กักตัว – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 27 Aug 2021 11:42:18 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 COVID-19 ระบาดหนัก ภาครัฐเปิด Home Isolation “อสังหาฯ” ดูแล “ลูกบ้าน” กันอย่างไร? https://positioningmag.com/1348878 Fri, 27 Aug 2021 09:16:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1348878 ประเทศไทยเผชิญการระบาดโรค COVID-19 รอบที่หนักที่สุดที่เคยเกิดขึ้น จนภาครัฐต้องปรับระบบให้มี “Home Isolation” สำหรับผู้ติดเชื้อระดับสีเขียว เมื่อมีการดูแลผู้ติดเชื้อภายใน “บ้าน” บริษัทผู้พัฒนาอสังหาฯ และนิติบุคคล มีมาตรการช่วยเหลือลูกบ้านอย่างไร เพื่อผ่านพ้นวิกฤตนี้ได้อย่างปลอดภัย

หลายคนที่เคยมีเหตุต้องกักตัวอยู่ในบ้าน ไม่ว่าจะเพื่อดูอาการหรือยืนยันติดเชื้อแล้ว น่าจะทราบดีว่าการกักตัว 14 วันหรือจนกว่าจะหายป่วยนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้กักตัวมักประสบความลำบากทั้งด้านอาหาร ยา อุปกรณ์การแพทย์ ไปจนถึงด้านจิตใจ หลายคน ‘จิตตก’ และเป็นกังวลอย่างมาก

เมื่อการกักตัวเกิดขึ้นในบ้าน ยิ่งภาครัฐอนุญาตให้จัดระบบ Home Isolation ก็ยิ่งมีผู้กักตัวมากยิ่งขึ้น ไปดูกันว่าภาคธุรกิจอสังหาฯ และบริหารจัดการอาคาร (นิติบุคคล) มีมาตรการใดแล้วบ้างเพื่อช่วยให้ลูกบ้านใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย

1.บริการส่งอาหาร-ของใช้ถึงหน้าห้อง

พื้นฐานแรกสุดของคนกักตัวคือความกังวลด้านอาหาร โดยเฉพาะผู้ที่กักตัวใน “คอนโดมิเนียม” เพราะแม้ว่าปัจจุบันจะมีบริการเดลิเวอรี่ทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งอาหารปรุงสุก ของสด ของแห้ง น้ำดื่ม แต่ถ้าอาศัยอยู่ในคอนโดฯ กฎระเบียบของทุกตึกจะไม่อนุญาตให้พนักงานส่งสินค้าขึ้นไปส่งถึงหน้าห้องชุด

ดังนั้น นิติบุคคลหลายแห่งจึงต้องมีมาตรการพิเศษช่วยเหลือผู้ที่กักตัวในห้องพัก โดยเจ้าหน้าที่โครงการจะผลัดเวรขึ้นไปส่งอาหารหรือของใช้ที่ลูกบ้านสั่งซื้อออนไลน์ให้ถึงหน้าห้อง อำนวยความสะดวกให้ลูกบ้านใช้ชีวิตในห้องได้

 

2.มอบชุด Health Kit ดูแลสุขภาพ

บริษัทอสังหาฯ หรือนิติบุคคลบางแห่งมีการจัดซื้อมอบชุดดูแลสุขภาพให้ลูกบ้านเป็นพิเศษ เช่น MQDC กับ พรีโม (ในเครือออริจิ้น) มีนโยบายคล้ายกันคือ มอบชุดดูแลตนเองประกอบด้วยเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว ปรอทวัดไข้ และยาจำเป็น ให้กับลูกบ้านที่กักตัว หรือ เสนาฯ มอบยาฟ้าทะลายโจรให้ลูกบ้านทั้งหมดบ้านละ 1 ขวด เป็นต้น ขณะที่ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ (ในเครือแสนสิริ) มีการปลูกฟ้าทะลายโจรและกระชายในโครงการ 230 แห่งเพื่อเตรียมไว้สำหรับแปรรูปแจกลูกบ้าน

แม้ว่าการเข้าระบบ Home Isolation ของภาครัฐ จะมีการจัดส่งยา เครื่องวัดออกซิเจน เครื่องวัดไข้ และอาหาร 3 มื้อให้ แต่ในทางปฏิบัติแล้ว มีข้อร้องเรียนไม่น้อยว่าการจัดส่งของภาครัฐล่าช้า ดังนั้น การเตรียมชุดสุขภาพของเอกชนเพื่อดูแลลูกบ้านของตัวเองก่อนจึงช่วยเหลือได้มาก

 

3.หน่วยงานติดตามสุขภาพ

อีกหนึ่งประเด็นที่ลูกบ้านผู้ติดเชื้อกังวลคือ หากสภาวะผู้ป่วยเริ่มขยับจากระดับสีเขียวเป็นสีเหลืองซึ่งทำให้ต้องเข้าระบบหาเตียงในโรงพยาบาลจะทำอย่างไร โดยเฉพาะถ้าผู้ป่วยอาศัยอยู่คนเดียวและไม่มีผู้ช่วยติดต่อประสานงานให้

ประเด็นนี้นิติบุคคลหลายแห่งจะทำหน้าที่พิเศษช่วยเหลือลูกบ้าน ช่วยประสานงานถามไถ่อาการ ไปจนถึงช่วยหาเตียง เช่น LPP (บริษัทในเครือ LPN) หรือ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ มีนโยบายช่วยติดต่อประสานหาเตียงอีกแรงหนึ่งหากลูกบ้านขยับเป็นผู้ป่วยสีเหลือง หรือ พรีโม มีทีม Origin Health Buddy เป็นทีมฉุกเฉินพร้อมช่วยเหลือลูกบ้านที่ติดเชื้อได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

4.ดูแลจิตใจ

อีกเรื่องที่หลายคนอาจลืมนึกถึงคือการดูแล “จิตใจ” ของผู้ป่วย ประเด็นนี้ MQDC มีตัวอย่างการสร้างมาตรการรองรับคือ แนะนำให้ลูกบ้านใช้แอปพลิเคชัน OOCA (อูก้า) ซึ่งสามารถขอคำปรึกษาจากจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รวมถึงบริษัทจะมีชุด Hobby Kit ให้ผู้ป่วยกักตัวด้วย สำหรับหากิจกรรมทำในบ้านแก้เครียด เช่น ชุดปลูกต้นไม้ DIY

