขึ้น https://positioningmag.com/1442153 Thu, 24 Aug 2023 03:51:32 +0000 https://positioningmag.com/?p=1442153
  • ข้อมูลจาก “ดีดีพร็อพเพอร์ตี้” รายงานตลาด “อสังหาฯ” ไตรมาส 2/2566 พบว่าดีมานด์ “ซื้อบ้าน” ซบเซาลงถึง -32% YoY และลดลง -4% QoQ จากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น และความไม่แน่นอนทางการเมืองทำให้ผู้บริโภคไม่มั่นใจ
  • สวนทางกับตลาด “บ้านเช่า” แม้ดีมานด์จะลดลง -30% YoY แต่ในระยะสั้นปรับเพิ่มขึ้นแล้ว 13% QoQ สะท้อนทิศทางที่ดีสำหรับตลาดเช่า
  • ประเภทอสังหาฯ ที่มีดีมานด์เช่าเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ คอนโดฯ , บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ ตามลำดับ
  • ข้อมูลจากรายงาน DDproperty Thailand Property Market Report เปิดเผยข้อมูลตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วง ไตรมาส 2/2566 โดยศึกษาทั้งตลาดซื้อและตลาดเช่าในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล

    ตลาด “ซื้อบ้าน” นั้นยังซบเซา โดยพบว่าความต้องการซื้อบ้านลดลงถึง -32% YoY และลดลง -4% QoQ โดยประเภทอสังหาฯ ที่ความต้องการซื้อยังซบเซามากที่สุดคือ “คอนโดมิเนียม” เพราะผู้บริโภคยังอยู่ในเทรนด์ความต้องการที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่ใช้สอย

    วิทยา อภิรักษ์วิริยะ ผู้จัดการทั่วไป Think of Living และ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (ฝั่งดีเวลลอปเปอร์) มองว่าตลาดซื้อยังซบเซาเพราะหนี้ครัวเรือนสูง อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ซึ่งทำให้การเข้าถึงการซื้อบ้านยากขึ้น และทำให้ผู้บริโภคที่กำลังมองหาบ้านกังวลเกี่ยวกับภาระผ่อนชำระ

    ขณะที่ความไม่แน่นอนทางการเมืองก็เป็นอีกปัจจัยระยะสั้นที่ทำให้ผู้บริโภคลดความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นหลังจากมีรัฐบาลใหม่และนโยบายทางเศรษฐกิจที่ชัดเจน

    ซื้อบ้าน

    จากปัจจัยลบและความต้องการซื้อที่ลดลง ทำให้ดัชนี “ราคาบ้าน” ไม่กระเตื้องเท่าใดนัก โดยปรับขึ้นเพียง 1% QoQ และลดลง -6% YoY รวมถึงถ้าเทียบกับก่อนเกิดโรคระบาด ราคาบ้านยังต่ำกว่า -10% เทียบกับไตรมาส 2/2562

     

    “บ้านเช่า” สวนทาง ตลาดฟื้นกลับมาคึกคัก

    แม้ผู้ซื้อมีความต้องการซื้อลดลง แต่ตลาด “บ้านเช่า” โตสวนทาง ถึงแม้เทียบกับปีก่อนแล้วดีมานด์เช่าลดลง -30% YoY แต่ระยะสั้นเห็นการปรับตัวดีขึ้น ดีมานด์เพิ่ม 13% QoQ

    ประเภทอสังหาฯ ที่ต้องการเช่าสวนทางกับตลาดซื้อเช่นกัน เพราะ “คอนโดมิเนียม” มีความต้องการเช่าเพิ่มขึ้นสูงสุด ตามด้วยบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์

    บ้านเช่า

    ความต้องการมากขึ้นส่งผลให้ “ค่าเช่าบ้าน” ปรับเพิ่มขึ้นได้ แบ่งเป็นกลุ่มคอนโดฯ ราคาเช่าเพิ่ม 3% QoQ ส่วนบ้านแนวราบ (บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์) ปรับเพิ่ม 8% QoQ