 

5.จัดการสุขภาวะภายในอาคาร

นอกจากตัวผู้ป่วยเองแล้ว อสังหาฯ ยังต้องจัดการการอยู่ร่วมกันให้มีสุขภาวะที่ดี โดยหลายแห่งมีมาตรการเพิ่มเติม เช่น มั่นคงเคหะการ เพิ่มถังขยะสีแดงสำหรับขยะติดเชื้อและรณรงค์ให้ลูกบ้านใช้ถุงขยะสีแดงแยกขยะติดเชื้อเพื่อความปลอดภัย บางแห่งมีการกำหนดให้ผู้ป่วยที่อาจจะต้องส่งตัวเข้าพบแพทย์ขึ้นลงลิฟต์เฉพาะที่กำหนด และมีการพ่นฆ่าเชื้อโถงทางเดินและลิฟต์หลังผู้ป่วยใช้งาน สร้างสุขภาวะที่ดีและทำให้ลูกบ้านทั้งหมดสบายใจในการอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อ

]]>
1348878
ฮ่องกงจ่อลด “เวลากักตัว” เหลือ 1 สัปดาห์ แก่ผู้ฉีดวัคซีน COVID-19 ครบโดส https://positioningmag.com/1331140 Sat, 08 May 2021 09:30:50 +0000 https://positioningmag.com/?p=1331140 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลฮ่องกงระบุว่า บรรดาผู้เดินทางจะได้รับการจัดการที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่เดินทางมา ขณะที่หน่วยงานสาธารณสุขได้แบ่งพื้นที่ในต่างประเทศออกเป็น 5 ประเภท ตามความรุนแรงของการระบาดของโรค COVID-19

โทมัส ชาน (Thomas Chan) เลขาธิการถาวรของสำนักอาหารและสาธารณสุขของฮ่องกง แถลงต่อสื่อว่าประชาชนจากพื้นที่ความเสี่ยงต่ำ ซึ่งรวมถึงออสเตรเลีย และสิงคโปร์ จะได้รับการปรับลดระยะเวลากักตัวจาก 2 สัปดาห์ เหลือ 1 สัปดาห์ แต่ยังต้องเฝ้าติดตามอาการตนเองอีก 7 วัน

ชานกล่าวว่าผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ลดระยะเวลาการกักตัวควรได้รับวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 โดสที่ 2 มาแล้ว 2 สัปดาห์ก่อนการเดินทางเข้าฮ่องกง

ขณะเดียวกัน ระยะเวลาการกักตัวที่กำหนดไว้ที่ 21 วัน สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ความเสี่ยงกลางสูง ในปัจจุบัน จะถูกปรับให้เหลือ 2 สัปดาห์ พร้อมการเฝ้าติดตามตนเองอีก 7 วัน แต่นโยบายสำหรับผู้เดินทางมาจากพื้นที่ความเสี่ยงสูงพิเศษและสูงมากจะยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้ ผู้เดินทางมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ ตลอดจนเขตบริหารพิเศษมาเก๊า และเกาะไต้หวันทางตอนใต้ของจีน จะต้องกักตัวเป็นเวลา 1 สัปดาห์ พร้อมเฝ้าติดตามตนเองอีก 7 วัน ยกเว้นผู้ที่อยู่ในแผนการเดินทางรีเทิร์นทูเอชเค” (Return2hk)

]]>
1331140
“ฮ่องกง” ชะลอ Travel Bubble กับ “สิงคโปร์” หลังผู้ติดเชื้อ COVID-19 กลับมาพุ่งสูงขึ้นจนน่ากังวล https://positioningmag.com/1307068 Sun, 22 Nov 2020 08:23:47 +0000 https://positioningmag.com/?p=1307068 โครงการ Travel Bubble ของฮ่องกงสิงคโปร์ มีอันต้องสะดุด เมื่อเจอความเสี่ยงที่ COVID-19 จะกลับมาเเพร่ระบาดอีกครั้ง

ทางการฮ่องกง ประกาศเลื่อนโครงการ Travel Bubble ที่จับมือร่วมกันกับรัฐบาลสิงคโปร์ เพื่อให้ประชาชนเดินทางบินไปหากันได้โดยไม่ต้องกักตัว ออกไปอย่างน้อย 14 วันจากกำหนดการเดิมคือในวันนี้ (22 ..)

เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ในฮ่องกงกลับมาอยู่ในระดับวิกฤต โดยล่าสุด มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในฮ่องกงที่ 43 ราย เป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ที่มีสถิติผู้ป่วยรายวันกลับมาเป็นเลขสองหลัก ในจำนวนนี้มีผู้ติดเชื้อถึง 13 ราย ที่ไม่สามารถติดตามที่มาของการติดเชื้อได้ ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเเพร่ระบาดต่อไป

โดยการตัดสินใจเลื่อน Travel Bubble ออกไปครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายหารือร่วมกันแล้ว อย่างไรก็ตาม หากสถานกาณณ์ดีขึ้น คาดว่าทั้งสองฝ่ายจะตกลงหารือเกี่ยวกับแผน Travel Bubble ใหม่อีกครั้งในเดือนธ..

หนึ่งในข้อตกลงที่สำคัญ คือหากฮ่องกงหรือสิงคโปร์ มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวลในช่วง 7 วัน ทั้งสองฝ่ายสามารถยกเลิกโครงการ Travel Bubble ระหว่างกันได้ทันที โดยผู้เดินทางจะต้องมีผลตรวจ COVID-19 เป็นลบ ก่อนเดินทางทั้งขาไปเเละกลับ ผ่านเที่ยวบินโดยสารที่จำกัดจำนวนต่อวันของสายการบินเเห่งชาติอย่าง Singapore Airlines และ Cathay Pacific

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสิงคโปร์กำลังศึกษาเกี่ยวกับการให้นักท่องเที่ยวฮ่องกงและอีกหลายประเทศ ให้สามารถเดินทางเข้าสู่สิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ต้องรอดูว่าต่อไปจะมีการจับมือ Travel Bubble กับชาติใดอีกบ้าง

 

 

ที่มา : SCMP , CNN

 

]]>
1307068
ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ เตรียม ‘เปิดพรมแดน’ สำหรับการเดินทางเพื่อธุรกิจโดยไม่ต้อง ‘กักตัว’ https://positioningmag.com/1300420 Wed, 07 Oct 2020 09:02:57 +0000 https://positioningmag.com/?p=1300420 ความสัมพันธ์ของประเทศ ‘ญี่ปุ่น’ และ ‘เกาหลีใต้’ ในปัจจุบันนี้ ถือว่ากำลังจมดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ล่าสุดได้เริ่มเห็น ‘สัญญาณดี’ เมื่อทั้ง 2 ประเทศเตรียมเปิดพรหมแดนสำหรับการเดินทางเพื่อธุรกิจ

การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้ประชากรของประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ห้ามเดินทางระหว่างประเทศ แต่ล่าสุด ภายใต้ข้อตกลงทวิภาคีผู้เดินทางระยะสั้นเพื่อทำ ‘ธุรกิจ’ นั้นไม่จำเป็นต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน แต่ผู้ที่เดินทางจะต้อง ‘ตรวจเชื้อ COVID-19’ ก่อน และต้องส่งแผนการเดินทางให้เจ้าหน้าที่ เพื่อที่จะดำเนินการเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัส ส่วนชาวต่างชาติและผู้อยู่อาศัยระยะยาวอื่น ๆ จะได้รับอนุญาตให้เข้ามา โดยมีเงื่อนไขว่าพวกเขาถูกกักตัวเป็นเวลาสองสัปดาห์

(Photo : Shutterstock)

“ปัจจุบันความสัมพันธ์ญี่ปุ่น – เกาหลีใต้อยู่ในสถานการณ์ที่รุนแรงอย่างยิ่ง ดังนั้นการแลกเปลี่ยนผู้คนจากทั้งสองประเทศโดยเริ่มจาก นักธุรกิจ จึงมีความสำคัญมาก” โทชิมิสึ โมเทกิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว

ความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้แย่ลงมาก หลังจากที่ศาลเกาหลีใต้ตัดสินลงโทษบริษัทญี่ปุ่นและสั่งให้พวกเขาชดเชยเงินเนื่องจากมีการบังคับใช้แรงงานในช่วงสงคราม คำวินิจฉัยเหล่านั้นทำให้โตเกียวต้องตอบโต้ด้วยการควบคุมการส่งออกวัสดุที่ใช้ในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ให้กับประเทศเกาหลีใต้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ได้เริ่มเจรจาเรื่องการเริ่มต้นการเดินทางเพื่อติดต่อธุรกิจกันอีกครั้งตั้งแต่เดือนกรกฎาคม และเมื่อเดือนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ สุงะและประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้คุยโทรศัพท์เพื่อเร่งการเจรจากัน

รายงานขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติญี่ปุ่นระบุว่า ประเทศญี่ปุ่นมีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ราว 5.58 ล้านคนต่อปี ซึ่งถือเป็นอันดับ 2 รองจากประเทศจีนที่มีประมาณ 9.59 ล้านคนต่อปี  ขณะที่มีประชากรจากเกาหลีใต้ประมาณ 310,000 คนที่เดินทางมาเพื่อติดต่อธุรกิจ

Source

]]>
1300420
อังกฤษ เตรียมยกเลิก “กักตัว” ผู้ที่เดินทางมาจาก 75 ประเทศ รวมไทยด้วย https://positioningmag.com/1286372 Thu, 02 Jul 2020 14:12:09 +0000 https://positioningmag.com/?p=1286372 รัฐบาลอังกฤษ เตรียมยกเลิกมาตรการกักตัว 14 วันสำหรับผู้ที่เดินทางมาจาก 75 ประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย

สำนักข่าว Telegraph รายงานว่า อังกฤษเตรียมจะยกเลิกระเบียบการกักตัว ตามมาตรการสกัดการเเพร่ระบาดของ COVID-19 ต่อผู้ที่เดินทางมาจาก 75 ประเทศ เพื่อให้ผู้ที่เดินทางเหล่านั้น สามารถเข้ามาพักผ่อนในวันหยุดได้

สำหรับประเทศที่อยู่ในรายชื่อดังกล่าว ยกตัวอย่างเช่น ไทย สหภาพยุโรปเกือบทุกประเทศ ตุรกี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เเละดินแดนของอังกฤษ เช่น เบอร์มิวดาและยิบรอลตาร์

โดยรัฐบาลอังกฤษ เตรียมจะประกาศเรื่องการเดินทางในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะมีการหารือเพิ่มเติมภายในสัปดาห์นี้ เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวให้กลับมาได้โดยเร็วที่สุด

รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน กำลังเร่งหาวิธีเปิดการเดินทางระหว่างประเทศ หลังช่วงต้นเดือนมิ..ที่ผ่านมา ได้กำหนดให้ผู้ที่เดินทางเข้าอังกฤษ ทั้งพลเมืองที่เป็นชาวสหราชอาณาจักร ผู้มีถิ่นพำนักถาวร นักท่องเที่ยวเเละนักธุรกิจต่างชาติ ต้องให้ข้อมูลที่เป็นจริงและชัดเจนกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ไม่ว่าจะเดินทางด้วยทางบก ทางเรือหรือทางอากาศ ว่าจะกักตัวเองอยู่ที่ใดตลอดช่วงเวลา 14 วัน

จนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อังกฤษจึงได้ยกเลิกการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ให้แก่ผู้ที่เดินทางไปจากบางประเทศเช่น ฝรั่งเศส กรีซ และสเปน