    อย่างไรก็ตาม ถ้าเทียบกับก่อนเกิดโรคระบาดแล้ว กลุ่มบ้านแนวราบถือว่าทำราคาได้แข็งแกร่งกว่ามาก โดยทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ปรับราคาเช่าขึ้นถึง 51% เทียบกับปี 2562 แต่กลุ่มคอนโดฯ รวมถึงหอพัก-อะพาร์ตเมนต์ ต่างปรับลดราคา -9% เทียบกับช่วงก่อนเกิดโรคระบาด สะท้อนให้เห็นว่าที่พักในเมืองแม้ความต้องการจะสูงขึ้น แต่ก็ต้องแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดสูงมากเพื่อดึงดูดผู้บริโภค

    วิทยาเสริมในส่วนตลาดบ้านเช่าว่า ความต้องการเพิ่มขึ้นเพราะเกิด Generation Rent คนรุ่นใหม่เน้นเช่าบ้านมากกว่าเพราะมีความยืดหยุ่นกว่าในการย้ายที่อยู่ และไม่พร้อมที่จะมีภาระการเงินผูกพันในระยะยาว

     

    “คันนายาว” ราคาบ้านพุ่งสูงสุด “ทุ่งครุ” ค่าเช่าปรับขึ้นสูงสุด

    ด้านทำเลร้อนแรงสำหรับไตรมาส 2/2566 ทั้งในกลุ่ม “ซื้อบ้าน” และ “บ้านเช่า” มีดังนี้

     

    ซื้อบ้าน : ทำเลที่ดัชนีราคาเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบไตรมาส

    ส่วนใหญ่อยู่ในทำเลพื้นที่นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจและพื้นที่กรุงเทพฯ รอบนอก ซึ่งมีที่อยู่อาศัยแนวราบเป็นหลัก และตั้งอยู่ใกล้เส้นทางที่รถไฟฟ้าพาดผ่าน ได้แก่

    • เขตคันนายาว เพิ่มขึ้น 15% QoQ ทำเลที่มีโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบเป็นส่วนใหญ่ อยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2567
    • เขตบางคอแหลม เพิ่มขึ้น 8% QoQ เป็นแหล่งงานย่านพระราม 3 ใกล้กับสาทร-สีลม
    • เขตสะพานสูง เพิ่มขึ้น 7% QoQ พื้นที่นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจ อีกหนึ่งทำเลบ้านแนวราบใกล้เมืองและใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเฉพาะโครงการหรูย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม
    • เขตบางเขน เพิ่มขึ้น 7% QoQ พื้นที่นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และใกล้สนามบินดอนเมือง
    • เขตบึงกุ่ม เพิ่มขึ้น 6% QoQ พื้นที่กรุงเทพฯ รอบนอกที่อยู่ใกล้แหล่งงาน เป็นทำเลที่มีที่อยู่อาศัยแนวราบเป็นจำนวนมาก
    ซื้อบ้าน
    โครงการ SMYTH’s Ramintra บ้านหรูราคา 120 ล้านบาท พัฒนาโดย บมจ.สิงห์ เอสเตท ทำเลในบริเวณใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สายสีเขียว และสนามบินดอนเมือง ซึ่งเป็นทำเลที่ทำราคาสูงขึ้นได้ในกรุงเทพฯ
    บ้านเช่า :  ทำเลที่มีดัชนีค่าเช่าเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบไตรมาส

    ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ รอบนอก และพื้นที่นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจ รวมทั้งอยู่ในทำเลแนวรถไฟฟ้าสายปัจจุบันและอนาคต ได้แก่