Simon Clarke รัฐมนตรีว่าการรัฐบาลท้องถิ่นและชุมชน เผยว่า รัฐบาลต้องการให้ภาคการท่องเที่ยวกลับมาอีกครั้ง เเละกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการเพื่อประกาศอนุญาตให้ประชาชนเดินทางได้ เเละคาดว่าจะมีข่าวดีในอนาคตอันใกล้นี้”

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ณ วันที่ 3 ก.ค. กระทรวงคมนาคม ได้ประกาศให้ผู้ที่เดินทางเข้ามายังอังกฤษ จาก 59 ประเทศและดินแดนที่มีความเสี่ยงต่ำจากการระบาดของ COVID-19 จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคมนี้ เป็นต้นไป โดยมีรายชื่อของประเทศและดินแดนเหล่านี้ เช่น ออสเตรเลีย ออสเตรีย เบลเยียม โครเอเชีย เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ ฮ่องกง อิตาลี ญี่ปุ่น มาเก๊า เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ สเปน สวิตเซอร์แลนด์ ไต้หวัน ตุรกี และเวียดนาม ฯลฯ ทั้งนี้ไม่มีรายชื่อของประเทศไทยอยู่ใน 59 ประเทศและดินแดนเหล่านี้ 

 

ที่มา : Reuters, BBC

 

]]>
1286372
รัฐควีนส์แลนด์ ออสเตรเลีย เตรียมเก็บ “ค่ากักตัว” ผู้เดินทางจากต่างประเทศ คนละ6หมื่นบาท https://positioningmag.com/1284437 Sun, 21 Jun 2020 09:15:05 +0000 https://positioningmag.com/?p=1284437 ผู้เดินทางจากต่างประเทศที่จะเดินทางเข้ารัฐควีนส์แลนด์ของออสเตรเลีย จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการกักตัวภายในโรงเเรม 14 วันตามที่ทางการจัดไว้ให้ ตามมาตรการควบคุมการเเพร่ระบาดของ COVID-19 

สำหรับค่าใช้จ่ายในการกักตัว 1 คน จะอยู่ที่ 2,800 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 5.93 หมื่นบาท) ส่วนผู้เดินทางที่มาเป็นคู่จะอยู่ที่ 3,700 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 7.8 หมื่นบาท) ขณะที่ผู้เดินทางที่มาเป็นครอบครัว 4 คนจะต้องพักห้องเดียวกัน โดยต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 4,600 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 9.7 หมื่นบาท)

ทั้งนี้ ผู้ที่เดินทางเข้ารัฐควีนส์แลนด์จากต่างประเทศ จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ากักตัวในสถานที่อื่น นอกเหนือจากโรงแรมที่ทางรัฐเป็นผู้กำหนดให้ โดยถือว่าเป็นรัฐแรกของออสเตรเลียที่เริ่มเก็บเงินค่ากักตัวจากผู้เดินทางจากต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม กฎใหม่นี้มีข้อยกเว้น สำหรับผู้ที่มีกำหนดเดินทางเข้าควีนส์แลนด์ตั้งแต่วันที่ 1 ..เป็นต้นไป ในกรณีที่พวกเขาได้จองตั๋วเดือนทางไว้ล่วงหน้าก่อนเที่ยงคืนของวันที่ 17 มิ..เเล้ว

ทางการรัฐควีนส์แลนด์ ระบุจุดประสงค์ของการเก็บเงินค่ากักตัวจากนักเดินทางจากต่างประเทศว่า เป็นการลดภาระทางการเงินที่มาจากภาษีประชาชน

โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าว เกิดขึ้นหลังรัฐควีนส์แลนด์ต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องในการกักตัวทั้งหมด นับตั้งแต่มีการระบาดเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งตอนนี้ใช้งบประมาณไปเเล้ว 19 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 402 ล้านบาท) และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเกิน 24 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 510 ล้านบาท) ภายในสิ้นเดือน มิ..นี้

 

ที่มา : qld.gov.au , Daily mail

]]>
1284437
อังกฤษ เริ่มบังคับให้ผู้เดินทางจากต่างแดน กักตัว 14 วัน สายการบินยื่นค้านซ้ำเติมธุรกิจ https://positioningmag.com/1282630 Mon, 08 Jun 2020 13:09:10 +0000 https://positioningmag.com/?p=1282630 สหราชอาณาจักร เริ่มคุมเข้มมาตรการกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเป็นเวลา 14 วันแล้ว เพื่อป้องกันการเเพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งเเต่วันจันทร์ที่ 8 มิ.ย.เป็นต้นไป ซึ่งจะมีการประเมินมาตรการทุก 3 สัปดาห์

โดยมีข้อกำหนดว่า พลเมืองทั้งที่เป็นชาวสหราชอาณาจักร ผู้มีถิ่นพำนักถาวร นักท่องเที่ยวเเละนักธุรกิจต่างชาติ ต้องให้ข้อมูลที่เป็นจริงและชัดเจนกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ไม่ว่าจะเดินทางด้วยทางบก ทางเรือหรือทางอากาศ ว่าจะกักตัวเองอยู่ที่ใดตลอดช่วงเวลา 14 วันดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม มีข้อยกเว้นพิเศษในหลายกรณี อย่างเช่น พนักงานขับรถขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน ซึ่งมีความจำเป็นที่ต้องเดินทางทำตามหน้าที่ และผู้ที่มีประวัติพำนักอยู่ในไอร์แลนด์เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเดินทางมายังสหราชอาณาจักร

ทางเจ้าหน้าที่รัฐบาลจะสุ่มตรวจบุคคลตามข้อมูลที่ได้รับ หากพบการฝ่าฝืน ไม่ว่าจะเป็นการหลบออกจากสถานที่กักตัว หรือการให้ข้อมูลเท็จ บุคคลนั้นจะต้องชำระค่าปรับ 1,000 ปอนด์ (ราว 3.98 หมื่นบาท) หรืออาจถูกดำเนินคดีตามกฎหหมายของสหราชอาณาจักร

ขณะเดียวกัน มาตรการนี้ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากภาคธุรกิจ เพราะมองว่าการที่อังกฤษเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสะสมจาก COVID-19 มากกว่า 4 หมื่นคน สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ แต่กลับมีมาตรการจำกัดการเดินทางจากประเทศที่มีผู้ติดเชื้อน้อยกว่า ทำให้บรรดานักวิจารณ์มองว่าเป็นการซ้ำเติมธุรกิจโรงแรมและสายการบิน

ล่าสุดสายการบินใหญ่อย่าง British Airways และสายการบินต้นทุนต่ำทั้ง EasyJet เเละ Ryanair ได้ร่วมกันยื่นคำร้องเพื่อคัดค้านมาตรการดังกล่าวของรัฐบาล โดยระบุว่าเป็นการดำเนินการที่ “ไม่เหมาะสมและไม่เป็นธรรม”

Michael O’Leary ผู้บริหาร Ryanair แสดงความคิดเห็นต่อกรณีนี้ว่า “คนอังกฤษจะไม่สนใจการกักตัวนี้ พวกเขารู้ว่ามันไร้ประโยชน์” นอกจากนี้ยังมองว่าเป็นการสร้างความเสียหายต่อการจ้างงานหลายพันตำเเหน่งในธุรกิจท่องเที่ยวของสหราชอาณาจักร

ด้าน Matt Hancock รัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษ ยืนยันว่ากฎใหม่นี้มีความสมเหตุสมผล เพราะสัดส่วนการติดเชื้อที่มาจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น แต่พบผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศลดลง รัฐบาลจึงต้องเพิ่มการป้องกันการแพร่ระบาดระลอกสองจากต่างประเทศ ด้วยความระมัดระวังเเละเข้มงวดกว่านี้

 

ที่มา : CNA , theguardian

 

]]>
1282630
บทวิเคราะห์: เกมคอนโซลฮิตหนักช่วงกักตัว Nintendo Switch ปะทะ PS4 ใครตัวจริงในไทย https://positioningmag.com/1282103 Thu, 04 Jun 2020 18:28:58 +0000 https://positioningmag.com/?p=1282103 เขียน และวิเคราะห์โดย ขนิษฐา สาสะกุล

ไม่รู้เป็นเรื่องบังเอิญหรือจงใจที่ทำให้เกม Animal Crossing: New Horizons เปิดตัวประจวบเหมาะกับช่วงไวรัสโคโรนา หรือ COVID-19 แพร่ระบาดอย่างหนักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลให้ยอดขายเกมคอลโซลพุ่งสูงขึ้น

เกมขายดี จากล็อกดาวน์

โดยบริษัทวิจัยตลาด NPD Group ได้รายงานเมื่อไม่นานมานี้ว่ายอดขาย Nintendo Switch ในเดือนมีนาคม 2563 โตขึ้นกว่าสองเท่าตัวเมื่อเทียบกับยอดขายในช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว

ปรากฏการณ์ที่เกมคอลโซลได้รับความนิยมนี้เกิดจากการที่รัฐบาลของหลายประเทศในภูมิภาคประกาศปิดประเทศป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 หรือบางประเทศที่ยังไม่มีนโยบายดังกล่าวก็มีคำสั่งให้ยึดมาตรการ Social Distance ทำกิจกรรมประจำวันเว้นระยะห่างจากคนอื่น 1 เมตรขึ้นไป

ซึ่งอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ร้าน เกม หรือธุรกิจเสี่ยงต่างก็ได้รับคำสั่งให้ปิดกิจการชั่วคราวด้วย ส่งผลให้สาวกเกมมากมายเลือกเฟ้นหาเกมคอลโซลที่ถูกใจมาไว้ในครอบครอง

Nintendo Switch ครองแชมป์ความนิยม

iPrice Group บริษัทอีคอมเมิร์ซเปรียบเทียบราคาสินค้าออนไลน์ ออกมาทำวิจัยวัดเรตติ้งเกมคอนโซลแบรนด์ไหนได้รับการค้นหามากที่สุดในภูมิภาค โดยเก็บข้อมูลจากการค้นหากว่า 1.5 ล้านครั้งที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มของ iPrice ทั้งในไทย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์ และฮ่องกง

ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า Nintendo Switch เป็นเครื่องเล่นวิดีโอเกมที่ได้รับความนิยมสูงสุดตามที่คาด โดยขายดีเป็นลำดับต้นๆ ใน 5 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย, สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์, ฮ่องกง และไทย ส่วนอีกสองตลาดเวียดนามกับอินโดนีเซีย PS4 แบรนด์คู่แข่งได้คว้าบัลลังก์ไปครอง

ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนเมษายน ความสนใจของสาวกเกมที่มีต่อ Nintendo Switch บนแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ในภูมิภาคเพิ่มขึ้นถึง 245% เปรียบเทียบกับ PS4 ที่เพิ่มขึ้น 135% ในขณะที่ความสนใจสำหรับ Xbox One เพิ่มขึ้น 202%, PS3 เพิ่มขึ้น 170% และ PS Vita เพิ่มขึ้น 47% ตามลำดับ

ภาพรวมความสนใจเกมคอนโซลในภูมิภาค

  • ตลาดอินโดนีเซีย

เป็นประเทศที่มีประชากรหนาแน่นเป็นอันดับที่ 4 ของโลก มีกระแสความนิยมของ Nintendo Switch คิดเป็น 61% ของสาวกเกม PS4 และที่น่าประหลาดใจคือเกมคอนโซลยอดนิยมรองจาก Nintendo Switch กลับเป็น PS3 ที่เปิดตัวมานานกว่า 13 ปีแล้ว ยิ่งตอกย้ำความเป็นแฟนพันธุ์แท้ PlayStation ที่อาจดัน Nintendo Switch หลุดวงโคจรไปเมื่อไหร่ก็ได้