    • เขตทุ่งครุ ค่าเช่าเพิ่มขึ้นมากที่สุด 24% QoQ โดยเป็นพื้นที่กรุงเทพฯ รอบนอกที่ใกล้แหล่งงานและสถานศึกษา ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงต่อขยาย เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ที่กำลังก่อสร้าง
    • เขตทวีวัฒนา เพิ่มขึ้น 21% QoQ พื้นที่กรุงเทพฯ รอบนอกที่เป็นทำเลที่อยู่อาศัยแนวราบ เดินทางได้สะดวก อยู่ใกล้ทางด่วนและรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน และ ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ที่มีแผนก่อสร้างในอนาคต
    • เขตลาดพร้าว เพิ่มขึ้น 16% QoQ พื้นที่นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจใกล้ใจกลางเมืองและศูนย์การค้าขนาดใหญ่ มีความเป็นย่านพาณิชย์แหล่งช้อปปิ้ง มีรถไฟฟ้า 2 สายผ่าน ทั้งสายสีน้ำเงิน และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง
    • เขตหนองแขม เพิ่มขึ้น 13% QoQ พื้นที่กรุงเทพฯ รอบนอก แม้เป็นทำเลชานเมืองแต่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงท่าพระ-หลักสอง และมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่
    • เขตบางเขน เพิ่มขึ้น 10% QoQ พื้นที่นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจ อีกหนึ่งทำเลใกล้เมือง ใกล้สถานศึกษาชื่อดังและศูนย์การค้าขนาดใหญ่ มีรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย หมอชิต-คูคต ผ่านทำเล และใกล้สนามบินดอนเมือง
    บ้านเช่า
    แกรนด์ บริทาเนีย วงแหวน-ประชาอุทิศ บ้านเดี่ยวราคาเริ่ม 18 ล้านบาท พัฒนาโดย บมจ.บริทาเนีย
    ]]>
    1442153
    คนวางแผน “ซื้อ” บ้านลดลง ต้องการ “เช่า” มากขึ้น “เงินเฟ้อ” ต้นเหตุพับแผน-ชะลอการซื้อ https://positioningmag.com/1423105 Tue, 14 Mar 2023 09:55:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1423105 “ดีดีพร็อพเพอร์ตี้” สำรวจความเห็นผู้บริโภครอบครึ่งปีแรก 2566 พบว่า คนไทยที่มีแผน “ซื้อ” บ้านภายในระยะเวลา 1 ปีลดลงเหลือ 52% ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคที่ต้องการ “เช่า” บ้านมีมากขึ้นเป็น 9% โดย “เงินเฟ้อ” มีผลต่อผู้บริโภคมาก เป็นต้นเหตุการชะลอแผนหรือพับแผนซื้อที่อยู่อาศัย

    ข้อมูลจาก “ดีดีพร็อพเพอร์ตี้” เว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสอสังหาริมทรัพย์ สำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคประจำรอบครึ่งปีแรก 2566 (DDproperty Thailand Consumer Sentiment Study) เกี่ยวกับความต้องการซื้อหรือเช่าที่อยู่อาศัย และปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจ พบข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้

    1.คนมีแผน “ซื้อ” บ้าน “ลดลง” น้อยกว่าปีก่อน — ผู้ตอบแบบสอบถามมี 52% ที่มีแผนจะซื้อที่อยู่อาศัยภายในระยะเวลา 1 ปี ตัวเลขนี้แม้จะเกินครึ่ง แต่เทียบกับการสำรวจรอบครึ่งปีหลัง 2565 เคยมีสูงกว่านี้ที่ 57%

    2.คนมีแผน “เช่า” บ้าน “เพิ่มขึ้น” จากปีก่อน — ผู้ตอบแบบสอบถามมี 9% ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยเพื่อเช่า เทียบกับการสำรวจรอบก่อนมีเพียง 7%

     

    “เงินเฟ้อ” ทำคนอยากมีบ้านถอยทัพ

    สาเหตุหลักที่ทำให้คนที่ตั้งใจจะซื้อบ้านมีสัดส่วนลดลง เกิดจากภาวะเศรษฐกิจที่รุมเร้า โดยภาวะเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น เงินเก็บลดลง ทุกปัจจัยทำให้ความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคลดลงตามไปด้วย