  • ตลาดเวียดนาม

อีกหนึ่งตลาดที่ PS4 คว้าแชมป์ไปครองแซงหน้า Nintendo Switch ต่างตรงผู้ที่ตามมาคือ Xbox one อาจกล่าวได้ว่าไม่มีแฟนพันธุ์แท้ในตลาดเกมคอนโซลประเทศนี้ ถ้าใครเจ๋งจริงบัลลังก์ก็เปิดให้ขึ้นไปครองได้เสมอนั่นเอง

nintendo switch
Photo : Shutterstock
  • ตลาดมาเลเซีย และฟิลิปปินส์

มีความคล้ายคลึงกัน โดยที่ผลการค้นหามากที่สุดคือ Nintendo Switch ตามมาด้วย PS4 และ PS3 ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าสาวกเกมคอนโซลในประเทศนี้ต่างตามเทนรด์นิยม หรือไม่สาวก PlayStation อาจอยากทดลองของใหม่ก็เป็นได้

  • ตลาดสิงคโปร์ และฮ่องกง

มีความสนใจใกล้เคียงกัน โดยแบรนด์ที่ได้รับการค้นหามากที่สุดคือ Nintendo Switch ตามมาด้วย PS4 และ Xbox one

ไฮไลต์ที่น่าจับตามองในตลาดไทย

แม้ Nintendo Switch จะเป็นแบรนด์เกมคอนโซลที่ครองความสนใจสาวกเกมในไทยขณะนี้ แต่ก็ยังมีคู่แข่งที่ขับเคี่ยวกันมาตลอดอย่าง Xbox One และ PS4 ซึ่งไม่แน่ว่าอาจโดนเลื่อยขาเก้าอี้เมื่อไหร่ก็ได้ มาดูไฮไลต์ที่สำคัญในตลาดเกมคอนโซลไทยกัน

  • ใน 7 ประเทศ ไทยถือเป็นตลาดเกมคอนโซลที่น่าจับตามอง เพราะจากข้อมูลความสนใจค้นหาเกมทั้งสามแบรนด์ พบว่า Xbox one ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ในตลาดเวียดนาม, สิงคโปร์, ฮ่องกง และไทย แต่มีเพียงตลาดไทยเท่านั้นที่ Xbox one ครองอันดับใกล้เคียง Nintendo Switch
  • เป็นเรื่องน่าตกใจที่ในไทยแทบจะไม่มีการโปรโมต Nintendo Switch เลย ทั้ง ๆ ที่ความสนใจต่อเกมคอนโซลแบรนด์นี้มาเป็นอันดับที่หนึ่ง
  • ในภูมิภาค ไทยค้นหา Nintendo Switch เป็นอันดับสามที่ 208% ตามหลังเวียดนาม 432% และสิงคโปร์ 241%

นอกเหนือจากนั้น สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ Play Station Vita เกมคอนโซลแบรนด์ Sony ซึ่งปัจจุบันไม่ได้รับการพัฒนาแล้ว แต่กลับกลายเป็นเครื่องเล่นวิดีโอเกมที่ได้รับความนิยมมากเป็นลำดับที่ 4 ใน 5 ประเทศจากทั้งหมด 7 ประเทศ และได้รับการจัดลำดับที่สูงกว่า Xbox One ทั้งในมาเลเซีย, อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ แสดงให้เห็นว่าสินค้าตัวนี้ยังขายได้อีกนาน

]]>
1282103
เทรนด์ “ปลูกต้นไม้” มาแรง! ร้านขายดีเท่าตัว ผลจากคนอยู่บ้าน-กระแสแต่งห้องสไตล์เกาหลี https://positioningmag.com/1280265 Sat, 23 May 2020 13:32:41 +0000 https://positioningmag.com/?p=1280265 หนึ่งในสินค้าขายดีสวนทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาคือ “ต้นไม้” อานิสงส์จากการกักตัวอยู่บ้านเลี่ยง COVID-19 ทำให้ผู้บริโภคหันมาสนใจการทำบ้านให้น่าอยู่ ผนวกกับกระแสการแต่งห้องสไตล์เกาหลีมินิมอลที่ควรมีต้นไม้เป็นองค์ประกอบ ทำให้เทรนด์ “ปลูกต้นไม้” มาแรง วัดได้จากคำค้นใน Google Trends และปากคำของพ่อค้าแม่ค้าตลาดต้นไม้จตุจักรที่ขายดีขึ้นเป็นเท่าตัว

สถานการณ์บีบบังคับให้ช่วงที่ผ่านมาทุกคนต้องหาความสุขจากการอยู่ในบ้าน ด้วยเหตุนี้บรรดาของแต่งบ้านโดยเฉพาะ “ต้นไม้” จึงเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคสนใจมากขึ้น

วัดได้จากการค้นคำว่า “ปลูกต้นไม้” “กระบองเพชร” “กระถางต้นไม้” และ “แต่งห้อง” ด้วยเครื่องมือ Google Trends ทั้ง 4 คำมีการค้นหาที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดช่วงหลังวันที่ 28 มีนาคม 63 หลังจากมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ และขึ้นไปพีคสูงสุดช่วงวันที่ 3-9 พฤษภาคม 63 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มคลายล็อกดาวน์ระยะ 1 ผ่อนปรนเปิดตลาดได้

หากเทียบระหว่างก่อนประกาศล็อกดาวน์พื้นที่ชุมนุมชนกับช่วงที่คำค้นเหล่านี้ขึ้นไปพีคสูงสุด อัตราการค้นหาสูงขึ้น 25-100% เลยทีเดียว

 

ขายดีเท่าตัว ขายออนไลน์ขึ้นราคาได้อีก 50%

วันที่ 20 พฤษภาคม 63 Positioning ลงพื้นที่ “ตลาดต้นไม้จตุจักร” ที่ได้รับอนุญาตให้กลับมาเปิดทำการเป็นสัปดาห์ที่สอง เพื่อสอบถามยอดขายที่แท้จริงเทียบกับกระแสในอินเทอร์เน็ตว่าสอดคล้องกันหรือไม่ ปรากฏว่า ร้านค้าทุกร้านขายดีขึ้นกว่าช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนปิดตลาดป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โดยส่วนใหญ่บอกว่า “ขายดีขึ้นเท่าตัว” และสำหรับร้านที่เปิดขายออนไลน์ควบคู่ยิ่งได้ประโยชน์