    เมื่อสอบถามผลกระทบจากเงินเฟ้อที่มีต่อความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย ปรากฏว่า มีผู้บริโภคเพียง 1 ใน 5 ที่ไม่กระทบและจะเดินหน้าซื้อบ้านต่อไปตามแผน ส่วนอีก 3 ใน 5 เลือกชะลอการซื้อบ้านไปก่อนจนกว่าภาวะเงินเฟ้อจะลดลง ขณะที่อีก 1 ใน 5 ยกเลิกแผนการซื้อบ้าน เพราะเงินเฟ้อกระทบกับสภาพคล่องทางการเงินของตนเอง

    สำหรับกลุ่มผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ มีเหตุผลหลักที่ผลักดันความต้องการ 3 ปัจจัย คือ ต้องการพื้นที่ส่วนตัว (40%), ซื้อเพื่อการลงทุน (33%) และ ต้องการพื้นที่ให้กับการขยายครอบครัว เช่น มีบุตรหลาน พ่อแม่ย้ายเข้ามาอยู่ร่วม (28%) ทั้งนี้ การเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค อันดับแรกที่ใส่ใจที่สุดยังคงเป็น “ทำเล” ที่ตอบโจทย์

     

    “เช่า” เพราะยังไม่พร้อมซื้อ

    ในอีกมุมหนึ่ง การสำรวจรอบนี้พบว่ามีคนสนใจเช่าบ้านมากขึ้น เหตุที่ผู้บริโภคมีแนวโน้มเช่าจากการสำรวจนี้มี 3 เหตุผลหลักคือ ยังไม่มีเงินเก็บพร้อมซื้อที่อยู่อาศัย (45%), ยังไม่ต้องการตั้งถิ่นฐานถาวรอยู่เพียงที่เดียว ต้องการความยืดหยุ่นเผื่อย้ายทำเลในอนาคต (36%) ตามด้วยเหตุผลคือ มองว่าราคาที่อยู่อาศัยแพงเกินไป การเก็บออมเป็นเงินคุ้มค่ากว่า (31%)

    การสำรวจของดีดีพร็อพเพอร์ตี้ จัดสำรวจเป็นประจำทุก 6 เดือน โดยใช้วิธีทำแบบสอบถามออนไลน์ในกลุ่มตัวอย่างอายุ 22-69 ปี จำนวน 1,000 คน

     

    อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม

    ]]>
    1423105
    ที่อยู่อาศัยย่านไหนแพงสุด รู้จักตัวตนคนซื้อบ้านยุคนี้ https://positioningmag.com/1147603 Wed, 22 Nov 2017 06:00:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1147603 ใครจะซื้อบ้าน คอนโดมิเนียม ไว้อยู่ หรือไว้เก็งกำไรในอนาคต ต้องทำการบ้านให้ดี เพราะทำเลที่คิดว่าจะซื้อง่ายขายคล่องได้กำไร อาจไม่ใช่อย่างที่คิด ที่สำคัญกลุ่มเป้าหมายที่จะซื้อที่อยู่อาศัยก็เริ่มเปลี่ยนไป ทั้งปัจจัยการตัดสินใจ และไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ

    นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย ของดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยทิศทางความต้องการของลูกค้าในการซื้อที่อยู่อาศัยว่า จากราคาที่อยู่อาศัยต่อตารางเมตรใน กทม.ที่บางเขตมีราคาเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10% และบางเขตไม่เพิ่มขึ้นเลย โดยเฉพาะชานเมืองที่รถไฟฟ้าไปไม่ถึง สะท้อนว่าความต้องการที่อยู่อาศัยยังเน้นปัจจัยเลือกจากทำเล โดยเฉพาะแนวรถไฟฟ้า

    นางกมลภัทร แสวงกิจ

    เขตที่มีราคาที่อยู่อาศัยสูงสุด โดยดูจากราคาต้องการเสนอซื้อขายเฉลี่ยต่ำที่สุด ซึ่งราคาขายจริงอาจสูงกว่า ซึ่งราคาในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาสูงขึ้นจากไตรมาส 2 หรือผ่านไปเพียง 3 เดือน สูงถึง 10% คือเขตจตุจักร ที่มีการขยายเขตแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว รองลงมาคือพระโขนง 7% คลองเตย 4% ราชเทวี 2% เช่นเดียวกับ พญาไท ส่วนที่เพิ่ม 1% คือสาทร ปทุมวัน ที่มีการปรับราคาสูงมาก่อนหน้านี้แล้ว