ตลาดต้นไม้จตุจักร

นุชนาฏ ศรีสุวรรณ เจ้าของร้าน CACTUSHOME_X เปิดขายในตลาดต้นไม้จตุจักรมา 1 ปี จำหน่ายเฉพาะต้นกระบองเพชร บอกกับเราว่า “เซอร์ไพรส์” มากที่คนสนใจต้นไม้มากขึ้น จากเดิมเกรงว่าจะมียอดขายต่ำลงเพราะลูกค้าอาจจะประหยัดค่าใช้จ่าย ในทางตรงข้าม ตั้งแต่มีการกักตัวอยู่บ้านเธอมีรายได้ดีขึ้นอย่างน้อย 1 เท่าตัว จากปกติทำกำไรได้วันละ 5,000 บาท ขึ้นมาเป็น 10,000 บาท บางวันมากกว่าปกติ 2-3 เท่า

ช่วงที่ตลาดต้นไม้จตุจักรปิดไป นุชนาฏหันไปขายผ่านหน้าร้าน “ออนไลน์” แทน โดยสามารถทำกำไรได้เพิ่มขึ้นด้วยจากการปรับราคาขึ้น 50% เช่น เดิมขายอยู่ที่ตลาดในราคา 100 บาท ปรับเป็น 150 บาท แต่กลับขายดีกว่าเดิม แม้ตลาดจะกลับมาเปิดทำการแล้วแรงซื้อก็ยังไม่ตก

กระบองเพชร ต้นไม้ขายดี มีลูกค้าให้ความสนใจมาก

ส่วนร้านที่เน้นขายส่งในตลาดที่ได้สอบถามมาพบว่า ไม่มีการปรับไปขายออนไลน์แทนในรอบเกือบ 2 เดือนที่ปิดตลาดจตุจักรไป ทำให้ไม่มีรายได้หรือมีน้อยมาก โดยมาจากคำสั่งซื้อล่วงหน้าที่ยังให้จัดส่งอยู่ แต่หลังจากเปิดตลาดอีกครั้งพบว่ายอดขายพุ่งจากช่วงก่อนปิดตลาดเช่นกัน

“เปิดมาก็ขายดีเลย ไม่ถึงกับเพิ่มเท่าตัวแต่ก็ดีขึ้น ส่วนใหญ่เป็นขาประจำที่รับไปขายต่อ คาดว่าหน้าร้านเขาคงจะขายหมดแล้ว กลุ่มนี้จะมารับไปเยอะมาก” ข้อมูลจากร้านพี่มะยมที่เปิดขายต้นไม้และกระถางในจตุจักรมานานกว่า 10 ปี

บรรยากาศลูกค้าเลือกชมต้นไม้ในตลาดจตุจักร

อย่างไรก็ตาม พ่อค้าแม่ค้าก็มีความกังวลว่ากระแสอาจจะเริ่มลดลงหลังจากนี้ โดย “สมนึก หรุ่นรุ่งเรือง” เจ้าของ ร้านสมนึกพฤกษา เปิดขายไม้ดอกมานานกว่า 35 ปี กล่าวว่า สัปดาห์แรกหลังเปิดตลาดทำยอดขายเพิ่มขึ้นกว่าเดิมเท่าตัว จากวันละ 10,000 บาทเป็น 20,000 บาท แต่มาถึงสัปดาห์ที่สองเริ่มซาลงไป เหลือวันละ 17,000-18,000 บาท

สมนึกกล่าวว่า ลูกค้าขาจรเริ่มลดลงในสัปดาห์ที่สอง อาจเพราะศูนย์การค้าเริ่มเปิดทำการแล้ว ทำให้ลูกค้าเลือกเดินห้างฯ มากกว่าเดินตลาด

จากการเดินสำรวจตลาดต้นไม้จตุจักร เราพบว่า กลุ่มวัยรุ่น วัยหนุ่มสาว ที่มาเดินเลือกซื้อมีไม่น้อยเลยทีเดียว และพ่อค้าแม่ค้าต่างยืนยันว่าพบคนหนุ่มสาวเข้ามาเดินหาซื้อเพิ่มขึ้น จากปกติส่วนใหญ่เป็นกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ามาซื้อราคาส่งเพื่อไปขายต่อ

 

ไลฟ์สไตล์แต่งห้องแบบเกาหลี-มินิมอลช่วยส่ง

แล้วทำไมจึงเป็น “ต้นไม้” เมื่อพูดถึงการแต่งห้อง? กระแสหนึ่งที่มาแรงในหมู่วัยรุ่น-วัยหนุ่มสาวในช่วงที่ผ่านมาคือ การแต่งห้องสไตล์เกาหลีแบบมินิมอลๆ ประกอบด้วยห้องสีเอิร์ธโทน สีขาว เบจ น้ำตาล เทา และมักจะใช้ต้นไม้สีเขียวประดับห้องให้ดูสดชื่น ใกล้ชิดธรรมชาติ

แต่งห้องสไตล์มินิมอล (Photo by Daria Shevtsova, Vlada Karpovich, Carlos Diaz)

กระแสแต่งห้องสไตล์นี้มีมาแล้ว 1-2 ปี แต่เมื่อการแต่งห้องเป็นไลฟ์สไตล์ใหม่ที่นิยมในช่วงกักตัว ยิ่งทำให้เทรนด์ห้องแนวเกาหลี/มินิมอลมาแรง

โดยมีคอนเทนต์ประเภท “Room Tour” หรือการที่อินฟลูเอนเซอร์/คนดังในโลกออนไลน์พาชมการแต่งห้องของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบวิดีโอหรือรูปถ่าย และมักจะมีต้นไม้อยู่ในนั้น ทำให้วัยรุ่นหันมาสนใจ “ปลูกต้นไม้” มากกว่าเดิม โดยเฉพาะต้นไม้กลุ่มที่เลี้ยงง่ายและปลูกไว้ในห้องได้ เช่น กระบองเพชร พลูด่าง มอนสเตร่า กวักมรกต ฯลฯ

เทรนด์ผู้บริโภคแบบนี้อาจจะยังเป็นที่สนใจอีกระยะหนึ่ง เมื่อชีวิตคนยังไม่กลับมาเป็นปกติและต้องอยู่ในบ้านเป็นหลัก เป็นโอกาสของพ่อค้าแม่ค้าและนักการตลาดที่อาจจะปรับสินค้าให้เข้าเทรนด์ฮิตแบบนี้กันได้!

]]>
1280265
คนไทยดูอะไรมากสุดบน YouTube ในช่วงกักตัว… เรียนออนไลน์ยัน “ซุปกิมจิเต้าหู้อ่อน” https://positioningmag.com/1277658 Sat, 09 May 2020 15:39:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1277658 Google เปิดข้อมูล Think with Google ที่ช่วยวิเคราะห์ และค้นหาข้อมูลเชิงลึกเพื่อการมองเห็นพฤติกรรมของผู้บริโภค ได้เปิดเผยถึง 5 พฤติกรรมของคนไทยที่สนใจเข้าชมเรื่องราวต่างๆ บน YouTube ในช่วง Social Distancing ท่ามกลางสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนทั่วโลก

โดยในช่วงที่หลายคนกักตัวอยู่บ้านจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้ผู้คนหันมาใช้วิดีโอออนไลน์เพื่อช่วยในการปรับตัวกับการอยู่บ้าน หรือหากิจกรรมทำในยามว่าง ซึ่งเหล่า YouTube Creator ได้มาช่วยกันสร้างวิดีโอที่หลากหลายแนวออกมาเพื่อให้ผู้คนทั่วไปสามารถปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตประจำวัน

โดย Think with Google ได้รวบรวมคอนเทนต์วิดีโอ 5 ประเภทที่ผู้ชมในประเทศไทยให้ความสนใจในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมานี้มีดังนี้

1. เรียนออนไลน์

การรณรงค์ให้เว้นระยะห่างในสังคม Social Distancing ส่งผลให้แคมเปญ #WithMe นำโดยเหล่า Creator ที่มาสร้างความบันเทิงและตอบโจทย์ความสนใจแนวต่างๆ ได้รับความนิยมมากขึ้น หนึ่งในแนววิดีโอที่ได้รับความนิยม ได้แก่ วิดีโอแนว “Learn with Me” (เรียนด้วยกัน) ที่ช่วยตอบสนองความต้องการในการพัฒนาตัวเองผ่านคลาสเรียนออนไลน์

ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาคนไทยค้นหาคำว่า “เรียนออนไลน์” บน YouTube เพิ่มมากขึ้น 25x เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากวิดีโอจาก Creators และทาง Google เองก็มีคอร์สเรียนออนไลน์ฟรีสำหรับทุกคนจาก Grow with Google เพื่อช่วยคุณพัฒนาทักษะดิจิทัลในช่วงอยู่บ้านด้วย

2. ทำเมนูง่ายๆ จากของในครัว

หนึ่งในกิจกรรมยอดฮิตที่คนไทยเลือกทำในช่วงที่ต้องอยู่บ้านเป็นเวลานานๆก็คือการสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาคนไทยค้นหา “เมนู” บน YouTube เพิ่มมากขึ้นจากปีที่แล้วถึง 85% นอกจากการนำเสนอไอเดียสร้างสรรค์อาหารสำเร็จรูปให้น่าทาน และการสร้างสรรค์เมนูง่ายๆ จากไข่ เหล่า YouTube Creator ยังสอนเมนูตามเทรนด์ซีรีย์เกาหลีที่กำลังมาแรงในประเทศไทยเช่น ซุปกิมจิเต้าหู้อ่อน

3. หางานอดิเรกใหม่ๆ

สถานการณ์ความไม่แน่นอน และการปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตใหม่ๆ อย่างกะทันหันทำให้หลายคนต้องหางานอดิเรกใหม่ๆ เพื่อคลายความเครียดและความกังวล เราพบว่าผู้ชมหันมาพึ่งพาวิดีโอหลากหลายแนว ตั้งแต่วิดีโอคลายเครียดทั่วไปอย่างโยคะ ไปจนถึงวิดีโอแนวอื่นเพื่อหากิจกรรมทำแทนการออกนอกบ้าน เช่น การปลูกผักสวนครัว

เห็นได้ว่ายอดการค้นหาวิดีโอ “โยคะ” ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นถึง 245% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2019 ส่วนยอดการค้นหาคำว่า “ปลูก” เพิ่มขึ้น 144% จากปี 2019

4. ออกกำลังกายที่บ้าน

เมื่อต้องอยู่บ้าน ผู้ที่ชอบเข้าฟิตเนส หรือสตูดิโอออกกำลังกายเป็นประจำก็หันมาหาวิธีออกกำลังกายที่บ้านบน YouTube แทน เพราะ YouTube มีช่องฟิตเนสมากกว่า 8,000 ช่องจากทั่วโลก ที่สอนวิธีออกกำลังกายทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเผาผลาญไขมัน การสร้างกล้ามเนื้อ หรือการออกกำลังกายง่ายๆ ในห้องพัก

ในเดือนเมษายน 2020 ปริมาณการค้นหาคำว่า “ออกกำลังกาย” บน YouTube ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 3x เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว และนี่คือสัญญาณบอกว่าผู้คนยังคงออกกำลังกายอย่างเป็นกิจวัตร โดยใช้วิดีโอบน YouTube เป็นตัวช่วยแม้ในช่วงเวลาที่ท้าทายเช่นนี้

5. เข้าร่วมกิจกรรมนอกบ้านในรูปแบบใหม่

ถึงแม้ว่าในช่วงนี้คนไทยจะต้องใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น และไม่สามารถเดินทางออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านได้ พวกเขาก็หันมาพึ่งพา YouTube เพื่อทำกิจกรรมที่พวกเขาชอบ ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาเราพบว่าคนไทยหันมาดูวิดีโอเกี่ยวกับกิจกรรมที่เคยต้องเดินทางไปเข้าร่วม เช่น มวยไทย และการท่องเที่ยวมากขึ้น ทั้งๆ ที่ตอนนี้ยังไม่ใช่ช่วงเวลาของการเดินทาง หรือการแข่งขันมวยไทย

]]>
1277658