    ทั้งนี้เขตปทุมวัน ราคา ไตรมาส 1 ที่ผ่านมา 178,947 บาทต่อตร.มรองลงมาคือ ราชเทวี 170,000 บาทต่อ ตร.ม. ส่วนที่ถูกที่สุดอยู่ที่พระโขนง 94,118 บาท แต่ไตรมาส 3 ราคาเพิ่มเป็น 101,000 บาทต่อ ตร.ม.แล้ว

    คนรุ่นใหม่มาแรง แบรนด์เรื่องรอง

    สำหรับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายที่จะเลือกซื้อที่อยู่อาศัยนั้น หากดูจากกลุ่มคนที่เข้ามาดูเว็บไซต์ของ DDproperty จำนวน 3.5 ล้านคนต่อเดือน และใช้เวลาเฉลี่ยประมาณคนละ 8 นาทีต่อครั้ง พบว่าจำนวนที่เข้ามาดูเว็บมากที่สุดคือกลุ่มอายุ 25-34 ปี มีจำนวนถึง 44% รองลงมาอายุ 35-44 ปี 27% ตามด้วยกลุ่มอายุ 45-54 ปี 12% ที่เหลือคือกลุ่มอายุ 18-24 ปี 8% อายุ  55-66 ปี 7% และอายุมากกว่า 65 ปี 2% 

    พบว่าแนวโน้มกลุ่มอายุ 25-34 ปี มีเพิ่มขึ้นเรื่อย ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องการอยู่คอนโดมิเนียมมากขึ้น เหตุผลเพราะเรื่องความปลอดภัย ความพร้อมเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ต้องขึ้นบันได เป็นต้น

    ส่วนการตัดสินใจเลือกซื้อของคนรุ่นใหม่นี้ ไล่เรียงปัจจัยสำคัญ อันดับแรกคือ ทำเล การเดินทาง สิ่งอำนวยความสะดวก และราคาต่อตารางเมตร ส่วนเรื่องแบรนด์ ก็เป็นเหตุผลสำคัญแต่ไม่มากเท่าในอดีต 

    กรณีการตัดสินเลือกซื้อในกลุ่มที่อยู่ระดับไฮเอนด์ บ้านแพงระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไป หากปัจจัยทุกอย่างใกล้เคียงกัน แบรนด์ที่ดังน้อยกว่า หรือแบรนด์ระดับกลาง หากยอมตัดราคาลงมา 5-10% ก็มีผลให้กลุ่มเป้าหมายตัดสินใจซื้อได้ ส่วนกลุ่มระดับกลางลงมา ดูที่ของแถม หากเป็นของดีมีคุณภาพ ก็จะดึงลูกค้าได้มากกว่า” 

    สำหรับความต้องการเสนอขาย และซื้อที่อยู่อาศัยที่มีการเสนอผ่านเว็บไซต์นั้น ตลาดใหญ่จำนวน 70% คือระดับราคา 3-8 ล้านบาท 5-8% ระดับแพงกว่า 8 ล้านบาท และต่ำกว่า 1-3 ล้านบาท 22-25%

    ทั้งหมดนี้สะท้อนเป็นดัชนีอสังหาริมทรัพย์ที่ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ชี้ให้เห็นว่า ไตรมาส 3 ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยปรับเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และหากเปรียบเทียบกับ 2 ปีที่แล้ว ดัชนีราคาเพิ่มขึ้น 53% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าจากนี้อีก 1-2 ปี ราคาอสังหาริมทรัพย์ยังคงดีอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะทำเลแนวรถไฟฟ้า และยังไม่เห็นสัญญาณโอเวอร์ซัพพลาย

    ]]>
    1147603